ตำรวจขอศาลออกหมายจับ เจ้าคณะตำบล จ.เลย ถือปืนบุกยิงพระด้วยกัน
ตำรวจขอศาลออกหมายจับ เจ้าคณะตำบล จ.เลย ถือปืนบุกยิงพระด้วยกัน บาดเจ็บก่อนหลบหนี พร้อมแจ้ง 2 ข้อกล่าวหาหนัก
เมื่อเวลา 12.10 น. (5 ส.ค. 2568) ผู้สื่อข่าวติดตามความคืบหน้าไปที่ พบว่า พระครูถาวร เทวะธรรม เจ้าคณะ ต.ธาตุ เจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวะราช ม.3 ต.ธาตุ อ.เชียงคาน จ.เลย เข้าพบ พงส.สภ.เชียงคาน เพื่อให้ปากคำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย พระสุรไกร อายุ 42 ปี พระลูกวัดป่าเทพบัญฑิต ต.เขาแก้ว อ.เชียงคาน เข้าแจ้งความกับ พระอธิการมานพ ฐานวีโร (พระมหานพพร สิทธิจันทร์) เจ้าอาวาสวัดโพนสว่าง และเจ้าคณะ ต.เขาแก้ว เขต 2 อ.เชียงคาน (ผู้ก่อเหตุ) ว่าได้มีการส่งข้อความในไลน์ข่มขู่เอาชีวิต และให้ออกจาก อ.เชียงคาน ไม่อย่างงั้นจะฆ่าทิ้ง ซึ่งเป็นพระรูปที่สองที่ถูกข่มขู่เอาชีวิต ขณะเดียวกันสำนักพุทธ จ.เลย ได้เดินทางมาที่สอบถามความคืบและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
พระตำรวจรูปหนึ่ง ที่ไม่เปิดเผย เล่าว่า หลังทราบข่าวรีบมาสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยในเบื้องต้นทราบว่าพระที่ก่อเหตุและพระที่บาดเจ็บ เป็นพระรุ่นเดียวกัน โดยเมื่อวานช่วง 15.00 น. ของวันที่ 4 ส.ค. 2568 มีประชุมคณะสงฆ์ ที่วัดป่าศรีภูทอก อ.เชียงคาน มอบนโยบายให้เจ้าคณะตำบลทุกตำบล ไปบอกกับเจ้าอาวาสทุกวัดในพื้นที่ ต.ธาตุ อ.เชียงคาน ว่า จะมีเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบวัด แต่พระมหาโยธิน ผู้บาดเจ็บไม่ได้เข้าร่วมประชุมด้วย จนกระทั่งตอนเย็นจึงมาพบ พระถาวร เทวะธรรม เจ้าคณะ ต.ธาตุ เจ้าอาวาสวัดสวนธรรมเทวะราช สอบถามเรื่องการประชุม โดยมีพระมหามานพอยู่ด้วยก็ไม่ได้ทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน จนเกิดการยิงกัน สาเหตุคาดว่ามาจากการที่ ต.ธาตุ แบ่งออกเป็นสองฝ่าย และพระมหามานพคงน้อยใจ ที่กิจนิมนต์ไม่ค่อยมี จึงน้อยเนื้อต่ำใจเก็บความแค้นความโกรธจนมาก่อเหตุ
นายเอกชัย มูลราศรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ต.ธาตุ อ.เชียงคาน เล่าว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้นชาวบ้านที่นับถือและแรงศรัทธาเกิดขวัญเสีย ว่า ไม่น่าเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ปกติพระมหามานพเป็นพระนักเทศน์ที่ดี ส่วนการกระทำลึกๆ ไม่ทราบว่าเป็นคนอย่างไร ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากเรื่องตำแหน่งและกิจนิมนต์สงฆ์ ชาวบ้านอยากให้มอบตัว ถ้าไม่มามอบตัวชาวบ้านก็ระแวง โดยเฉพาะพระที่ถูกข่มขู่ กลัวไปหมด อยากให้ออกมามอบตัว
จากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ รพ.เมืองเลย พบ พระมหาโยธิน พักรักษาตัวอยู่ โดยมีพระลูกวัดมาเยี่ยมและให้กำลังใจ โดยเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ขณะนั้นนั่งหันหลัง พระมหามานพ เดินถือปืนเข้ามาด้านหลังโดยไม่พูดอะไร จากนั้นยิงปืนมาที่ตนเอง จนโดนที่ใบหูจนเลือดอาบ จากนั้นวิ่งหนีเอาตัวเองรอด ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องที่พระมหามานพคงน้อยใจเรื่องกิจนิมนต์มากกว่า คงเก็บไปคิดและมาก่อเหตุ ส่วนอาการตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว
ผู้สื่อข่าวสอบถามไป พ.ต.อ.สันติ ชูเชิด ผกก.สภ.เชียงคาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ผู้ต้องหาหลบหนีอยู่ วันนี้มีการสอบปากคำผู้เสียหายแล้ว จากนั้นช่วงบ่ายจะขออนุมัติศาลออกหมายจับพระมหามานพ โดยแจ้งข้อกล่าวหา 1.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ ส่วนการติดตามตัว ขณะนี้ ตร.ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่ และทราบเส้นทางหลบหนีแล้ว แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดมาก