พระพุทธรูปศิลปะคันธาระ สะพานเชื่อม ‘ไทย-ปากีสถาน’
ครั้งแรกพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาผลงานศิลปกรรมที่มีความวิจิตรงดงามในแบบศิลปะคันธาระจากรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานเข้าสู่การจัดแสดงชั่วคราว ณ ห้องเอเชีย ภายในอาคารมหาสุรสิงหนาถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพฯ เนื่องในโอกาสฉลองความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและปากีสถาน การรับมอบศิลปะวัตถุชิ้นนี้นับเป็นความร่วมมือสร้างความงอกงามด้านศิลปะและวัฒนธรรมของสองประเทศ เติมเต็มความเข้าใจในพุทธศิลป์ในภูมิภาคเอเชียให้กว้างขวางยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เป็นผู้แทนกระทรวงวัฒนธรรม รับมอบพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาจำลอง (The Replica of the Fasting Buddha) จากรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน โดยมีนางรุคซานา อัฟซอล เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอิสลามปากีสถานประจำประเทศไทย เป็นผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐอิสลามปากีสถาน ณ พระที่นั่งอิศราวินิจฉัย พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เมื่อวานนี้
พระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาจำลองจากโบราณวัตถุชิ้นเยี่ยมของปากีสถาน ผลิตขึ้นโดยใช้วัสดุประเภทไฟเบอร์สีดำ ขนาดความสูงถึง 97.53 เซนติเมตร ที่ผ่านมา รัฐบาลปากีสถานได้มอบให้กับสำนักงานใหญ่องค์การศึกษา วิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ณ กรุงปารีส และสำนักเลขาธิการอาเซียน ณ กรุงจาการ์ตา และประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อส่งเสริมการทูตวัฒนธรรม ศาสนา และการท่องเที่ยวเชิงพุทธในดินแดนอารยธรรมคันธาระ และดึงดูดนักท่องเที่ยวไทยและนักท่องเที่ยวเชิงพุทธศาสนาจากทั่วโลกให้มาเที่ยวปากีสถานมากขึ้น ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์และขยายโอกาสในหลากหลายมิติให้กับประชาชนสองประเทศ รวมถึงสร้างรายได้ให้กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปากีสถาน
นายพนมบุตร จันทรโชติ กล่าวว่า กระทรวงวัฒนธรรมตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธรูปปางบำเพ็ญทุกรกิริยาจำลองดังกล่าว ในฐานะศิลปกรรมที่มีความวิจิตรงดงามในแบบศิลปะคันธาระ แม้ว่าพุทธประวัติปางนี้จะเป็นที่รับรู้ผ่านคัมภีร์ทางศาสนา พระพุทธรูปปางทุกกรกิริยาเสมือนจริงแบบพระผอมในประเทศไทยกลับไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน เนื่องจากพุทธศิลป์แบบไทยประเพณี ล้วนสร้างขึ้นตามแบบอุดมคติ เป็นรูปแทนคุณสมบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเปี่ยมด้วยพระกรุณาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ และพระปัญญาธิคุณ โดยมีแบบแผนจากคัมภีร์มหาปุริสลักษณะเป็นหลักสำคัญ รูปแทนพระองค์จึงมีความสงบ ผ่องใส พระฉวีเรียบรื่น ดุจกายอันเป็นทิพย์เสมอ
“ พระพุทธรูปองค์นี้อยู่ในฐานะสะพานวัฒนธรรมเชื่อมโยงความสัมพันธ์ของสองประเทศผ่านรากฐานของศาสนาและมรดกทางวัฒนธรรมร่วมกันของพุทธศิลป์ในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พระพุทธรูปปางทุกรกิริยาแบบพระผอมแสดงคติอย่างสำคัญ เน้นให้เห็นถึงบุคลิกลักษณะของบรมโพธิสัตว์หรือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีความเป็นมนุษย์ มิใช่ทิพยบุคลคลผู้ถึงพร้อมด้วยบารมีอันพึงตรัสรู้ได้โดยง่าย หากแต่ด้วยความพากเพียร พัฒนาตนอย่างยอดยิ่ง ดังนั้น เรื่องราวการบำเพ็ญทุกรกิริยาอันเป็นมหาวีรกรรมก่อนการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ยังคงเป็นแรงบันดาลใจแก่พุทธศาสนิกชนทั่วโลกมาจนถึงปัจจุบัน การที่รัฐบาลปากีสถานมอบพระพุทธรูปองค์จำลองนี้ให้กับไทยเป็นการส่งต่อมรดกแห่งศรัทธา ความเมตตา และปัญญา ซึ่งพระพุทธศาสนาได้มอบไว้แก่ชาวโลก “ นายพนมบุตร กล่าว
อธิบดี ศก. คาดหวังความร่วมมือนี้จะงอกงามในอนาคต ทั้งในรูปแบบการแลกเปลี่ยนนิทรรศการ การวิจัยทางวิชาการ การอนุรักษ์วัฒนธรรม และโครงการต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการเสริมสร้างความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีสองประเทศ.
หากย้อนไปพระพุทธรูปศิลปะคันธาระปรากฏขึ้นเมื่อชนชาติตีเถียนอพยพจากภาคกลางของทวีปเอเชียเข้าครอบครองดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศอินเดียหรือประเทศปากีสถานในปัจจุบัน และสถาปนาราชวงศ์กุษาณะมีพระเจ้ากนิษกะ (ราว พ.ศ. 663-705) เป็นประมุขและทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกเช่นเดียวกับพระเจ้าอโศกมหาราช ต่างกันเพียงพุทธศาสนาที่พระเจ้ากนิษกะทรงเลื่อมใสเป็นลัทธิมหายาน เชื่อกันว่า พระพุทธรูป ได้อุบัติขึ้นในรัชกาลของพระองค์เป็นครั้งแรกด้วย
ผู้สนใจเรียนรู้พระพุทธรูปศิลปะคันธาระสามารถเข้าชมพระพุทธรูปจำลององค์นี้ได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป นอกจากนี้ภายในห้องเอเชียยังจัดแสดงโบราณวัตถุศิลปะคันธาระล้ำค่าอีก 16 รายการ ประกอบด้วยพระพุทธรูป, ชิ้นส่วนพระพุทธรูป และภาพสลักศิลาเล่าเรื่องพุทธประวัติตอนปฐมเทศนาของพระพุทธเจ้า พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร เปิดให้บริการ วันพุธ-วันอาทิตย์ เวลา 8.30-16.00 น. ปิดวันจันทร์-อังคาร