ตร.ไซเบอร์ตามจับเครือข่ายแก๊งคอลฯ ถึงเชียงราย หลอกซื้อ-ทำบัญชีม้าผ่านไลน์
เชียงราย – ผบช.ตำรวจไซเบอร์ เผยรับตัวแก๊งคอลฯหนีกลับจากเขมรแล้วนับพัน แต่ยังปักหลักหลอกคนไทยและคนทั่วโลกอีกเพียบ..ล่าสุดตามรวบเครือข่ายถึงเชียงรายอีก 3 ราย พบงัดมุกหลอกแบบใหม่ ไล่ขอซื้อบัญชีไลน์ทำบัญชีม้าออนไลน์
วันนี้ (31 ก.ค.68) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวไซเบอร์ พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.คนสัน มีภักดี ผกก.4 บก.สอท.4 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าวที่อาคารพบโชค สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย
เกี่ยวกับการจับกุมผู้ต้องหาในคดีการกระทำผิดเปิดบัญชีธนาคารหรือบัญชีม้าโดยมีผู้ต้องหาจำนวน 3 ราย เป็นชาย 2 คนและหญิง 1 คน ที่พบหลักฐานขอซื้อบัญชีไลน์ของเหยื่อจากนั้นนำไปสมัคร Line BK เพื่อนำไปทำธุรกิจทางการเงินที่ผิดกฎหมายผ่านไลน์หรือเป็นบัญชีม้าออนไลน์
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวว่าคดีนี้ พล.ต.ต.กฤตัชญ์ และ พ.ต.อ.คนสัน พร้อมทีมงานได้สืบสวนสอบสวนจนทราบว่ากลุ่มขบวนการมีรูปแบบใหม่ในการหลอกลวงคือ จัดทำบัญชีม้าออนไลน์ผ่านบัญชี Line จึงจำเป็นประชาสัมพันธ์ให้ผู้คนทั่วไปได้รับรู้ถึงรูปแบบการหลอกลวงใหม่ของขบวนการหลอกลวงหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งมีฐานใหญ่อยู่ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งถ้าเหยื่อเป็นผู้สูงอายุก็จะทำงานรายงานส่งพนักงานสอบสวนเพื่อพิจารณาหากพบว่าไม่มีความผิดก็จะสั่งไม่ฟ้องต่อไป
พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวอีกว่ากรณีมีการสู้รบกันระหว่างประเทศไทยและกัมพูชตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.เป็นต้นมาก็พบมีคนไทยที่ลักลอบข้ามแดนไปทำงานในบ่อนคาสิโนหรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์อยู่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ถูกทำร้ายและกลับมายังประเทศไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับตัวกลับมาแล้วประมาณ 1,000 คน แต่ยังมีบางส่วนที่ยังอยู่ทำงานที่เดิม หมายความว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชาก็ยังหลอกลวงคนไทยหรือคนทั้งโลกอยู่ต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.คนสัน กล่าวว่าการจับกุมผู้ต้องหากลุ่มนี้มีขึ้นเพราะผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย และถูกแก๊งดังกล่าวติดต่อขอซื้อบัญชีไลน์ ซึ่งเหยื่ออาจคิดว่าเป็นเพียงบัญชีไลน์คงไม่เกิดความเสียหาย แต่ปรากฎว่าแก๊งนี้นำเอาบัญชีไลน์ไปแอบทำธุรกรรมในแอพพลิเคชั่น Line BK มีการยืนยันตัวตนได้
เมื่อเจ้าหน้าที่สืบสวนก็พบผู้ต้องหา 3 คนดังกล่าว เป็นผู้ที่ทำหน้าที่เบิกเงินในฝั่งประเทศไทยแล้วนำไปส่งให้กับเครือข่ายชาวลาวที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว ด้าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย แลกกับค่าจ้างจากการเบิกครั้งละ 1.5% แต่ละครั้งมียอดเงินโอนผ่านบัญชี 300,000-500,000 บาท โดยเจ้าของไลน์เดิมไม่รู้เรื่องเหล่านี้ด้วยเลย แต่ก็เข้าข่ายเป็นบัญชีม้าอีกรูปแบบหนึ่งที่กำลังแพร่ระบาดผ่านทางระบบออนไลน์อยู่ในปัจจุบัน
วันเดียวกันตำรวจไซเบอร์ได้มอบเงินคืนแก่เหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามโครงการ Money Cash Back โดยผู้เสยหายเป็นหญิงสาวชาว จ.พะเยา ได้แจ้งต่อตำรวจไซเบอร์ว่าถูกคนร้ายหลอกให้ติดตั้งแอพพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ จากนั้นคนร้ายได้ควบคุมการใช้โทรศัพท์มือถือ โอนเงินจากบัญชีธนาคารออกไป 50,760 บาท
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับเรื่องไว้เมื่อวันที่ 8 พ.ค.2568 เมื่อสืบสวนพบว่าเงินในบัญชีธนาคารที่สืบหายังมีเงินของเหยื่อคงเหลืออยู่จำนวน 42,126 บาท จึงประสานธนาคารและนำมาคืนให้ผู้เสียหายได้ดังกล่าว ส่วนบัญชีธนาคารอื่นๆ พบพัวพันกับอีกหลายคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.ได้ยึดคืนมาให้กับผู้เสียหายได้แล้วประมาณ 1.7 ล้านบาท
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.ได้แจ้งเตือนประชาชนทั่วไปว่าอย่าได้หลงเชื่อมิจฉาชีพที่แอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ สอท.แลว้โทรศัพท์ไปหาคนที่เคยตกเป็นเหยื่อโดยอ้างว่าจะหาเงินมาคืนให้ เพราะในความเป็นจริงแล้วการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สอท.จะต้องพบตัวผู้เสียหายอย่างเป็นทางการเท่านั้น.
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO