‘สว.นพดล’ จ่อชงญัตติแก้ปัญหา ‘อาชญากรรมไซเบอร์-แก๊งคอลเซ็นเตอร์’ 15 ก.ค.นี้
เมื่อวันที่ 12 ก.ค. นายนพดล อินนา สว. เปิดเผยว่า เตรียมเสนอญัตติตั้งกรรมาธิการ (กมธ.) ศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งเรื่องนี้เป็นปัญหามานานมาหลายปีแล้ว โดยเฉพาะเรื่องปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตนเป็นคนพูดในวุฒิสภาเป็นคนแรกๆ ซึ่งปัญหานี้รัฐบาลก็ดำเนินการมาตลอด และถึงแม้จะมี พ.ร.ก.ไซเบอร์ ฉบับใหม่ แก้ปัญหาบังคับใช้มาหลายเดือนแล้ว แต่ปัญหาก็ยังไม่ลดลงเท่าที่ควร หรือยังไม่ลดลงแบบมีนัยสำคัญ จึงคิดว่าวุฒิสภาควรเข้ามามีส่วนในการเข้ามาศึกษาและเสนอแนะ เพราะวันหนึ่งเราเสียเงินกับเรื่องนี้ร่วม 100 ล้านบาทต่อวัน ถือว่าเยอะมาก ปีหนึ่งตก 2-3 หมื่นล้านบาท เราสามารถอำนวยประโยชน์ได้อย่างมากมาย สว. เราได้ตระหนักถึงเรื่องนี้ จึงเสนอญัตติขึ้น หากเราเอาจริงเอาจังบังคับใช้กฎหมาย มันก็ไม่ยาก เพราะผู้ประกอบการตามแนวชายแดนก็เป็นคนไทยเป็นส่วนใหญ่ เพื่อนบ้านใช้สัญญาณต่างๆ ของประเทศไทยแล้วกลับมาทำร้ายประเทศไทยเอง
เมื่อถามว่ามองว่าในช่วงที่รัฐบาลสั่นคลอนแบบนี้ จะแก้ปัญหาได้หรือไม่ นายนพดล กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเสถียรภาพมากนัก เพราะปัจจุบันนี้ จะเห็นว่าไม่ว่าจะเป็นกระทรวงสำคัญ กระทรวงหลักก็ขึ้นอยู่กับพรรคแกนนำ ซึ่งก็เป็นพรรคเดียวกัน ตนมองว่าจะแก้ปัญหาได้ง่ายกว่าครั้งที่แล้วด้วยซ้ำไป เพราะตอนนั้นเป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรค
“งานนี้ถ้ารัฐบาลสามารถแก้ไขได้ดี ก็จะเป็นผลงานของรัฐบาล ในทางกลับกัน ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเป็นผลเสีย จะโทษใครก็ไม่ได้ เพราะอำนาจในการสั่งการเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ขึ้นอยู่กับรัฐบาลโดยตรง” นายนพดล กล่าว
สำหรับสาระสำคัญของญัตติดังกล่าว ระบุว่า ด้วยในปัจจุบันประเทศไทยกำลังประสบกับปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิต ของประชาชนอย่างรุนแรง และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสังคมในวงกว้าง โดยที่กลไกของรัฐไม่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้อย่างทันท่วงที ได้แก่ ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์และเชื่อมโยงกันเป็นโครงข่ายกับปัญหาการพนันออนไลน์และยาเสพติด ทำให้จำนวนคดีอาชญากรรม สูงขึ้นมาก ส่งผลเสียต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมของครอบครัวคนไทยสูงมาก
ซึ่งเว็บไซต์กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ระบุว่า ความเสียหายของอาชญากรรมทางออนไลน์ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-18 มิ.ย. 68 มีมูลค่าถึง12,779,626,726 บาท โดยเจ้าหน้าที่สามารถอายัดบัญชีได้ทันเพียงร้อยละ 2 หรือเพียง 295,764,203 บาท ทั้งนี้ จากปัญหาภัยสังคมทั้งหมดข้างต้นที่เป็นเรื่องภัยคุกคามที่เร่งด่วนและกระทบอย่างรุนแรงต่อสังคมไทย จนเกินกว่าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะรับมือป้องกันได้อย่างทันท่วงที จึงสมควรที่วุฒิสภาจะมีข้อเสนอแนะหรือให้คำแนะนำและร่วมเร่งหาทางแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภาเป็นประธานการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) เมื่อวันที่ 9 ก.ค. ที่ผ่านมา โดยที่ประชุมได้มีการพิจารณาญัตติเสนอให้วุฒิสภาตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาที่มีความสำคัญ 4 ด้าน ในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 15 ก.ค. ประกอบด้วย 1.กมธ.วิสามัญศึกษาปัญหาและแนวทางแก้ไขเศรษฐกิจไทยอย่างยั่งยืน 2.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาสังคมที่ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของคนไทยในปัจจุบัน 3.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาและติดตามตรวจสอบการแก้ไขปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนของประเทศไทยแบบบูรณาการ และ 4.กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในประเทศไทย โดยมีกำหนดเวลาการพิจารณาศึกษา 90 วัน.