‘ฮุน เซน’ ยกย่อง ‘โดนัลด์ ทรัมป์’ เจ้าภาพหยุดยิงไทย-กัมพูชา ช่วยชีวิตผู้คนนับหมื่น
จากกรณีสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เมื่อเวลา 24.00 น.ของวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมาหยุดยิงตามข้อตกลงระหว่าง นายภูมิธรรม เวชยชัย และรองนายกฯ ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ กับ พล.อ.ฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชา ตามที่ข่าวเสนอไปก่อนหน้านี้
เมื่อวันที่ 29 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า"สมเด็จฮุน เซน" ประธานวุฒิสภากัมพูชา ได้ออกมาโพสต์ขอบคุณ ผู้นำสหรัฐ "โดนัลด์ ทรัมป์" ที่ได้ช่วยชีวิตผู้คนนับหมื่นจากสงครามกัมพูชา-ประเทศไทย ลงแฟนเพจ "Samdech Hun Sen of Cambodia"
โดยสมเด็จฮุน เซน ระบุข้อความว่า"ความสําเร็จของความคิดริเริ่มที่ยอดเยี่ยมของ H.E. Donald Trump ช่วยชีวิตคนนับหมื่นจากสงครามกัมพูชา-ไทย ก่อนอื่นเลย ฉันอยากจะขอบคุณ H ประธานาธิบดี E Donald Trump สําหรับความคิดริเริ่มที่ยิ่งใหญ่ของเขาในการสร้างการหยุดยิงและความสงบระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย ซึ่งเป็นความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ช่วยชีวิตคนจํานวนมากทั้งในกัมพูชาและ ประเทศไทย และขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ที่ช่วยจัดเตรียมสถานที่ประชุมและจัดทําข้อตกลงการหยุดยิง ซึ่งกําลังดีและมีประสิทธิภาพ"
นอกจากนี้ "ผมขอขอบคุณเพื่อนชาวจีนที่ช่วยเหลือและขอขอบคุณทุกประเทศที่สนับสนุนข้อตกลงหยุดยิงและขอขอบคุณชาวกัมพูชาและชาวไทย ขอบคุณกองทัพกัมพูชาและกองทัพไทยที่สนับสนุนกระบวนการสันติภาพครั้งนี้ ความสําเร็จของความคิดริเริ่มอันน่าทึ่งโดยท่าน Donald Trump ได้ช่วยชีวิตผู้คนนับหมื่นจากสงครามกัมพูชา-ประเทศไทย"
อีกทั้ง "ก่อนอื่นเลย ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สําหรับความคิดริเริ่มที่มีวิสัยทัศน์ในการสร้างการหยุดยิงและความสงบระหว่างกัมพูชาและ ประเทศไทย ความคิดริเริ่มนี้คือความสําเร็จอันยิ่งใหญ่ที่ช่วยชีวิตคนนับไม่ถ้วนทั้งกัมพูชาและ ประเทศไทย ผมขอขอบคุณท่านนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย Anwar Ibrahim ที่ช่วยจัดสถานที่ประชุมและอํานวยความสะดวกในข้อตกลงการหยุดยิงครั้งนี้ ข้อตกลงการหยุดยิงและสันติภาพนี้ทําให้เกิดผลลัพธ์ในเชิงบวกและมีประสิทธิภาพ"
อย่างไรก็ตาม "ผมอยากจะแสดงความขอบคุณกับเพื่อนชาวจีนของเราสําหรับการสนับสนุนของพวกเขา รวมถึงทุกชาติที่เป็นมิตรที่ได้รับรองข้อตกลงการหยุดยิงนี้ ฉันอยากจะขอบคุณชาวกัมพูชาและ ประเทศไทย พร้อมกับกองกําลังติดอาวุธของทั้งสองประเทศสําหรับการสนับสนุนกระบวนการสันติภาพนี้อย่างมั่นคง"
ขอบคุณข้อมูล : Samdech Hun Sen of Cambodia