แอสเซทไฟว์รุกลักชัวรี ปักหมุดกรุงเทพกรีฑาทำเลศักยภาพ
แม้ครึ่งปีหลัง 2568 ตลาดยังเผชิญความท้าทายจากปัจจัยเศรษฐกิจและการเมืองที่ผันผวน แต่ แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจผ่านยุทธศาสตร์ “บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ-เร่งปิดยอดขาย-เปิดแบรนด์ใหม่ตอบตลาดบน”
ศุภโชค ปัญจทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือทุกสถานการณ์ ผ่านความเข้าใจตลาดลักชัวรีอย่างลึกซึ้ง แม้ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์จะเผชิญความท้าทายจากกำลังซื้อที่ชะลอตัวและหนี้ครัวเรือนสูง แต่กลุ่มลูกค้าระดับบนที่มีกำลังซื้อสูงยังคงมองหาที่อยู่อาศัยที่มีความเป็นส่วนตัว ดีไซน์พรีเมียม สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว ที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ
บริษัทมุ่งสร้างความแตกต่างในผลิตภัณฑ์และการตลาด พัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์เฉพาะตัวของกลุ่มอัลตร้าลักชัวรี เช่น freedom function เลือกเฉพาะทำเลศักยภาพสูงที่มีความต้องการต่อเนื่อง เจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง พร้อมบริหารต้นทุนและความเสี่ยงอย่างรอบคอบ ทั้งใช้การออกแบบที่ยั่งยืน (Sustainable Design) ดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความสามารถทางการแข่งขัน ตอบสนองความต้องการของตลาดอัลตร้าลักชัวรี
ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอโอน (Backlog) กว่า 729.87 ล้านบาท (ณ 31 พ.ค. 2568) พร้อมทยอยรับรู้รายได้ในครึ่งปีหลังจาก 3 โครงการหลัก ได้แก่ แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา ปิดยอดขายเฟสแรก 98% วนา ราชพฤกษ์ เวสต์วิลล์ และ แซงค์ รอยัล ดิ เอททีน บางนา กม.7
“จุดแข็งของเราคือความเข้าใจลูกค้า และการบริหารทรัพยากรอย่างแม่นยำ”
ไฮไลต์สำคัญครึ่งปีหลัง คือการเปิดตัวโครงการแนวราบแบรนด์ใหม่ ทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ซึ่งเป็นพื้นที่เติบโตเชิงยุทธศาสตร์ เชื่อมต่อพระราม 9-มอเตอร์เวย์-CBD และสนามบินสุวรรณภูมิ โครงการใหม่นี้ วางตำแหน่ง “เหนือกว่า วนา แต่เข้าถึงง่ายกว่า แซงค์ รอยัล” ออกแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น เป็นส่วนตัวสูงสุด รองรับลูกค้าระดับบนที่มองหาความสมดุลระหว่างคุณภาพ ชีวิต และการลงทุน
ขณะนี้ บริษัทอเตรียมพร้อมระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ เพื่อสนับสนุนแผนพัฒนาโครงการใหม่ในช่วงครึ่งปีหลัง เสริมฐานทุน รองรับการขยายธุรกิจต่อเนื่องในกลุ่มตลาดบน ซึ่งยังเป็นตลาดที่มี “เรียลดีมานด์” ชัดเจนแม้ในภาวะเศรษฐกิจไม่แน่นอน
“การวางกลยุทธ์อย่างรอบคอบ สร้างความต่างที่จับต้องได้ จะทำให้ A5 เติบโตมั่นคงในตลาดลักชัวรี”
สอดคล้องกับข้อมูลของ คุชแมน แอนด์ เวคฟีลด์ ประเทศไทย ระบุว่า ทำเลกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ เป็นจุดหมายของการลงทุนบ้านหรู มูลค่าตลาดโซนนี้แตะ 100,000 ล้านบาท จากการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ถนนตัดใหม่ รถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีส้ม รวมถึงใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ราคาที่ดินขยับขึ้นกว่า 150,000 บาทต่อตารางวา และพื้นที่ว่างติดถนนใหญ่เหลือน้อยมาก
ข้อมูลเปิดขายบ้านหรูในโซนกรุงเทพกรีฑา มากกว่า 50% ของบ้านราคา 20 ล้านบาทขึ้นไป อยู่ในพื้นที่นี้ โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่ บ้านหรูกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีอัตราค่าเช่าสูงกว่าโซนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญ ผลตอบแทน 4-6% ต่อปี