สัมผัสแรก ทดสอบ VOLVO EX30 CROSS COUNTRY TWIN MOTOR

อัพเดต 1 วันที่แล้ว • เผยแพร่ 1 วันที่แล้ว

ภาพไฮไลต์

แน่นอนว่า EX30 Cross Country ก็คือ Volvo EX30 รุ่นยกสูงพร้อมการปรับแต่งอุปกรณ์เพื่อเพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน ถึงแม้ว่า EX30 รุ่นมาตรฐานจะอยู่ระหว่างรถแฮทช์แบ็กและครอสโอเวอร์ แต่ EX30 Cross Country รุ่นนี้ ทำตัวเป็น SUV ไฟฟ้าที่สมบูรณ์แบบและลุยโคลนได้อย่างเต็มที่ แค่ลงยาง AT เท่านั้นเอง EX30 Cross Country เดินตามรอย Volvo รุ่นใหญ่ หลายรุ่นด้านการปรับแต่งรถเดิมๆ จากรุ่นมาตรฐานให้กลายเป็นรถออฟโรดยกสูง แน่นอนว่า Cross Country รุ่นเก่านั้นได้รับความนิยมพอสมควร ส่วนรถ Cross รุ่นใหม่ของ Volvo ก็ยังคงเสน่ห์แบบสวีเดนที่ดิบเถื่อน จากภูมิประเทศในแถบสแกนดิเนเวียที่เต็มไปด้วยทางวิบาก หิมะและโคลนตม

Volvo EX30 Cross Country แตกต่างจาก EX30 รุ่นมาตรฐานยังไง?

อันดับแรกสุดคือ ความสูง EX30 Cross สูงขึ้น 19 มิลลิเมตร จากการปรับเปลี่ยนแชสซีส์ ส่วนที่เพิ่มขึ้นมา 7 มิลลิเมตร มาจากแก้มยางหนาๆ พร้อมล้อขนาด 19 นิ้ว และยาง Goodyear เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน หากชอบเอาไปลุยก็หาล้อ 17 นิ้ว พร้อมยาง AT จะขับบนเส้นทางออฟโรดได้ดีกว่ายางเดิมติดรถที่เมื่อเจอเข้ากับโคลนก็หมุนฟรีทิ้งจากดอกยางทางเรียบที่เล็กเกินไป ไม่เหมาะจะเอามาขับลุย แต่มันก็ลุยได้จริงๆแม้จะทุลักทุเลเป๋ปัดจากความลื่นของดินที่โดนน้ำฝนของพายุวิภา

EX30 Cross Country มีให้เลือกเฉพาะรุ่นมอเตอร์คู่เท่านั้น หมายความว่ามันใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ แม้จะเป็นมอเตอร์ไฟฟ้า (เหมือนกับที่อยากได้รุ่นขับเคลื่อนล้อหลังมอเตอร์เดี่ยว ที่สามารถลุยกรวดได้อย่างหนักหนาสาหัส) แต่ระบบส่งกำลังระดับท็อป ให้กำลังมากถึง 428 แรงม้า ทำอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใน 3.7 วินาที นั่นเป็นความเร็วน้องๆ ซุปเปอร์คาร์ ในราคา 1.8 ล้านบาท น่าตกใจอยู่เหมือนกันกับการเอาเปรียบเชิงกลของพวกสวีเดน ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูงที่ผลิตในจีน!

EX30 Cross Country 2025 เพิ่มแผ่นกันกระแทกด้านหน้าและด้านหลัง ขยายซุ้มล้อพลาสติกสีดำ ตามแบบฉบับของ Cross Country ด้านหน้าและด้านหลัง ตกแต่งด้วยพลาสติกเสริม หน้ากากหรือกระจังหน้าแบบใหม่ ใส่ภาพภูมิประเทศของเทือกเขา Kebnekaise ในแถบอาร์กติกของสวีเดน บ่งบอกถึงความเป็นขาลุยในดินแดนเขตหนาวเข้ากระดูกของพวกไวกิ้ง ดูช่างสมบุกสมบันเสียจริงๆ Cross Country มาพร้อมชิ้นส่วนสีดำด้าน เช่น แผงด้านหน้าและด้านหลังเพื่อปกปิดรอยขีดข่วน กระจังหน้าเปลี่ยนเป็นสีดำด้าน พร้อมลายเส้นที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแผนที่ภูมิประเทศของเทือกเขาทางตอนเหนือของสวีเดน ซึ่งเป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศ ส่วนประกอบอื่นๆ เคลือบด้วยสีดำด้านบริเวณซุ้มล้อ และแผงบนฝากระโปรงหลัง การเคลือบสีดำด้านเพื่อลดรอยขีดข่วนและรอยถลอกที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้จากการขับขี่บนเส้นทางทุรกันดาร เพื่อให้รูปลักษณ์ที่ดุดันของรถที่สร้างขึ้นเพื่อพิชิตเส้นทางขรุขระสมบูรณ์แบบ Cross Country ยังได้รับแผ่นกันกระแทกใต้กันชนหน้าและหลังเพิ่มเติมอีกด้วย นั่นทำให้มันเป็นรถที่ค่อนข้างโดนใจสายแคมป์ปิ้ง

ราคาเท่าไหร่?

EX30 Cross Country ขึ้นราคาไปพอสมควร ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1,890,000 บาท ไม่รวมชุดแต่ง Cross Country

จริงๆ แล้ว การเปลี่ยนช่วงล่างของ EX30 Cross Country ช่วยเพิ่มการขับขี่บนทางวิบากได้มากขึ้น EX30 รุ่นมาตรฐานมีช่วงล่างที่ค่อนข้างแข็ง เพื่อหลีกหนีสไตล์ของระบบรองรับในรถยนต์ไฟฟ้าจีนที่ส่วนใหญ่ออกไปในแนวนุ่มๆ ย้วยๆ แต่ EX30 Cross Country ปรับสปริงและโช้คอัพให้เหมาะกับถนนขรุขระ ซึ่งก็มีอยู่ทั่วไปในประเทศไทย

เมื่อใช้ความเร็ว EX30 Cross Country มีเสียงถนนและเสียงลมดังเข้ามาในห้องโดยสารบ้าง จริงๆ แล้วไม่จำเป็นต้องwxเร็วขนาดนี้ มอเตอร์คู่นั้นขับสนุกก็จริงแต่รับประทานไฟมากกว่ามอเตอร์เดี่ยวใน EX30 รุ่นปกติ นี่คือ Cross Country ที่มีโหมดสปอร์ต ด้วยแรงบิดที่ปล่อยออกมาแบบฉับพลันทันที ไม่มีอาการรอรอบ ทำให้ความสามารถในการเร่งแซงนั้นเด็ดขาดมาก แต่อัตราเร่งที่ดุเดือดไม่ค่อยเข้ากับบุคลิกของรถพ่อบ้านรักครอบครัวอย่าง Cross Country จริงๆแล้วมันควรอยู่ในแฮตชแบคไฟฟ้า C30 ที่สาบสูญไปแล้วมากกว่าจะมาอยู่ในรถอเนกประสงค์ขนาดกะทัดรัด

ระบบความปลอดภัยส่งเสียงบี๊บดังไม่หยุดจากการตรวจจับและเฝ้าระวัง เสียงบี๊บจากระบบช่วยควบคุมเลน ถ้ารำคาญก็สามารถปิดได้ Volvo แนะนำว่า การอัปเดตผ่านระบบไร้สายจะทำให้ EX30 ทุกรุ่นใช้งานได้ง่ายขึ้น แต่ การตั้งค่า "ปิดสนิท" มีเมนูย่อยอย่างน้อยสามรายการที่จะต้องสร้างความคุ้นเคยในการใช้ เวลาทดสอบแค่ 2 ชั่วโมง คงไม่พอที่จะมานั่งเล่นนั่งดูฟังก์ชันต่างๆของรถจนครบทั้งหมด สองชั่วโมงเป็นเวลาที่ดูเหมือนจะน้อยเกินไปสำหรับการขับ Cross CounTry สไตล์ของรถจีนลุกลามมาถึง Volvo เมื่อมันกลายเป็นรถไฟฟ้า จากมุมมองของงานตกแต่งภายในที่แทบจะไม่มีปุ่มอะไรทั้งนั้น ข้อมูลการขับขี่ทั้งหมดแสดงบนหน้าจอกลาง การชำเลืองมองหน้าจอ อาจทำให้เสียสมาธิในการควบคุมได้ ควรมีหน้าปัดมาตรวัด ที่อยู่ตรงหน้าคนขับมากกว่าการลดต้นทุนโดยเอาทุกอย่างผนวกเข้าไปรวมไว้ในจอมอนิเตอร์กลาง

Volvo EX30 Cross เมื่อชาร์จไฟเต็ม เคลมวิ่งได้สูงสุด 490 กิโลเมตร (ใช้งานจริงถ้าขับเร็ว ไฟในแบตฯก็จะลดลงอย่างเร็วเช่นเดียวกัน) จากแบตเตอรี่ 69 กิโลวัตต์ชั่วโมงที่ป้อนกระแสไฟให้มอเตอร์หน้า-หลัง EX30 รุ่น Cross Country ไปได้ไม่ไกลเท่า EX30 รุ่นมอเตอร์เดี่ยวที่เคลม 520 กิโลเมตร ในความเป็นจริง ตัวเลขประสิทธิภาพที่ 5.7 กิโลเมตร/กิโลวัตต์ชั่วโมง ในสภาพถนนหลากหลายรูปแบบ หมายความว่าระยะทางจริงๆที่ทำได้จะอยู่ที่ 400 กิโลเมตร และต้องไม่กระหน่ำคันเร่งแบบบ้าพลังอีกด้วย EX30 Cross Country ระบบชาร์จไฟรองรับ 153 กิโลวัตต์เติมไฟจาก 10 ถึง 80 เปอร์เซ็นต์ ใน 26 นาที หรือมากกว่านั้นนิดหน่อย

EX30 เป็นรถที่ค่อนข้างย้อนแย้ง เมื่อต้องการจะปรับความเร็วพัดลมแอร์หรืออุณหภูมิ ระบบจะบังคับให้คุณหันไปที่ส่วนล่างของหน้าจอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว เพื่อมองและดูตำแหน่งของการควบคุมบนหน้าจอ ซึ่งถูกซ่อนไว้ภายในเมนูแยกต่างหาก ต้องกดสองครั้งจนมันโผล่มา เมื่อทำแบบนั้นในขณะที่กำลังขับก็ไม่มีทางเลือกอื่นใดนอกจากต้องละสายตาจากถนนไปมองที่จอ นั่นทำให้ระบบตรวจสอบการขับขี่ Big Brother ของ Volvo ตอบสนองต่อการไม่มองถนนข้างหน้าของคนขับอย่างรวดเร็ว โดยส่งเสียงเตือนให้มองตรงไปข้างหน้าตลอดเวลา ไม่อยากคิดเลยว่าคนออกแบบระบบในลักษณะดังกล่าวจะเป็นพวกตะวันตก เพราะเรื่องของความปลอดภัยนั้น Volvo มาเป็นอันดับต้นๆของแบรนด์หรูยุโรปนานกว่า 60 ปีแล้ว การยกเลิกปุ่มควบคุมแอร์ การปรับกระจกมองข้างและอื่นๆอีกเพียบ มักจะเห็นกันจนชินตาในยานยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของจีน และการจะบอกให้อากู๋หยุดทำแบบนั้นคงเป็นเรื่องยาก นอกจากรถที่ผลิตจะขายไม่ดีเพราะใช้งานยากนั่นถึงจะทำให้คิดได้ว่า อะไรที่ผิดพลาดไปสำหรับการออกแบบซึ่งส่งผลกระทบ ทำให้การใช้งานไม่สะดวกปลอดภัยเหมือนในอดีต การสั่งานด้วยเสียงใน EX30 ด้วยระบบควบคุม Google Assistant ยอมรับว่าดีกว่าระบบอื่น มันตอบสนองอย่างรวดเร็วกับคำสั่งเมื่อต้องการเปลี่ยนอุณหภูมิหรือปรับความเร็วพัดลม แต่การหมุนปุ่มหรือกดปุ่มเปิดปิดดูจะเหมาะสมกับรถที่เน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับต้นๆอย่าง Volvo

เพื่อทำให้รถมีประสิทธิภาพมากขึ้นบนเส้นทางขรุขระ มีหลายจุดที่ต้องปรับเปลี่ยนใหม่ สิ่งสำคัญที่เห็นได้ชัดเจนเมื่อต้องการให้ EX30 ลุยทางวิบากได้ดีก็คือ เพิ่มความสูงของรถเพื่อให้มีระยะห่างจากพื้นมากขึ้น ส่งผลให้ EX30 Cross มีสมรรถนะการขับขี่แบบออฟโรด Volvo เพิ่มระยะห่างจากพื้นอีก 19 มิลลิเมตร แชสซีส์ที่สูงขึ้น 12 มิลลิเมตร ชุดล้อขนาดใหญ่ขึ้น 7 มิลลิเมตร

EX30 Cross Country ใช้ระบบส่งกำลังมอเตอร์คู่ที่ทรงพลังที่สุดใน EX30 ให้กำลัง 315 กิโลวัตต์ (429 แรงม้า) และแรงบิด 543 นิวตันเมตร แรงบิดถ่ายเทลงไปยังล้อทั้งสี่ เพื่อการยึดเกาะถนน และเพื่อให้มั่นใจในการยึดเกาะถนนที่ดี บนพื้นผิวที่ขรุขระ พร้อมกับแรงบิดในการพิชิตเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค Volvo เลือกใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อแบบมอเตอร์คู่ การปรับแต่งแชสซีของ EX30 อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อนำมาติดตั้งใน Cross Country ด้วยสปริงที่นุ่มขึ้น 8% ที่ด้านหน้า และ 13% ที่ด้านหลัง โช้คอัพ เหล็กกันโคลง และซอฟต์แวร์ควบคุมพวงมาลัย ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ของรถในการทำตัวเป็นพวก Outdoor Life

สถานีทดสอบในบ่อดินแถบมีนบุรี มีการจัดสเตชันทดสอบเพื่อโชว์ประสิทธิภาพของระบบขับเคลื่อนมอเตอร์คู่ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่แตกต่างไปจากถนนเรียบๆ พายุวิภา ทำให้เส้นทางทดสอบเปลี่ยนไปจนต้องกำหนดจุดเร่งความเร็วใหม่ให้สั้นลงเพื่อความปลอดภัยเนื่องจากอัตราเร่งของพี่เค้านั้นอยู่ในระดับใกล้เคียงกับซูปเปอร์คาร์บางรุ่นเลยทีเดียว การควบคุมรถที่มีแรงบิดมหาศาลท่ามกลางผิวดินที่ปกคลุมด้วยน้ำฝนทำให้ระบบรักษาเสถียรภาพของรถต้องทำงานเต็มที่และไม่เปิดโอกาศให้ซ่าหรือลองเล่นอะไรสนุกๆ ได้เลย แรงบิดที่เทลงไปยังล้อทั้งสี่ เมื่อระบบตรวจจับได้ว่าล้อใดล้อหนึ่งกำลังเกิดอาการลื่นไถล มันก็จะตัดแรงบิดทันทีเพื่อทำให้การควบคุมอยู่กับร่องกับรอย จุดสลาลมพิสูจน์ได้ถึงความคล่องของพวงมาลัยและช่วงล่าง ส่วนยาง Goodyear ดอกทางเรียบนั้นถูกเคลือบด้วยดินเหนียวจนมองดูคล้ายกับดันกิ้นโดนัทช็อคโกแลตโรยด้วยถั่วสีน้ำตาล แม้ยางทางเรียบจะไม่เหมาะกับการมาขับลุยทางที่มีโคลนเลน แต่ EX30 Cross เอาตัวรอดได้อย่างสบายๆ ไดนามิกเหมาะสม และระยะโอเวอร์แฮงค์หรือระยะยื่นหน้าหลังที่สั้นกุดทำให้ควบคุมรถได้ง่าย มันคล่องตัวมากแม้จะเลี้ยวเร็วๆบนทางดินที่กำลังจะเปลี่ยนเป็นขี้โคลน

พื้นผิวของสนามทดสอบที่เป็นดินผสมโคลน เป็นสถานการณ์ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการสัมผัสประสบการณ์การควบคุมและลักษณะเฉพาะของ Cross Country เมื่อขับบนพื้นผิวที่ระดับของการยึดเกาะต่ำมาก

EX30 Cross Country ได้รับการออกแบบทางวิศวกรรมโดยคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก รวมถึงความสะดวกสบายในการขับขี่บนพื้นผิวที่ไม่เรียบ ช่วงล่างนุ่มนวล ยึดเกาะถนนได้ดีบนเส้นทางขรุขระ ทำให้รถมีอาการหน้าดื้อเล็กน้อยเมื่อแรงบิดถูกปลดปล่อยออกมา ระบบรักษาเสถียรภาพ ลดอาการลื่นไถลในมุมที่กว้าง ทำให้สามารถคาดเดาได้และรู้สึกปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับนักขับขี่ที่มีประสบการณ์บนเส้นทางออฟโรดน้อยหรือแม้แต่ไม่มีเลย

สรุป
ขับในเมืองเป็นเรื่องง่ายสำหรับ Volvo EX30 Cross Country เพราะมีขนาดเล็ก ท่านั่งค่อนข้างสูง รวมกับแผงหน้าปัดที่ออกแบบให้ต่ำกว่าปกติ ทำให้วางตำแหน่งรถได้ง่ายแต่เสาหลังค่อนข้างใหญ่ ทำให้มุมมองด้านหลังไม่ค่อยชัดเจนเท่าที่ควร ความสูงของ Cross Country ออกแบบสำหรับการใช้งานกึ่งเรียบกึ่งออฟโรด ช่วงล่างมีระยะยุบตัวมากขึ้น เพื่อรองรับแรงกระแทกขณะลุยฝ่าทางวิบาก Cross Country ดูดซับแรงกระแทกจากเนินและหลุมบ่อได้ดี ให้ความรู้สึกเหมือนขับรถคันใหญ่

Cross Country มีอุปกรณ์ที่ผนวกเทคโนโลยีครบครัน รวมถึงระบบช่วยจอดรถ กล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน สามารถรักษาความเร็วและระยะห่างจากรถคันหน้าได้ ระบบเตือนจุดบอด และระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลนที่บางครั้งต้องปิดทิ้งเพราะส่งเสียงเตือนทันทีที่วิ่งเข้าไปใกล้เส้นแบ่งเลน

Volvo EX30 Cross Country ขับได้ดีบนถนนที่คดเคี้ยว เมื่อเข้าโค้งเร็วๆ ช่วงล่างที่สูงขึ้นทำให้รถเอียงเล็กน้อย แต่ไม่ได้ทำให้เสียอาการ แน่นอนว่าไม่ได้แย่ไปกว่ารถ SUV ไฟฟ้าจีนขนาดเล็ก กำลัง 428 แรงม้า ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ EX30 Cross มีเรี่ยวแรงมหาศาล ดึงหนักแล้วพุ่งทะยานออกจากปลายโค้งได้อย่างมาดมั่น แต่ควรระวังเรื่องระยะเบรก เพราะอัตราเร่ง 0-100 นั้นเร็วจัด ดุเดือดเลือดพล่านแบบดึงหน้าหงาย หรือไม่ก็เล่นเอาเวียนหัวเพราะแรงจีที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิตในขณะเร่งออกตัวเต็มกำลัง สุดท้าย เมื่อได้ทุกอย่างครบและเพียงพอแล้ว ขอเบรกให้ใหญ่กว่านี้ก็จะดีมากเลยละครับ.

ข้อมูลผลิตภัณฑ์จาก Volvo Car Thailand
EX30 Cross Country รถไฟฟ้า SUV ขนาดเล็ก ต่อยอดจาก EX30 โดยใช้ออกแบบให้ดูเหมาะสมกับการทำตัวเป็นรถลุย เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่ชอบท่องเที่ยวเดินทางในวันหยุด ความสูงจากพื้นถึงใต้ท้องรถที่เพิ่มขึ้น ช่วยให้มีระยะห่างจากพื้นมากขึ้น ขับขี่ผ่านเส้นทางที่ยากลำบากได้ ตำแหน่งเบาะนั่งสูง ช่วยเปิดมุมมอง เป็น SUV ที่เล็กที่สุด แต่ถูกสร้างมาเพื่อการผจญภัย ทั้งขับขี่ในเมืองหรือขับบนเส้นทางออฟโรด นี่คือรถ Cross Country ไฟฟ้าเต็มรูปแบบรุ่นแรกของ Volvo

ระบบขับเคลื่อน Twin Motor Performance (พลังการขับเคลื่อนเท่ากับรุ่น EX30 Twin Motor Performance)
Safe Space Technology รถ SUV ที่มาพร้อมเทคโนโลยีความปลอดภัยรอบคันทั้งนอกและในตัวรถ เทคโนโลยี Park Pilot Assist และใช้วัสดุรีไซเคิล วัสดุหมุนเวียน มาเป็นส่วนประกอบทั้งภายในและนอกรถ
Volvo EX30 Cross Country - Twin Motor Performance ราคา 1,890,000 บาท

กระจังหน้าแบบใหม่ที่เพิ่มลวดลายกราฟิกเฉพาะตัว โดยการนำกราฟฟิคมาใช้บนรถรุ่นนี้ เป็นการเชื่อมโยงความกล้า บุกตะลุยธรรมชาติ เข้ากับรถไฟฟ้าเต็มรูปแบบขนาดกะทัดรัดได้อย่างลงตัว พร้อมแสดงตำแหน่งละติจูด ลองติจูดของเทือกเขาบนลวดลาย

ล้อดีไซน์ใหม่สำหรับรุ่น Cross Country ขนาด 19” นิ้ว แบบ 5 ก้าน สีเทากราไฟต์ด้านและดำด้าน มาพร้อมยาง Summer tires ขนาดใหญ่ 720 มม. (235/50/19)

ดีไซน์แผ่นกันกระแทกหน้าและหลังด้วยสีเทา (Vapour Grey) แบบด้าน

ไฟหน้า LED สไตล์ Thor’s Hammer ที่เป็นเอกลักษณ์ของVolvo จัดวางเรียงเป็นเซกเมนต์ในรูปทรงที่กว้างและเรียวขึ้น

ช่องรับอากาศด้านหน้าประกอบด้วย ชัตเตอร์ที่จะทำการปิดเมื่อหยุดนิ่งและเปิดเมื่อจำเป็นต้องระบายความร้อนด้วยอากาศเพื่อปรับปรุงแอโรไดนามิกส์ และเสริมประสิทธิภาพให้การขับ และการใช้พลังแบตเตอรี่

ไฟท้าย LED

ห้องโดยสาร EX30 Cross Country ถ่ายทอดเทคโนโลยีอัจฉริยะจากรุ่นมาตรฐาน ฟังก์ชันการใช้งานที่อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีใหม่, พื้นที่จัดเก็บสัมภาระ, ดีไซน์เรียบหรู และหนึ่งในดีไซน์ที่น่าสนใจคือการย้ายลำโพงจากบริเวณแผงประตูมาติดตั้งรวมไว้บนซาวด์บาร์บริเวณคอนโซลหน้า เพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่ตรงประตูให้สามารถใส่สัมภาระชิ้นใหญ่ได้มากขึ้น

พื้นที่เก็บสัมภาระโซนหน้า

พื้นที่เก็บของส่วนกลางระหว่างผู้ขับและผู้โดยสารได้รับการออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย ที่วางแก้วสามารถเลื่อนพับเก็บได้เมื่อไม่ใช้งาน เพิ่มพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางได้มากขึ้น พร้อมช่องเก็บของขนาดใหญ่ส่วนล่างระหว่างเบาะหน้าผู้ขับและผู้โดยสาร และช่องเก็บของหน้ารถ (Glove compartment) ถูกย้ายมาไว้ใต้คอนโซลกลาง เพื่อให้สามารถเปิดใช้งานได้สะดวก

พื้นที่เก็บสัมภาระโซนหลัง

บริเวณช่องใส่สัมภาระตรงกลางมีช่องเก็บของสำหรับผู้โดยสารด้านหลังที่สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ อีกทั้งบริเวณพื้นที่ใส่สัมภาระท้ายรถยังมีรายละเอียดที่แสดงถึงความใส่ใจอย่างแผ่นป้าย “Will it fit?” ที่แสดงขนาดการจุสัมภาระ ให้ผู้ใช้รถได้กะขนาดสัมภาระที่ต้องการใส่ได้อย่างแม่นยำ

Google Built-in ที่ติดตั้งภายในรถ นำทางไปยังจุดหมายได้อย่างแม่นยำและราบรื่น ผ่าน Google Maps

EX30 Cross Country มีมาตรฐานความปลอดภัยระดับสูง ให้การปกป้องเมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิด ลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุผ่านเทคโนโลยีความปลอดภัย ทั้งระบบเบรกและการควบคุมพวงมาลัย สามารถช่วยหลีกเลี่ยงการชนจากด้านหน้า, รถที่สวนทาง, ผู้ใช้ถนน หรือจักรยาน รวมถึงระบบเซนเซอร์ตรวจจับความพร้อมของผู้ขับจะแจ้งเตือนเมื่อระบบพบสัญญาณของความเหนื่อยล้า หรือภาวะขาดสมาธิ

ความปลอดภัย EX30 Cross Country เทคโนโลยีเพื่อช่วยทั้งการป้องกันและปกป้องผู้ใช้รถ

เทคโนโลยีที่ช่วยแจ้งเตือนการเปิดประตู (Door opening alert) ผ่านเรดาร์ที่ตรวจจับวัตถุที่เคลื่อนที่มาจากด้านหลัง เช่น รถจักรยานหรือมอเตอร์ไซค์ โดยรถจะส่งเสียงเตือนหากคนในรถจะเปิดประตูเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ
Driver alert system ระบบแจ้งเตือนผู้ขับขี่ โดยใช้เซ็นเซอร์เพื่อช่วยตรวจสอบความพร้อมในการควบคุมรถของผู้ขับที่ไม่เพียงตรวจการจับพวงมาลัย แต่ยังสามารถติดตามการเคลื่อนไหวของศรีษะ ดวงตา และการกระพริบตาของผู้ขับเพื่อตรวจสอบว่าผู้ขับมีอาการง่วง หรือมีสมาธิในการขับรถหรือไม่ และส่งสัญญาณเตือนหากตรวจพบว่าผู้ขับมีแนวโน้มที่ไม่พร้อมในการควบคุมรถ
ระบบ Park Pilot Assist ที่สามารถตรวจพื้นที่ว่าง และควบคุมตัวรถทั้งคันเร่ง เบรก และพวงมาลัยในการจอดรถ (โดยมีผู้ขับคอยตรวจสอบ)
กล้อง 360° Camera แบบ bird eye view ในการแสดงผลแบบ 3D
Collision avoidance and mitigation by braking and steering ระบบหลีกเลี่ยงการชน ส่งสัญญาณเตือนเมื่อตรวจพบความเสี่ยงในการชน และในบางสถานการณ์หากกำลังจะเกิดการชน รถจะสามารถเบรกหรือช่วยหักเลี้ยวอัตโนมัติเพื่อหลีกเลี่ยงหรือลดการชน

ซาวด์บาร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโฮมเธียเตอร์ พร้อมระบบเสียงระดับพรีเมี่ยม Harman Kardon Premium Sound คลุมพื้นที่ของแผงแดชบอร์ดทั้งหมดที่ไม่เพียงให้ประสิทธิภาพเสียงที่ทรงพลังแต่ยังช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านข้างที่โดยทั่วไปคือแผงลำโพง ทั้งยังช่วยลดวัสดุในตัวรถ

การแสดงผลที่เน้นการควบคุมจากศูนย์กลางผ่านจอทัชสกรีนขนาด 12.3 นิ้วความละเอียดสูงบนแผงแดชบอร์ดที่รวบรวมฟังก์ชันการควบคุมรถ รวมถึงข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้ขับขี่ไว้ด้านบนของจอ ด้านล่างเป็นปุ่มการควบคุมและสั่งงานแสดงผลเป็นแท็บข้อความและปุ่มเข้าเมนูลัด หรือจะเปลี่ยนมุมมองเป็นแบบ “Calm view” เพื่อเลือกแสดงเฉพาะข้อมูลสำคัญก็ได้

พวงมาลัยทรงเหลี่ยมแบบสปอร์ตที่นอกเหนือจากความกระชับเมื่อจับ ยังมีสวิตช์สำหรับสั่งควบคุมการขับขี่ซึ่งเชื่อมต่อกับจอดิสเพลย์ สำหรับสั่งการทำงาน อาทิ สั่งงาน Adaptive Cruise Control และปุ่ม favorite ที่สามารถเลือกตั้งค่าเพื่อเข้าถึงฟังก์ชันเฉพาะ อาทิ ปรับจอดิสเพลย์ระหว่าง “Calm view” และ “Surround view” หรือเพื่อกดเปิดหรือปิดโหมด One Pedal Drive

การเชื่อมต่อ Volvo EX30
Volvo EX30 มาพร้อมการเชื่อมต่อที่หลากหลาย รวมถึงการเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนผ่าน Bluetooth และฟังก์ชันต่างๆ ที่ควบคุมผ่านหน้าจอกลางของรถ นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่และความปลอดภัยที่ทันสมัย การเชื่อมต่อโทรศัพท์ : รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เข้าถึงสมาร์ทโฟนและฟังก์ชันต่างๆ บนหน้าจอแสดงผล รองรับการเชื่อมต่ออื่นๆ ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงข้อมูลและความบันเทิงต่างๆ ได้อย่างสะดวก.

อาคม รวมสุวรรณ
E-Mail chang.arcom@thairath.co.th
Facebook https://www.facebook.com/chang.arcomhttps://
www.facebook.com/ARCOM-CHANG-Thairath-Online-525369247505358/

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : สัมผัสแรก ทดสอบ VOLVO EX30 CROSS COUNTRY TWIN MOTOR