เงินเดือน 15,000 บาท ควรเป็นหนี้กี่บาท? ถึงจะไม่เจ็บตัว เปิดสูตรวางแผนกู้เงิน
เงินเดือน 15,000 บาท ควรเป็นหนี้กี่บาท? ถึงจะไม่เจ็บตัวจนเกินไป เปิดสูตรวางแผนกู้เงินตัวช่วยวางแผนการเงินในอนาคต
การไม่มีหนี้คือลาภอันประเสริฐ คำนี้ไม่เกินจริง เพราะด้วยในยุคนี้ที่ค่าครองชีพสูง รายได้น้อยลง รายจ่ายมากขึ้น ล้วนเป็นโจทย์ใหญ่สำหรับผู้ที่กำลังจะต้องการกู้เงินเพื่อนำมาเสริมสภาพคล่อง แต่ๆ การจะเป็นหนี้ในยุคนี้ต้องคิดให้รอบด้าน ว่าเรามีศักยภาพพอที่จะชำระหนี้ได้หรีอไม่ ดังนั้น หากเรารู้สูตรวางแผนกู้เงินว่าเราสามารถแบกรับภาระหนี้ได้เท่าไหร่ ก็จะช่วยให้เราบริหารจัดการสภาพคล่อง ความสามารถในการชำระหนี้ได้ชนิดที่ไม่ลำบากจนเกินไป
ล่าสุด ธนาคารออมสิน ได้แนะนำสูตรคำนวณเบื้องต้นที่จะช่วยให้เรารู้ว่าเงินเดือนของเราควรรับภาระหนี้ได้มากขนาดไหน ซึ่งสูตรนี้เรียกว่า DSR หรือ Debt Service Ratio คือ "สัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้" ที่ช่วยให้รู้ว่าเรายังสามารถกู้เพิ่มได้หรือไม่
โดย ธนาคารแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย ระบุ DSR ควรไม่เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน ตัวอย่าง สูตรคำนวณ DSR รายได้ต่อเดือน × 40 ÷ 100 = วงเงินผ่อนหนี้สูงสุดที่แนะนำ
ยกตัวอย่าง : เงินเดือน 15,000 บาท
สูตรคำนวณ คือ 15,000 x 40 ÷ 100 = 6,000 บาท
เท่ากับว่า ถ้าเงินเดือน 15,000 บาทต่อเดือน ภาระหนี้รวมทั้งหมดที่ควรมี (รวมบัตรเครดิต, ผ่อนรถ, ผ่อนบ้าน ฯลฯ) ไม่ควรเกิน 6,000 บาทต่อเดือน
สูตรประมาณการสัดส่วนภาระหนี้ต่อรายได้
รายได้ต่อเดือน (บาท) จำนวนเงินที่เป็นหนี้ได้ต่อเดือน (บาท) 15,000 6,000 20,000 8,000 25,000 10,000 30,000 12,000 35,000 14,000 40,000 16,000 45,000 18,000 50,000 20,000 55,000 22,000 60,000 24,000 65,000 26,000
ถ้าคิดจะกู้เงินควรวางแผนไว้ก่อน และควรจัดการอย่างเป็นระบบแนะนำ 3 ขั้นตอน
- เช็กรายได้สุทธิที่แท้จริง (หลังหักประกัน สวัสดิการ ฯลฯ) และหนี้สินทั้งหมดที่มีอยู่แล้ว ได้แก่ ภาระรายจ่ายประจำ เช่น ค่าเช่า ค่ากิน ค่าน้ำมัน เป็นต้น
- วางแผน แบ่งเงินออมฉุกเฉินไว้ก่อน คำนวณหนี้ผ่อนชำระต่อเดือนอย่างเหมาะสม มีเป้าหมายชัดเจน
- รู้จักปฏิเสธความอยากของตัวเอง อย่ากู้เพราะแค่อยากได้ หนี้ที่ไม่จำเป็น