จ้องเขม็ง! เสือโคร่งโผล่มองทีมวิจัย สะท้อนผืนป่าห้วยขาแข้งยังสมบูรณ์
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แฟนเพจ "กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช" ได้ออกมาเผยเหตุการณ์น่าตื่นเต้นเมื่อทีมวิจัยจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้เผชิญหน้ากับเสือโคร่งป่าตัวหนึ่ง ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ขณะปฏิบัติภารกิจเก็บข้อมูลเชิงวิชาการ โดยเสือโคร่งตัวดังกล่าว ปรากฏตัวอย่างเงียบและจ้องมองทีมวิจัยอยู่ราว 5 วินาที สร้างความตื่นเต้นแต่ไม่เป็นอันตราย พร้อมสะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และเป็นหลักฐานสำคัญต่อการศึกษาพฤติกรรมสัตว์ป่าในธรรมชาติ
โดยเพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุข้อความว่า"ทีมวิจัยเสือโคร่งจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ได้รับประสบการณ์อันน่าตื่นเต้นและหาได้ยากยิ่ง เมื่อเผชิญหน้ากับเสือโคร่งป่าตัวหนึ่ง ที่ปรากฏกายและจ้องมองการทำงานของนักวิจัยอย่างเงียบงัน ภายในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วราว 5 วินาที ขณะที่ทีมวิจัยกำลังปฏิบัติภารกิจติดตามและเก็บข้อมูลเสือโคร่งในพื้นที่"
อีกทั้ง"เสือโคร่งตัวดังกล่าวได้แอบซุ่มมองจากระยะไกล ด้วยสายตาที่เฉียบคม และเต็มไปด้วยความระมัดระวัง สร้างบรรยากาศที่ทั้งตื่นตา ตื่นใจ และชวนให้ระทึกในคราวเดียวกัน แม้จะเป็นเพียงเสี้ยววินาที แต่การเผชิญหน้าครั้งนี้ ถือเป็นข้อมูลล้ำค่าอย่างยิ่งต่อการศึกษาพฤติกรรมของเสือโคร่งในธรรมชาติ ทีมวิจัยเผยว่ายังไม่สามารถระบุตัวตนของเสือโคร่งตัวนี้ได้แน่ชัดว่าเป็นใคร หรือเป็นลูกของแม่เสือตัวใด สิ่งเดียวที่ยืนยันได้ คือ ไม่ใช่เสือหนุ่มสาวที่มักจะลงมาเล่นน้ำที่ลำทับเสลา ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พบ การที่ไม่สามารถระบุตัวได้ในทันทีนี้ อาจเป็นไปได้ว่าเสือตัวนี้เป็นสมาชิกใหม่ ที่ยังไม่เคยถูกบันทึกในฐานข้อมูลการวิจัย หรืออาจเป็นเสือที่อพยพมาจากพื้นที่อื่น"
นอกจากนี้ "สะท้อนให้เห็นถึงพลวัตของประชากรเสือโคร่งในป่า การปรากฏตัวของเสือโคร่งในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นประสบการณ์สุดพิเศษสำหรับนักวิจัยเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และสะท้อนประสิทธิภาพของการดูแลรักษาพื้นที่คุ้มครองสัตว์ป่า นอกจากนี้ ยังให้ข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับพฤติกรรมตามธรรมชาติของเสือโคร่ง ที่มักจะสำรวจและระมัดระวังต่อการเข้ามาของมนุษย์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการวางแผนอนุรักษ์กลุ่มงานวิชาการ"
อย่างไรก็ตาม "สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) ยังคงเดินหน้างานวิจัย และเฝ้าระวังเสือโคร่งในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรวบรวมข้อมูลอันจำเป็น สำหรับการกำหนดแนวทางการอนุรักษ์ที่มีประสิทธิภาพ การพบเจอในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องราวที่น่าจดจำ แต่ยังเป็นสัญญาณอันดีที่แสดงให้เห็นว่า ความพยายามในการดูแลรักษาพื้นที่ป่าและสัตว์ป่าของประเทศไทย กำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องและประสบความสำเร็จ"
ขอบคุณข้อมูล : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช