พิชัย มอบการบ้าน 'กกร.' คิดสารพัดสูตรสู้ภาษีทรัมป์ พร้อมมาตรการรับมือ ส่ง 11 ก.ค.
พิชัย มอบการบ้าน ‘กกร.’ คิดสารพัดสูตรสู้ภาษีทรัมป์ พร้อมมาตรการรับมือ ส่ง 11 ก.ค.
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคมนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือร่วมกับคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า ในการประชุมวันนี้ได้มีการประเมินผลกระทบในทุกสมมติฐาน และความเป็นไปได้ของแต่ละอัตราภาษี ที่จะเริ่มมีผลในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ และให้ทางภาคเอกชนกลับไปประเมิน โดยเน้นกระบวนการทำงานแบบเจาะลึกรายละเอียด เพื่อวิเคราะห์ผลกระทบที่แท้จริงต่อภาคธุรกิจไทยอย่างรอบด้าน
“ขณะนี้เราเข้าสู่ช่วงสำคัญของกระบวนการเจรจา และต้องเตรียมพร้อมในทุกทางเลือก เพราะผลลัพธ์ที่ออกมาอาจมีได้หลายแบบ ทั้งกรณีที่เจรจาสำเร็จ เจรจาได้บางส่วน หรือไม่ได้เลย เราต้องประเมินให้ครบ และดูว่าผลกระทบจะตกอยู่กับใครบ้าง” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวอีกว่า จากการประชุม ได้รับมอบหมายให้จัดทำการบ้าน เพื่อระบุปัญหา และผลกระทบที่ชัดเจนของแต่ละธุรกิจ รวมถึง ความต้องการในเชิงนโยบาย หรือมาตรการช่วยเหลือ โดยมีกำหนดเสนอผลการวิเคราะห์กลับมายังกระทรวงการคลังภายในวันที่ 11 กรกฎาคมนี้
“เมื่อได้ข้อมูลครบถ้วนจากแต่ละกลุ่มธุรกิจแล้ว จะประชุมภายในเพื่อคัดกรอง ปรับมาตรการให้เหมาะสมกับแต่ละกลุ่ม โดยไม่ต้องรอการประชุมใหญ่อีกครั้ง หากยังไม่เพียงพอ ก็สามารถเรียกประชุมเพิ่มเติมได้ทันที” นายพิชัยกล่าว
นายพิชัยกล่าวต่อว่า ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับแต่ละภาคธุรกิจจะไม่เท่ากัน เนื่องจากขึ้นอยู่กับอัตราภาษี และสัดส่วนของการใช้วัตถุดิบในประเทศของแต่ละอุตสาหกรรม มีความแตกต่างกัน ทำให้ภาระภาษีไม่เท่ากัน
“ต้องเปลี่ยนวิธีคิดว่า ผลลัพธ์มันอาจจะออกทางไหนบ้าง แล้วจะมีหลายทาง ผลลัพธ์ดี ปานกลาง เมื่อเรามีวิธีคิดแบบนี้ ต้องนั่งคิดดูว่ามันกระทบใครบ้าง ส่วนในเรื่องของการเจรจา ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการรอฟังคำตอบจากทางสหรัฐ แต่การเจรจายังคงมีอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะถึงวันที่ 1 สิงหาคม” นายพิชัยกล่าว
นายปิติ ดิษยทัต รองผู้ว่าการ ด้านเสถียรภาพการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวในการจัดงาน Monetary Policy Forum 2/2568 ว่า 3 ประเด็นหลักที่ให้ความสำคัญ คือ 1.แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังปี 2568 ถือว่าไม่ดีเลย เพราะเป็นการเติบโตต่ำกว่าศักยภาพจากความเสี่ยงของปัจจัยการปรับขึ้นภาษีสหรัฐในอัตรา 36% 2.สภาพเศรษฐกิจโดยรวมครึ่งแรกปี 2568 มีการขยายตัวอยู่ ส่วนหนึ่งมาจากไตรมาส 2 มีการเร่งส่งออกสินค้าไปสหรัฐ ทำให้ครึ่งแรกโตเฉลี่ย 3% แต่มองไปข้างหน้าภาพไม่ได้ต่างจากสำนักอื่นมองนัก คือมีความท้าทายค่อนข้างมาก และ 3.นโยบายทางการเงิน ที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มองว่าจุดยืนของนโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย และช่วยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งที่เหมาะสม ทั้งนี้ กนง.พร้อมปรับเปลี่ยนนโยบายเพิ่มเติม หากดาวน์ไซส์ลิสต์เกิดขึ้นจริง หรือมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน
เกิดขึ้นอีก
น.ส.บัณณรี ปัณณราช ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจมหภาค ธปท.กล่าวว่า คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2568 เดิม ธปท.ประเมินจีดีพีขยายตัว 2.3% โดยขยายตัวดีใกล้เคียง 3% ในช่วงครึ่งปีแรก และชะลอตัวรุนแรงช่วง
ครึ่งหลังปีนี้ คาดว่าจีดีพีโตเพียง 1.6% ต่อเนื่องถึงปี 2569 คาดจะขยายตัวได้เพียง 1.7% เป็นผลจากการส่งออกคาดว่าติดลบ การลงทุนภาคเอกชนขยายตัวต่ำมาก รวมทั้ง การบริโภคชะลอตัว โดยเฉพาะผลกระทบของนโยบายปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ ทำให้ส่งออกปีนี้ติดลบ 4% และปี 2569 ติดลบ 2% จะส่งผลต่อเนื่องมายังการบริโภค และการลงทุนภายในประเทศ รวมถึง รายรับภาคการท่องเที่ยวที่ชะลอตัวลง จากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลง แม้มีนักท่องเที่ยวระยะไกลเพิ่มขึ้น ท่องเที่ยวกระจุกใน 6 เมืองหลัก ทำให้ภาพรวมถือเป็นความท้าทายของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ซึ่งจะเติบโตได้ต่ำกว่า 2% อย่างน้อยอีกปีครึ่ง
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พิชัย มอบการบ้าน ‘กกร.’ คิดสารพัดสูตรสู้ภาษีทรัมป์ พร้อมมาตรการรับมือ ส่ง 11 ก.ค.
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th