BIZ: ไม่จ่ายหนี้ ไม่ใช่ไม่มี แต่อาจเป็นสัญญาณป่วย ‘อัลไซเมอร์’ หากไม่เตรียมวางแผนล่วงหน้า อาจเกิดความวุ่นวายทางการเงินในอนาคต
การเก็บเอกสารทางการเงินไม่เป็นระเบียบ การจ่ายค่าน้ำค่าไฟหนี้บัตรเครดิตช้ากว่ากำหนด ถอนเงินซ้ำๆ วันหนึ่งหลายครั้ง หรือบางทีกลับใช้จ่ายเงินเกินความจำเป็นจากสิ่งที่ต้องการ หากใครพบเจอกลุ่มอาการเหล่านี้จากคนรอบตัว อย่าลืมสันนิษฐานไว้เสียหน่อยว่า เขาอาจป่วย ‘อัลไซเมอร์’ ได้ในอนาคต
เรื่องนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลจากสถาบันการศึกษาด้านธุรกิจหลายแห่งที่ให้ข้อสรุปคล้ายๆ กันว่าเรามักจับสังเกตผู้มีแนวโน้มป่วยอัลไซเมอร์ได้จากเรื่องราวทางการเงิน เพราะเห็นได้ค่อนข้างชัด แถมยังทำนายล่วงหน้าได้ก่อนจะตรวจพบเสียอีก
การจับผิดอาการป่วยสามารถมองได้หลากรูปแบบตามที่ยกตัวอย่างไว้ย่อหน้าแรก แต่ส่วนใหญ่ผู้มีแนวโน้มป่วยอาจไม่ค่อยตระหนัก คิดว่าแค่เผอเรอ หรือยุ่งจนไม่มีเวลาจ่าย (ส่วนไม่มีเงินจ่ายนั้นเป็นอีกเรื่อง) แต่สุดท้ายเมื่อเวลาผ่านไป เรื่องนี้ก็อาจสายเกินไป
โดยภาพจะชัดมากสำหรับคนที่เคยมีระเบียบวินัย จัดทำบัญชีจ่ายเงินชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ตรงทุกงวดมาก่อน
ประเด็นนี้มีงานศึกษาวิจัยในเรื่องเกี่ยวเนื่องออกมาหลายชิ้นด้วยกัน เช่น บางงานระบุว่าสัญญาณอาการป่วยอัลไซเมอร์สามารถมองเห็นได้ล่วงหน้าถึง 6 ปี จากการจับผิดเรื่องการชำระค่างวดต่างๆ นี่ล่ะ ซึ่งต้องหมั่นสังเกตเพื่อนฝูงเราหรือคนในครอบครัวว่ามีแนวโน้มผิดนัดชำระค่าใช้จ่ายอย่างนั้นซ้ำๆ หรือเปล่า หรือเอาชัวร์ว่าป่วยแน่ๆ อาการจะชัดเจนมากขึ้นในช่วงเวลา 2 ปีครึ่งก่อนตรวจพบ
หรือในการศึกษาของ Maynooth University ร่วมกับ University College ให้ตัวเลขที่ต่างออกไปหน่อย บอกว่าสามารถดูสัญญาณล่วงหน้าได้ 4 ปีก่อนตรวจพบ ซึ่งผลวิเคราะห์คนที่มีความเสี่ยงในพฤติกรรมทางการเงินได้รับวินิจฉัยมากถึงร้อยละ 27.94 ว่ามีแนวโน้มป่วยอัลไซเมอร์ล่วงหน้า 4 ปี
ส่วนผลศึกษาที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาสดๆ ในปีนี้ ของ Journal of the American Medical Association (JAMA) Network Open พบว่า คนที่ลงทะเบียนมอบอำนาจการใช้จ่ายทางการเงินให้กับบุคคลอื่นมักเป็นคนที่มีพฤติกรรมการใช้จ่ายเปลี่ยนไปจนต้องมีคนช่วยดูแล
เพราะผู้ป่วยในระยะแรกเริ่มอาจไม่ตระหนักว่าตัวเองมีความเสี่ยงต่อความผิดพลาดทางการเงิน (รวมถึงการถูกคอลเซ็นเตอร์หลอก) และภาวะนี้จะแย่ลงไปตามกาลเวลาที่นานขึ้น ซึ่งในบางประเทศหน่วยงานที่ดูแลผู้สูงอายุต่างได้ยกเรื่องทางการเงินเป็นวาระสำคัญที่ครอบครัวต้องดูแล และย้ำความสำคัญของการวางแผนการใช้จ่ายล่วงหน้า เช่น ควรมอบอำนาจให้แก่คนในครอบครัว หรือตั้งระบบชำระค่าใช้จ่ายอัตโนมัติไว้ เพราะหากไม่เตรียมการไว้อาจเกิดภาระค่าใช้จ่ายยุ่งยากตามมา และอาจเลวร้ายถึงเปลี่ยนคนมีเงินสะสมให้กลายเป็นหนี้ไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
และที่สำคัญอีกอย่าง การจับสัญญาณได้เร็วยังช่วยให้มีการตรวจประเมินทางการแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ หรือนำไปสู่การปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ ซึ่งอย่างน้อยๆ ก็ช่วยชะลอความเสี่ยง ลดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ และยืดระยะเวลาที่ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองได้นานขึ้น
และฝากถึงเจ้าหนี้ หากพบว่าลูกหนี้จ่ายคืนช้า ก็ลองพินิจพิเคราะห์ดูเสียหน่อย ไม่แน่ว่าลูกหนี้ของเราอาจกลายเป็นผู้ป่วยอยู่ก็ได้