ดีลลับ‘ส้ม-น้ำเงิน’ใครได้ใครเสีย
หาก “นายกฯอิ๊งค์”แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่ต้องไปนั่งทำงานในเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรมไปพลางในขณะนี้ ต้องร่วงเก้าอี้นายกฯ ปมคลิปเสียง “อังเคิล ฮุน เซน” พ่นพิษ จากอิทธิฤทธิ์คำร้องของ สว.ค่ายน้ำเงินต่อศาลรัฐธรรมนูญ อันจะทำให้ ครม.ต้องหลุดทุกตำแหน่ง และต้องฟอร์ม ครม.กันใหม่อีรุงตุงนัง
ทำเอา“เสี่ยหนู”ปรี๊ดแตก ออกมาปฏิเสธว่า ไม่เคยเสนอตัวเป็นนายกฯ ชั่วคราว ไม่รู้ว่าเป็น IO ของใครหรือเปล่า ตนเองเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคภูมิใจไทยและการเป็นนายกฯแบบชั่วคราวนั้นไม่มี ทุกอย่างมีกลไกของรัฐสภาเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
ต่อมา“เท้ง”และแกนนำพรรคประชาชนหลายคน ออกมาปรับบทในทำนองว่า ไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลที่เป็นแคนดิเดตนายกฯ ว่าเป็นใครจากพรรคใด แต่เป็นคนที่ยอมรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ คือ เป็นนายกฯ ชั่วคราว เดินหน้าเรื่องแก้รัฐธรรมนูญ ยุบสภาภายในสิ้นปีและจัดเลือกตั้งใหม่
การออกมาแสดงท่าทีหนุนนายกฯ จากค่ายน้ำเงินในครั้งนี้ ถือเป็นฉากใหม่การเมืองไทย ที่ต้องตั้งคำถามว่าแท้จริงแล้วดีเอ็นเอของค่ายส้มคืออะไรกันแน่ถึงเลือกชูแคนดิเดตฟากที่อยู่คนละฝั่งอุดมการณ์ทางการเมืองขึ้นเป็นนายกฯ แม้จะมีการอธิบายว่าเพื่อไม่ให้การเมืองไทยเดินสู่ทางตัน จนทหารต้องออกมาทำการรัฐประหารอีกครั้ง แต่ดูเป็นการตีตนไปก่อนไข้หรือไม่ เพราะหากรวมเสียงซีกรัฐบาลในสภาแล้วยังถือว่า “ชัยเกษม นิติสิริ” แคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยยังมีแต้มต่ออยู่
ขณะที่ลูกหาบพรรคเพื่อไทยเลือดขึ้นหน้าออกมาสับกระแสดีลลับนี้ โดย “วิสุทธิ์ ไชยณรุณ”สส.บัญชีรายชื่อและประธาน สส.พรรคเพื่อไทย ไล่หัวหน้าพรรคภูมิใจไปเป็นฝ่ายค้านให้ชิน หาก “นายกฯอิ๊งค์”เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ต้องผ่านชัยเกษมก่อน “ยังไม่ถึงตาคุณรอไปก่อน จะรีบไปไหนใจเย็นๆ ส้มกับนํ้าเงินดีเอ็นเอตรงกันหรือ พรรคร่วมรัฐบาลยังเกาะกันอยู่ จะชนะได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่ายาก เป็นฝ่ายค้านสักระยะจะได้ชิน”
ด้าน “ชาดา ไทยเศรษฐ์”แกนนำพรรคสีน้ำเงิน ออกมาติดเบรก ประกาศชัดว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่ยอมเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยอย่างแน่นอน
ทั้งนี้เกมการเมืองที่พรรคส้มทำการเปิดดีลกับค่ายน้ำเงิน ดูเหมือนเป็นการเอาคืนพรรคเพื่อไทยที่เคยหนีไปตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้วทั้งกับสีน้ำเงินและสีเขียว และอาจมองได้ว่าเป็นการส่งสัญญาณไปถึงชนชั้นนำฝ่ายอนุรักษ์นิยมว่าค่ายส้มพร้อมหมอบแลกกับการยืนการเมืองในระยะยาว เพราะยังมีวิบากกรรมอื่นๆ รออยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะกรณี 44 สส.ที่รอขึ้นเขียงป.ป.ช.อยู่มะรอมมะร่อ ไม่รู้ว่าจะเดินไปถึงการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือเปล่าหากการเมืองเป็นไปตามเทอมปกติ
อย่างไรก็ตามหากเลือกเดินทางนี้พรรคประชาชนก็ต้องย้อนถามตัวเองด้วยว่าเป็นการผสมพันธุ์ข้ามขั้วและยังยืนหลังตรงตามที่เคยประกาศไว้กับชาวด้อมส้มหรือไม่
งานนี้ต้องดูว่าดีลลับนี้ใครได้ใครเสียเพราะการเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยเอง ส่งสัญญาณให้เห็นว่าการเมืองยังพลิกคว่ำพลิกหงายโอกาสที่จะผงาดขึ้นมาอยู่ในบัลลังก์อำนาจก็มีความเป็นไปได้ สิ่งที่ได้ ณ ขณะนี้ คือการส่งสัญญาณให้อาณาจักรเครือข่ายสีน้ำเงิน ทั้ง สว. ข้าราชการ นักการเมืองได้มีความหวังและไม่ตัดสินใจโดดหนี ดังนั้นจึงต้องจับตาดูการเมืองช่วงนี้ให้ดี…อะไรก็เกิดขึ้นได้.