‘ศบ.ทก.’ ย้ำกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไทยโต้กลับควบคุมได้ 11 พื้นที่
"ศบ.ทก." ย้ำกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไทยโต้กลับและควบคุมได้ 11 พื้นที่ ชี้เขมรควรปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดโดยทันที
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า จากข้อตกลงหยุดยิงระหว่างไทย-กัมพูชา ในเวลา 24.00 น. ที่ผ่านมา ซึ่งไทยยืนยันปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด หยุดยิงในทุกๆ พื้นที่ ตามข้อตกลงที่ให้คำมั่นสัญญา
ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-ใช้ โบราณสถาน เป็นโล่กำบัง
แต่หลังจากเลยเวลากำหนดหยุดยิง ไทยได้พิสูจน์ทราบว่า กัมพูชาได้ใช้อาวุธจริงเข้ามาในเขตแดนประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่จงใจละเมิดข้อตกลง และทำลายความเชื่อมั่นที่มีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน
ทำให้ฝ่ายไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิการป้องกันตนเอง ตามหลักกฏหมายระหว่างประเทศ ฝ่ายไทยไม่ได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่ใช้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
นอกจากนี้ ยังปรากฏทราบว่า ทางฝ่ายกัมพูชา ได้ใช้ ‘โบราณสถาน’ เป็นโล่กำบัง ซึ่งเป็นการละเมิดพันธะกรณีคุ้มครองทางวัฒนธรรม ของสหประชาชาติ ภายใต้อนุสัญญาของยูเนสโก สิ่งเหล่านี้ปรากฏชัดว่า การละเมิด ไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงที่ให้กันไว้ ศบ.ทก. ขอประณาม การกระทำของทหารกัมพูชา
ควบคุมได้ 11 พื้นที่
ส่วน การสรุปสถานการณ์ การปะทะในพื้นที่ ระหว่างไทยกัมพูชาที่ผ่านมา ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันนี้ ไทยสามารถควบคุมพื้นที่ได้ทั้งหมด 11 พื้นที่ ได้ ภูมะเขือ ช่องอานม้า ปราสาทตาเมืองธม ปราสาทตาควาย แนวเขตแดนช่องบก ปราสาทโดนตวล สัตตะโสม ช่องจอม ช่องสายตะกู พระวิหาร และ พลาญยาว
ส่วนยอดผู้อพยพ มีทั้งสิ้น 188,729 คน พลเรือนเสียชีวิต 15 คน บาดเจ็บสาหัส 12 คน ปานกลาง 13 คน เล็กน้อย 13 คน รวมยอดทั้งหมด 53 คน เพิ่มขึ้น 1 รายใน จ.สุรินทร์ ทั้งนี้ผู้บาดเจ็บรักษาตัวในโรงพยาบาล 14 ราย ขณะสถานพยาบาลที่ได้รับผลกระทบมีทั้งหมด 20 แห่ง ปิดบริการ 13 แห่ง ปิดบางส่วน 7 แห่ง รพ.สต. ได้ ผลกระทบ 175 แห่ง
สำหรับแนวทางการส่งกลับผู้ป่วย ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต ตลอดจนผู้ถูกควบคุม ทั้งสองฝ่ายจะมีการหารือเพื่อหาข้อยุติ เพื่อให้ได้ข้อตกลงร่วมกัน
และอยากให้มีการเฝ้าระวังการโจมตีทางไซเบอร์ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการใช้ Ai ข่าวปลอมข่าวลวงต่างๆ ขอประชาชนใช้วิจารณญาณในการติดตามและแชร์ข้อมูลข่าวสาร และอยากให้มีการแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ หากพบว่ามีการละเมิดทางไซเบอร์ โดยเฉพาะกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ที่จะเป็นหน่วยงานหลักในการรับผิดชอบเรื่องนี้
ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัดโดยทันที
ด้านนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า เรียกร้องให้นางฝ่ายกัมพูชาปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และโดยทันที และย้ำว่าการหยุดยิงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญกับการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อลดความตึงเครียดระหว่างสองประเทศได้
อย่างไรก็ตาม ขอให้ทางกัมพูชา ดูแลคนไทยที่อาศัยอยู่ในกัมพูชา เช่นเดียวกับไทยที่จะดูแลคนกัมพูชาที่อยู่ในประเทศไทยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามขอให้ให้ประชาชนที่อยู่ในศูนย์พักพิง อดทนรอ จนกว่าสถานการณ์จะสามารถ ให้กลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่สถานการณ์ขณะนี้ยังมีความเปราะบางอยู่
จากนี้ไทยต้องการเห็นความสุจริตใจของกัมพูชาในเรื่องของการหยุดยิงและการโจมตี โดยเฉพาะต่อพลเรือน และย้ำว่าการดำเนินการทุกอย่างของรัฐบาล ให้ความสำคัญกับการรักษาธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน บนผลประโยชน์ของชาติและความปลอดภัยของประชาชน
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- สธ. อัปเดต พลเรือนเสียชีวิต 15 ราย บาดเจ็บ 38 ราย รพ.ได้รับกระทบรวม 195 แห่ง
- รัฐบาล เตรียมส่งหนังสือแจ้ง ‘สหรัฐ-จีน’ กัมพูชาละเมิดข้อตกลง ไม่หยุดยิง
- โลกต้องรู้ กัมพูชาไม่หยุดยิง! กองทัพไทย ย้ำ ใช้สิทธิป้องกันตนเอง ปกป้องอธิปไตย
ติดตามเราได้ที่