"เทพไท" โพสต์ตั้งคำถามเจรจาหยุดยิงไทย-กัมพูชา “ใครได้ใครเสีย?” ชี้อย่าเป็นละครตบตาประชาชน
เมื่อวันที่ 29 ก.ค.68 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์เฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” เรื่อง เจรจาสงบศึกไทย-เขมร ใครได้ใครเสีย?
การประชุมนัดพิเศษที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ในเวลา 15.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชีย ในฐานะประธานอาเชียน เป็นผู้ประสานงาน มีตัวแทนฝ่ายไทย คือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าคณะตัวแทนฝ่ายกัมพูชา มีนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา เป็นหัวหน้าคณะ
ผลการเจรจาของ 2 ฝ่าย บรรลุความตกลง 3 ข้อ คือ
1. หยุดยิงทันที และไม่มีเงื่อนไข ซึ่งจะมีผลภายใน 24.00 น. นี้ หรือเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค.
2. จัดให้มีการประชุมอย่างไม่เป็นทางการของผู้บังคับบัญชาทางทหารในพื้นที่ ระหว่างกองทัพภาคที่ 1 และ 2 ของไทย และกองทัพภาคที่ 4 และ 5 ของกัมพูชา ในวันที่ 29 ก.ค. เวลา 07.00 น.
3. จัดให้มีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทยกัมพูชา หรือจีบีซี (General Border Committee – GBC) ในวันที่ 4 ส.ค. โดยมีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพ
นับว่าเป็นความคืบหน้าระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะเป็นที่ถูกใจ หรือไม่เป็นที่ถูกใจคนไทยทั้งหมดก็ตาม แต่ในฐานะนักวิเคราะห์การเมือง จึงขอตั้งข้อสังเกตดังนี้
1.ขออย่าเป็นเครื่องมือหรือเบี้ยของประเทศมหาอำนาจ ที่ช่วงชิงการนำระหว่างสหรัฐอเมริกากับประเทศจีน
2.ขออย่าเป็นละครแสดงตบตาประชาชนเพียงชั่วครั้งชั่วคราว หลังจากนี้อาจจะมีเหตุรุนแรงขึ้นมาอีก
3.ขอให้ข้อตกลงหยุดยิง เป็นข้อตกลงที่ยั่งยืน ต้องมีหลักประกันว่า จะไม่หวนกลับคืนมา อีกเหมือนกับในอดีต
4.ขอให้ประเทศมหาอำนาจ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจรจาสงบศึก ต้องค้ำประกันข้อตกลง และทุกฝ่ายต้องปฎิบัติอย่างเคร่งครัด
5.ขออย่าให้ชีวิตของทหารทหาร ที่พลีชีพไป11คน และประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุความรุนแรง 14 คน บาดเจ็บ 38 คน สูญเปล่าไม่มีผลอะไรเลยหรือ?
6.ขอให้รัฐบาลนำเหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นบทเรียน ค้นหาความจริงต้นตอของปัญหาว่าเกิดขึ้นจากความขัดแย้งของคน2ตระกูลหรือไม่ และต้องแสดงความรับผิดชอบทางการเมืองด้วย
7.ประเด็นสุดท้ายข้อเสนอของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ เรื่องกำแพงภาษี ยังยืนยันเงื่อนไข เจรจาลดภาษีให้ประเทศไทยอย่างไรหรือไม่
ขอให้รอดูว่าการเจรจาสงบศึกครั้งนี้ ประเทศไทยจะได้คุ้มเสียหรือไม่ และเป็นที่พึงพอใจประชาชนคนไทยทั้งประเทศหรือไม่