ใครยังอินกับฟุตซอลไทยบ้าง? อยากชวนมาฟินกันต่อในฟุตซอลไทยลีก ครึ่งฤดูกาลหลัง
แฟนฟุตซอลชาวไทย คงจะได้เห็นผลงานของทัพ "ช้างศึก" โต๊ะเล็กกันไปเป็นที่เรียบร้อย กับการคว้าแชมป์ Continental Futsal Championship 2025 ผ่านทางหน้าจอทรูวิชั่นส์
ภายใต้การคุมทัพของ มิเกล โรดริโก้ ในช่วงที่ทีมชาติไทย กำลังสร้างสายเลือดใหม่ขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ บนระบบการเล่นที่มีแบบแผน จะเห็นว่าในหลายเกมของทีมชาติไทยมีแท็คติกการเข้าทำที่หลากหลาย ทั้งโอเพ่นเพลย์ และการเล่นลูกตั้งเตะที่ถือเป็นทีเด็ดเอาไว้เปลี่ยนเกมยามเจอกับคู่แข่งที่รับเหนียวแน่น
แม้จะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่มาครอบโปรแกรมอุ่นเครื่อง และคู่แข่งหลายชาติก็มีความแตกต่างจากทีมชาติไทยพอสมควร แต่เกมที่เจอกับทีมที่มีมาตรฐานต่ำกว่า เราก็สามารถโชว์ฟอร์มได้สมราคา ในขณะเดียวกันยามเจอกับทีมจากยุโรป เราก็เก็บชัยชนะและมีผลงานที่เป็นไปตามเป้าหมาย
แชมป์ Continental Futsal Championship 2025 ถือเป็นของขวัญเล็กๆที่วงการฟุตซอลมอบให้กับแฟนๆลูกหนังชาวไทยได้มีความสุขและรอยยิ้มในช่วงสถานการณ์บ้านเมืองที่เต็มไปด้วยข่าวหนักๆ
แม้ว่าจะจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย แต่แฟนโต๊ะเล็กที่ยังคงอินกับเสน่ห์ของฟุตซอลจะได้มันกันต่อเนื่องเพราะฟุตซอลไทยลีก จะกลับมาแข่งขันอีกครั้งในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังอีกครั้ง ในสุดสัปดาห์นี้ทันที่ (วันที่ 9 สิงหาคม 2568)
แถมสถานการณ์ในตารางคะแนนก็กำลังเข้มข้น โดยเฉพาะการแย่งชิงตำแหน่งแชมป์กันระหว่าง สโมสรห้องเย็นท่าข้าม ทีมแชมป์เก่า ที่จบครึ่งซีซั่นแรกด้วยการรั้งจ่าฝูง
กับ สโมสรการท่าเรือ เอเอสเอ็ม ที่ต้องการทวงบัลลังก์คืน โดยผ่านเลกแรก พวกเขาไล่จี้จ่าฝูงแบบหายใจลดต้นคอ ตามหลังแค่คะแนนเดียวเท่านั้น พ่วงด้วยผลงานยังไม่แพ้ใคร
เมื่อหันมองตัวผู้เล่นทั้งสองทีมยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้กับการแย่งชิงไปอีก เพราะเต็มไปด้วยขุมกำลังระดับทีมชาติ อย่างในชุดลุยศึก Continental Futsal Championship 2025 ก็มีชื่อผู้เล่นทั้งสองทีมรวมกันทั้งหมด 10 คน จากจำนวน 16 คน เป็นของ ห้องเย็นท่าข้าม 6 คน และฝั่ง การท่าเรือฯ 4 คน ประกอบไปด้วย
รายชื่อนักฟุตซอลทีมชาติไทย ของ ห้องเย็นท่าข้าม และ การท่าเรือ เอเอสเอ็ม
1.นัทธพงศ์ หยีมะเหรบ (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
2. อิทธิชา ประภาพันธ์ (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
3. อลงกรณ์ จันทร์พร (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
4. อนันตชัย ปราบวงษา (การท่าเรือ เอเอสเอ็ม)
5. สราวุท ผลาพฤกษ์ (ห้องเย็นท่าข้าม)
6. อธิปพงศ์ มุ่นพลาย (ห้องเย็นท่าข้าม)
7. อัมรินทร์ เอกาพันธ์ (ห้องเย็นท่าข้าม)
8. เทอดศักดิ์ เจริญพงษ์ (ห้องเย็นท่าข้าม)
9. เชาว์วาลา ศรีอาวุธ (ห้องเย็นท่าข้าม)
10. วรศักดิ์ ศรีหรั่งไพโรจน์ (ห้องเย็นท่าข้าม)
นี่คือสายเลือดใหม่ของวงการฟุตซอลไทย เชื่อว่าหลังผลัดใบจากยุค "กัปตันช้าง" กฤษดา วงษ์แก้ว, "อาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง, "เนิร์ส" จิรวัฒน์ สอนวิเชียร, "จ่าต็อป" เจษฎา ชูเดช หรืออีกหลายๆคนที่เคยฝากผลงานอันน่าประทับใจเอาไว้ แฟนโต๊ะเล็กก็เฝ้ารอว่าอนาคตของฟุตซอลไทยจะเป็นอย่างไร และหลายคนก็ตั้งคำถามว่าสายเลือดใหม่ที่ขึ้นมาทดแทนจะพาทีมไปได้ไกลขนาดไหน
แฟนฟุตซอลบางคนอาจจะห่างหายและไม่ได้ติดตามข่าวสารฟุตซอลไทยอย่างต่อเนื่อง หรือบางคนอาจจะรอดูแค่ในการแข่งขันระดับนานาชาติ แต่สำหรับแฟนๆที่ติดตามลึกลงมาถึงระดับลีก ก็คงจะมีชื่อนักเตะคนที่หมายตาเอาไว้ว่าจะฝากอนาคตของชาติไว้กับพวกเขา เพราะต้องยอมรับว่าชุดนี้แค่บางส่วน หลายคนที่อยู่ในข่ายทีมชาติก็ไม่ได้ติดทีมมา เชื่อว่ากุนซืออย่าง มิเกล โรดริโก้ คงจะทดลองอะไรบางอย่างกับการทำทีมชาติไทยไว้ลุยทัวร์นาเมนต์ระดับเมเจอร์
มีแฟนๆจำนวนไม่น้อยที่เพิ่งได้โอกาสกลับมาดูการแข่งขันของทีมชาติไทย ในศึก Continental Futsal Championship 2025 ซึ่งพอได้เห็นฝีเท้าของคลื่นลูกใหม่แบบเต็มๆตาผ่านทางทรูวิชั่นส์ ต่างก็ออกปากชมเป็นเสียงเดียวกันถึงพัฒนาการที่สามารถยกระดับขึ้นมา เพราะดูแต่ละคนเล่นอย่างมีระบบ มีวินัย บนแบบแผนที่โค้ชวางไว้
นอกจากนั้นดูความสามารถเฉพาะตัวของนักเตะแต่ละคนต่างก็มีทีเด็ดเป็นของตัวเอง ชุดแรกที่ส่งลงสนามกับชุดสองแทบจะไม่มีความเหลื่อมล้ำ นักเตะแต่ละคนสามารถทดแทนกันได้เป็นอย่างดีทุกๆตำแหน่ง ไม่เว้นแม้แต่ผู้รักษาประตู
แถมแฟนๆที่ได้เห็นฝีเท้าของ มูฮัมหมัด อุสมานมูซา ดาวยิงสังกัดทีมจิมบี คาร์ตาเญน่า เจ้าของแชมป์ลีกสเปนหมาดๆ ที่สามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่านี่คือระดับโลกของจริง แบบไม่ต้องอวย เพราะเขาพิสูจน์ตัวเองให้เห็นมาแล้ว
คุยกันมาถึงตรงนี้มีเรื่องอยากเล่าให้ฟังต่อกันสนุกๆในฐานะที่อดีตเมื่อหลายปีก่อนเคยไปทำข่าวและติดตามฟุตซอลไทย ผมได้โอกาสเห็นฝีเท้าของเด็กคนนี้ ซึ่งเวลานั้นเขาอยู่ในระดับมัธยมปลาย เมื่อครั้งที่โรงเรียนราชวินิตบางเขน ส่งทีมเข้าแข่งขันในศึกเอฟเอคัพ โดยรอบคัดเลือกแข่งขันกันที่ ยิมเนเซียม ชั้น 12 มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า
ด้วยความที่โรงเรียนราชวินิตบางเขน เป็นทีมนอกลีก ทำให้ต้องไปเริ่มต้นแข่งขันตั้งแต่รอบคัดเลือก เล่นระบบแพ้คัดออก เพื่อหาทีมไปประกบคู่กับในลีก ซึ่งไม่มีเกมไหนง่าย เพราะเด็กระดับ ม.ปลาย ต้องโคจรไปเจอกับบรรดาทีมฟุตซอลเดินสายกึ่งอาชีพ แล้วแต่ละทีมเต็มไปด้วยเสือ สิงห์ กระทิง แรด บางทีมเล่นบดโหด เน้นลูกหนัก หรือพูดภาษาบ้านๆก็เตะขู่ให้เด็กมันกลัว
แต่เชื่อไหม ไม่ว่าคู่แข่งจะมาไม้ไหน เด็กของโรงเรียนราชวินิตบางเขน เอาอยู่หมด ไม่มีความเกรงกลัว และเล่นอย่างไร้ความกดดัน นิ่งเกินวัย สมกับเป็นยุคทีมเด็กเทพของวงการฟุตซอลขาสั้นในเวลานั้น ที่กวาดความสำเร็จในระดับโรงเรียน มามากมาย โดยเฉพาะยามลูกบอลอยู่กับ เด็กชายมูฮัมหมัด อุสมานมูซา มันมีทั้งความพลิ้ว ความเร็ว และเต็มไปด้วยความแข็งแกร่ง พิงๆ บังๆ เผลอแปปเดียวพลิกตัวซัดเต็มข้อ หรือคู่แข่งคนไหนเข้ามาแบบพรวดพราด ก็มีเหวอกลับไป เพราะเด็กหนุ่มคนนี้หลอกกินสบายๆ
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมาก็ได้ติดตามพัฒนาการของเด็กคนนี้มาตลอด ก่อนจะได้เซ็นสัญญาอาชีพครั้งแรกกับสโมสรแบงค็อก บีทีเอส ตั้งแต่ยังไม่ทันจบชั้น ม.6 จากนั้นก็ระเบิดฟอร์มเก่งในไทยลีก ก่อนจะไปอยู่กับ ชลบุรีฯ ที่มี ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ไอดอลของเขาช่วยขัดเกลาฝีเท้าให้แหลมคมยิ่งขึ้น แล้วก็โบยบินไปเล่นในสเปน เป็นคำรบแรก
วันเวลาผ่านไปเราคงได้เห็นกันแล้วว่า มูฮัมหมัด อุสมานมูซา คือความหวังใหม่ของวงการฟุตซอลไทย ทั้งการไปเปิดตลาดในเวทีระดับยุโรป ประกาศให้โลกได้รู้ว่าเด็กไทยก็สามารถไปไกลได้ เหมือนเป็นใบเบิกทางสู่ยุโรปให้กับเพื่อนๆที่จะได้โอกาสดีดีแบบเขาในอนาคต
ใครที่พลาดการติดตามฟุตซอลไทยลีก ในเลกแรกไปก็ไม่ต้องเสียดาย ท่านอาจจะไปตามดูไฮไลท์การแข่งขันย้อนหลังได้ ทางโซเชียลของช่อง truevisions เพื่อลองชิมรสชาติความมันของวงการฟุตซอลลีกบ้านเรา
นอกจากการแย่งชิงตำแหน่งแชมป์แล้ว สโมสรอื่นๆก็มีพัฒนาการที่ไม่ธรรมดา โดยเฉพาะเรื่องสนามเหย้าของตัวเอง ที่ต่างก็พยายามยกระดับให้มีมาตรฐานที่สูงขึ้น มีการจัดการอย่างเป็นมืออาชีพมากขึ้น จึงไม่แปลกใจที่หลายๆสโมสรจะมีแฟนๆเข้ามาเชียร์กันเต็มสนาม ส่งผลให้ภาพถ่ายทอดสดที่ออกมาดูน่าติดตาม และเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี
แอบกระซิบเบาๆว่านอกจาก 16 ตัวผู้เล่นที่ติดทีมชาติไทยครั้งนี้แล้ว ยังมีนักฟุตซอลหลายคนที่ฝีเท้าเข้าตา อยู่ในข่ายทีมชาติอีกเพียบ หรือจะเป็นนักเตะอดีตทีมชาติรุ่นเก๋าๆอย่าง กฤษดา วงษ์แก้ว กับ "อาร์ม" ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ที่กลับมาผนึกกำลังกันอีกครั้งในสีเสื้อบลูเวฟ ชลบุรี มันยิ่งทำให้ภาพบรรยากาศเก่าๆหวนกลับมา
หรือในรายของ "เนิร์ส" จิรวัฒน์ สอนวิเชียร ที่คอยคุมแดนหลังให้กับ ธรรมศาสตร์ สแตลเลี่ยน ที่ยังคงไว้ลาย เก็บกินสบายๆจากประสบการณ์และคลาสบอลที่ยังเหนือชั้น หรืออีกหลายต่อหลายคนที่ชื่อฟังคุ้นหูแฟนฟุตซอลไทยเป็นอย่างดี
แม้ ณ เวลานี้นักเตะดาวดังหลายคนจะกลายเป็นอดีตทีมชาติ แต่ชั้นเชิงต้องบอกว่ายังแพรวพราว จัดจ้าน เด็กรุ่นหลังอย่าหวังจะได้กินง่ายๆ หลายครั้งที่ต้องใช้คำว่า "เล่นให้เด็กมันดู" เพราะการแข่งขันนั้นเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมที่งัดมาสู้อย่างทันกัน ทำให้ตลอด 40 นาทีแบบเวลาหยุด มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจ
สำหรับใครที่อาจจะดูแค่ตารางคะแนนแล้วตัดสินว่า ห้องเย็นท่าข้าม กับ การท่าเรือฯ จะสนุกกันแค่ 2 ทีม เพราะจากผลงานที่ตำตา ซึ่งบอกได้เลยว่าคุณคิดผิด เพราะแม้ว่าแต้มจะดูห่าง แต่ไม่มีเกมไหนเป็นงานง่ายสำหรับพวกเขาเลย
อีกตัวแปรสำคัญที่น่าสนใจไม่น้อยคือตัวโควต้าต่างชาติที่แต่ละทีมต่างก็มีทีเด็ด พร้อมจะลงมาสร้างความแตกต่าง คิดเอาง่ายๆว่าถ้าต่างชาติไม่ดีจริงๆก็มาแย่งเบียดนักเตะไทยยากมากๆ เพราะฉะนั้นแต่ละคนต้องมีของ
การแข่งขันครึ่งซีซั่นแรกออกมาสนุกตื่นเต้น สมราคากับคำว่าฟุตซอลไทยไปไกลระดับโลก! แม้แฟนๆบางคนอาจจะยังไม่มีทีมเชียร์ แต่อยากให้ลองเปิดใจค่อยๆดูไปทีละเกมทีละคู่ บางทีท่านอาจจะเจอทีมที่ถูกจริตตัวเอง หรืออาจจะดูเอามัน ไม่ต้องเชียร์แบบเจาะจงสโมสรไหน แต่ขอให้เกมสนุก ยิงกระจาย ก็คู่ควรแก่การรับชมอย่างยิ่ง
การแข่งขันเลก2 แต่ละทีมจ้องที่จะรอล้ม 2 ทีมแย่งแชมป์ ต่างก็เตรียมการบ้านมารับมือเป็นอย่างดี ยิ่งทำให้การแข่งขันดูน่าติดตามมากขึ้น โดยแฟนๆสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทุกคู่ ผ่านทางแอปพลิเคชั่น ทรูวิชั่นส์ นาว ย้ำอีกครั้งว่าความมันในครึ่งซีซั่นหลังจะกลับมาอีกครั้งในสุดสัปดาห์นี้ ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!!!
อ่านเรื่องราวอื่นๆที่น่าสนใจ
- ว่าด้วยเรื่องฟุตซอลหญิง ที่อยากให้ทุกท่านเปิดใจดูสักครั้ง
- ประวัติ เลาตาโร่ มาร์ติเนซ กองหน้าขวัญใจ อินเตอร์ มิลาน
- ประวัติ "แม็กซ์ เวอร์สเตปเปน" แชมป์โลกF1 4สมัยซ้อนที่กำลังโดนท้าทาย!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "เจ้าเหม็ด" สุดปลื้มคว้า MVP แต่สำคัญกว่าที่ "ไทย" คว้าแชมป์
- "โค้ชมิเกล" ขอบคุณแฟนฟุตซอล หลังคว้าแชมป์ ศึกคอนติเนนตัล
- "โค้ชมิเกล" เตรียมปรับแท็คติค "ไทย" ก่อนดวล ซาอุฯ แย่งแชมป์ Continental
- วรศักดิ์ รับไม่ง่ายชนะ เบลารุส อ้อนแฟนบอลช่วยเชียร์รอบชิงฯ
- “โค้ชมิเกล” มั่นใจ ทีมฟุตซอลไทย ทะลุรอบชิงฯ ศึกคอนติเนนตัลฯ แชมเปี้ยนชิพ