ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำสถิติสูงสุดใหม่ จากท่าทีการเจรจาการค้า
ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทยังคงปรับตัวในทิศทางบวกอย่างต่อเนื่องในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยดัชนี S&P 500 และ Nasdaq ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากแรงหนุนของความหวังในความคืบหน้าของการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ รวมถึงข้อมูลเศรษฐกิจที่ส่งเสริมความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะดำเนินมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้
แม้ว่าตลาดจะชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงปลายวัน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศยุติการเจรจาการค้ากับแคนาดา เพื่อตอบโต้การเรียกเก็บภาษีดิจิทัลต่อบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ แต่ดัชนีหุ้นหลักทั้งสามยังคงปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์ โดย Nasdaq ซึ่งเน้นหุ้นเทคโนโลยี ยืนยันเข้าสู่ภาวะตลาดกระทิง (bull market) หลังแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่จุดต่ำสุดเมื่อวันที่ 8 เมษายน
รายงานจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ระบุว่า รายได้และการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลงอย่างไม่คาดคิดในเดือนพฤษภาคม แม้อัตราเงินเฟ้อยังทรงตัวเหนือเป้าหมายรายปีที่ 2% ของ Fed และยังไม่สะท้อนผลกระทบจากภาษีนำเข้าอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ตลาดการเงินประเมินความเป็นไปได้ที่ Fed จะลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนกันยายนที่ 76% และอีก 19% สำหรับความเป็นไปได้ที่จะเริ่มลดดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม อ้างอิงจากเครื่องมือ FedWatch ของ CME
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวจากภาครัฐเปิดเผยว่า สหรัฐฯ และจีนได้บรรลุข้อตกลงเร่งการส่งออกแร่หายากจากจีนมายังสหรัฐฯ ก่อนที่มาตรการภาษีตอบโต้จะสิ้นสุดลงในวันที่ 9 กรกฎาคม นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ข้อตกลงการค้ากับประเทศคู่ค้าหลัก 18 ราย อาจสำเร็จภายในวันแรงงานสหรัฐฯ วันที่ 1 กันยายน
ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 432.43 จุด หรือ 1.00% ปิดที่ 43,819.27 จุด
ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 32.05 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,173.07 จุด
ขณะที่ Nasdaq ปรับตัวขึ้น 105.55 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 20,273.46 จุด
ราคาน้ำมันปรับขึ้นเล็กน้อยหลังฟื้นจากแรงขายกลางวัน แต่ร่วงหนักที่สุดนับตั้งแต่มีนาคม 2023
ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อยในวันศุกร์ โดยดีดตัวจากภาวะติดลบในช่วงกลางวัน หลังมีรายงานว่า OPEC+ อาจปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ร่วงลงกว่า 12% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดในรอบกว่า 1 ปี
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบล่วงหน้าปิดที่ 67.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 4 เซนต์ หรือ 0.1% ขณะที่น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ปิดบวก 28 เซนต์ หรือ 0.4% ที่ระดับ 65.52 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาทองคำร่วงต่อเนื่องจากแรงขาย หลังตลาดคลายกังวลความเสี่ยงจากข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน
ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยร่วงลง 2% ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากความคืบหน้าในข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ราคาทองสปอตลดลง 1.5% ปิดที่ 3,277.17 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ร่วงถึง 2% ในช่วงต้นวัน
ส่วนสัญญาทองคำล่วงหน้าสหรัฐฯ ปิดที่ 3,287.60 ดอลลาร์ ลดลง 1.8%
โดยทองคำเผชิญแรงกดดันต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน โดยลดลงรวม 2.8% นับจากต้นสัปดาห์