น่ากลัวมาก ฤทธิ์พายุวิภาถล่มไม่ถึง 5 นาที ซัดโครงหลังคา ร้านอาหาร-ร้านค้า พังทั้งแถบ 15 คูหา ทับชาวบ้านเจ็บ
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมา เกิดพายุฝนฟ้ารุนแรงและลมกระโชกแรง จากพายุวิภา ส่งผลให้หลายพื้นที่ใน จ.จันทบุรี ได้รับผลกระทบ โดยภาพกล้องภายในร้าน จินข้าวมันไก่ บันทึกภาพขณะเกิดเหตุ ที่กำลังมีลูกค้ามารับประทานอาหารภายในร้าน และร้านที่อยู่ติดกัน ซึ่งกำลังเก็บข้าวของย้ายเข้ามานั่งด้านใน เนื่องพายุพัดกระหน่ำรุนแรง ทันใดนั้น หลังคากันสาดได้พังถล่มลงมา ทับรถยนต์และรถ จยย.ที่จอดอยู่ใกล้เคียง
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นางมะนี นิละชา เจ้าของร้านข้าวมันไก่สิงคโปร์ ที่อยู่ติดกับร้านจินข้าวมันไก่ ถูกหลังคาทับบริเวณหลัง เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ ได้นำตัวส่งรักษาตัวที่โรงพยาบาล โดยคลิปภาพจากกล้องวงจรปิดของร้าน ซีซีเน็ตเวิร์ค แอนด์ซีเคียวริตี้ ซิสเต็ม และร้านจินข้าวมันไก่ ริมถนนสายรักศักดิ์ชมูล ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.จันทบุรี บันทึกภาพเหตุการณ์ ขณะพายุฝนโหมพัดกระหน่ำ จนทำให้หลังคากันสาดของอาคารพานิชย์ ริมถนนรักศักดิ์ชมูล ตรงข้ามซอยศิริการ พังถล่มลงมาจำนวน 15 คูหา
นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า ในพื้นที่เขตเทศบาลท่าช้าง และตัวเมือง ตลอดจนพื้นที่ต่างอำเภอ ยังได้รับความเสียหาย มีต้นไม้หักโค่นล้มทับหลังคาบ้านเรือน ห้องแถว ประชาชน รวมไปถึงรีสอร์ทที่พัก ได้รับความเสียหายหลายหลัง รวมทั้งขวางถนนและทางสัญจร
หลังพายุสงบ ผู้บริหารเทศบาลเมืองท่าช้างพร้อม กำลังทหารจากค่ายตากสิน ,ตำรวจภูธร จันทบุรี ได้เข้าตรวจสอบ พร้อมให้การช่วยเหลือ ขนย้ายเศษซากหลังคาออกจากที่เกิดเหตุ ในการเคลียร์พื้นที่เพื่อความปลอดภัย พบว่า หลังคากันสาดของอาคารพานิชย์ที่อยู่ติดกัน หล่นลงมาทั้งแถบ จำนวน 10 คูหา และของอาคารพานิชย์ที่อยู่ถัดไปอีกจำนวน 5 คูหา ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ นับว่าโชคดีที่ไม่มีผู้เสียชีวิต มีเพียงผู้ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็หาทางเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบต่อไป
พนักงานร้านจินข้าวมันไก่ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตอนแรกมีเพียงฝนปรอยๆ ขณะนั้นมีลูกค้านั่งอยู่ทั้งในและด้านนอก จนกระทั่งลมฝนเริ่มแรงขึ้น จึงพากันขนย้ายเข้ามาด้านใน จนมีลมพัดวูบเข้ามา แค่แวบเดี๋ยวทำให้หลังคาหล่นลงมา ซึ่งโชคดีที่ลูกค้าด้านนอกไม่เยอะ ซึ่งในส่วนของความเสียหายจะเป็นส่วนด้านนอกของร้าน ซึ่งก็ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และที่ผ่านก็เคยได้รับข้อความเตือนเรื่องพายุเช่นกัน แต่ก็ไม่คิดว่าจะเกิดกับร้านของตน
ด้านสำนักงาน ปภ.จันทบุรี ได้ตั้งวอร์รูมติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในแต่ละพื้นที่ จัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และเตรียมจุดพักพิงฉุกเฉินกรณีต้องอพยพประชาชนเพิ่มเติม โดยให้อำเภอทั้ง 10 แห่งเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนตกหนักที่อาจนำไปสู่น้ำท่วมฉับพลัน ดินโคลนถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยงตามแนวเชิงเขาและลำคลอง
พร้อมขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และหลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งนี้ พายุ “วิภา” ยังมีอิทธิพลต่อประเทศไทยอีกอย่างน้อย 1–2 วันข้างหน้า โดยมีแนวโน้มฝนตกต่อเนื่องในหลายจังหวัด ทางจังหวัดจันทบุรีจึงเน้นย้ำมาตรการเฝ้าระวังและการเตรียมความพร้อมในการอพยพหากสถานการณ์รุนแรงขึ้น