“จตุพร” ปลุกมวลชนม็อบรวมพลังแผ่นดิน ให้กำลังทหาร ชี้ ทหารไม่ผิด ยึดปราสาทตาควายไม่ได้เต็มร้อย
นายจตุพร พรหมพันธ์ุ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน หนึ่งในแกนำกลุ่มชุมนุมรวมพลังแผ่นดิน ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดชุมนุม แสดงพลังห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่า เป็นการให้กำลังใจบรรดาทหารทุกส่วนในการทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยของชาติ ซึ่งจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมานั้น ภารกิจหลักคือการปกป้องอธิปไตย แต่สถานการณ์เดินมาถึงจุดที่เลวร้ายที่สุด เราเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก และให้พรรครัฐบาลถอนตัว แต่ก็เป็นข้อเรียกร้องที่มีความเลื่อนลอย เพราะไม่มีการแสดงความรู้สึกรับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น รวมถึงความตายของประชาชนและทหาร และการเสียดินแดนที่ปราสาทตาควาย ถือว่าได้สร้างความเสียหายขั้นสูงสุด ดังนั้น การที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ที่บินไปเจรจาหยุดยิง เป็นการเจรจาหยุดยิงโดยที่ไม่ได้ประเมินสถานการณ์ร่วมกับทหารนั้น แม้ว่าเราจะได้คืนหลายยุทธภูมิ แต่ก็ยังเหลือรอยด่าง ซึ่งจากสิ่งที่เราประกาศกันมาคือ ในแผ่นดินของรัชกาลที่ 10 จะไม่ยอมเสียดินแดนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว การไปเจอจาหยุดยิงที่ไม่มีเงื่อนไข จึงนำไปสู่การเสียดินแดนที่ปราสาทตาควาย ซึ่งตนนำเรื่องนี้ปราศรัยปิดท้ายในเวลา 21.00 น.
เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่าการยึดประสาทตาควายและช่องอานม้า เพราะรัฐบาลกดดันให้ทหารถอนทัพออกมา นายจตุพร กล่าวว่า ใครจะพูดยังไงก็ได้ แต่เราวัดผลที่การกระทำ การไปเจรจาที่ประเทศมาเลเซียถือว่าเป็นความผิดพลาด เราไม่ควรให้ชาติที่ 3 เข้ามายุ่งเกี่ยวตั้งแต่ต้น และคู่เจรจาต้องรู้สถานการณ์ในสมรภูมิทุกที่ โดยเฉพาะที่ประสาทตาควาย เมื่อกัมพูชาไม่ยอมหยุดยิงในเวลา 18.00 น. จนต้องขยายเวลาเป็น 24.00 น. รัฐบาลก็ต้องรู้ว่ากัมพูชามีภารกิจพิเศษ ต้องไม่รับเงื่อนไขดังกล่าว อีกทั้งหลังจากนั้น ก็ยังมีสถานการณ์ปะทะประปราย ดังนั้น เมื่อกัมพูชาไม่ทำตามข้อตกลง และเราเสียปราสาทตาควาย ก็ต้องยกเลิกข้อตกลงทั้ง 3 ข้อ เพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลง
นายจตุพร กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เรายังไม่เห็นคือความรับผิดชอบจากรัฐบาล การที่นายภูมิธรรมบินไปเจรจาการหยุดยิง เป็นการไปเสียที ประเทศอื่นจับมือกันทำให้ไทยเสียเปรียบ จนนำไปสู่การเสียประสาทตาควาย
“เราไม่ได้แพ้ในสงครามนี้เลย เราแพ้เพราะตัวแทนรัฐบาลได้แสดงความโง่ จะจงใจหรือไม่ก็ตาม นำไปสู่สิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น” นายจตุพร กล่าว
เมื่อถามว่า จะมีการจะยกระดับม็อบไปปักหลักชุมนุมใกล้ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ นายจตุพร กล่าวว่า ยังไม่ได้มีการปรึกษาหารือกัน ขอให้ใจเย็นๆ สถานการณ์ตอนนี้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร มีเวลาทำคำชี้แจงไปถึงศาลรัฐธรรมนูญในคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ขยายไปถึง 4 สิงหาคม และ กำหนดการของศาลรัฐธรรมนูญจะประชุมในวันที่ 6 สิงหาคม ซึ่งเราคาดว่า จะรู้ว่าศาลรัฐธรรมนูญจะนัดอ่านคำวินิจฉัยวันไหนอย่างไร