ไฟสงครามลามบ่อน!! เครือข่าย “ฮุนเซน” เจ็บหนัก

การปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา ได้กลายเป็นแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ต่อธุรกิจคาสิโนกัมพูชา โดยเฉพาะพื้นที่ปอยเปตที่พึ่งพานักพนันจากฝั่งไทยเป็นหลัก เหตุการณ์นี้ไม่เพียงทำให้ยอดนักท่องเที่ยวหายวับ แต่ยังลากรายได้ของคาสิโนยักษ์ใหญ่ตกวูบ

โรงแรมและคาสิโนในปอยเปตกำลังเผชิญภาวะ “ห้องว่าง-โต๊ะร้าง” ยอดเข้าพักลดลงกว่า 42% ขณะที่จำนวนพนักงานหายไปถึง 62% ในเวลาเพียงไม่กี่สัปดาห์ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบหนักคือ Star Vegas คาสิโนชื่อดังที่บริหารโดย Donaco International ซึ่งรายงานว่ารายได้และกำไรในไตรมาสสองของปี 2025 ร่วงลงอย่างมีนัยสำคัญ เหตุผลไม่ซับซ้อน นั่นเพราะลูกค้าหลักกว่า 80% มาจากฝั่งไทย และเมื่อด่านปิด ประตูเงินก็ปิดตามไปด้วย

นอกจากการห้ามคนไทยข้ามแดนเพื่อเล่นพนันแล้ว ยังรวมถึงการสั่งห้ามแรงงานไทยที่ทำงานในคาสิโนกัมพูชาข้ามแดน ซึ่งหมายความว่าแม้แต่การเดินทางไปทำงานก็ไม่สามารถทำได้ สถานการณ์นี้ตอกย้ำการพึ่งพาตลาดไทยอย่างหนักของอุตสาหกรรมคาสิโนริมชายแดน และทำให้เห็นความเปราะบางที่ซ่อนอยู่มานาน

แต่สิ่งที่อยู่ใต้ผิวน้ำของเรื่องนี้ คือการที่ธุรกิจคาสิโนในกัมพูชา ไม่ได้เป็นเพียงแหล่งบันเทิงและรายได้ของพื้นที่ชายแดนเท่านั้น หากยังเป็นเสาหลักด้านผลประโยชน์ของเครือข่ายอำนาจการเมืองระดับสูง โดยเฉพาะกลุ่มที่มีสายสัมพันธ์กับอดีตนายกรัฐมนตรีฮุน เซน

ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ Kok An เจ้าพ่อคาสิโนรายใหญ่ ผู้กุมกิจการ Crown Casino และมีฐานธุรกิจครอบคลุม Poipet ไปจนถึงกรุงพนมเปญ เป็นที่รู้จักในฐานะพันธมิตรทางการเมือง และผู้สนับสนุนทางการเงินของพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ซึ่งฮุน เซนเป็นผู้นำยาวนาน

อีกหนึ่งชื่อที่ทรงอิทธิพลคือ Ly Yong Phat หรือ “เสี่ยพัฒน์” เจ้าของอาณาจักร LYP Group ที่ครอบคลุมธุรกิจคาสิโน โรงแรม สะพาน และนิคมอุตสาหกรรมในจังหวัด Koh Kong และ Poipet ความใกล้ชิดกับตระกูลฮุน ทำให้เขาได้รับตำแหน่งที่ปรึกษาระดับสูงในรัฐบาล

ในเครือข่ายนี้ ยังมีการใช้ระบบ “ถือหุ้นแทน” (nominee shareholding) เพื่อซ่อนการถือครองจริงของผู้มีอำนาจทางการเมือง ช่วยให้ผลประโยชน์จากธุรกิจคาสิโนและบริการที่เกี่ยวข้องไหลกลับสู่เครือข่ายโดยไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ

ปัญหาซับซ้อนขึ้นเมื่อมีการเปิดโปงว่า บางคาสิโนและรีสอร์ทในกัมพูชาเป็นฐานปฏิบัติการของ Scam Centers หรือศูนย์ฉ้อโกงออนไลน์ ที่ใช้แรงงานต่างชาติโดยผิดกฎหมาย Amnesty International ระบุว่ารัฐบาลกัมพูชาและเจ้าหน้าที่บางส่วนเพิกเฉยต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในศูนย์เหล่านี้ ขณะที่สื่อระดับโลกอย่าง The Times รายงานว่าญาติของฮุน เซน และเครือข่ายนักการเมืองมีส่วนเกี่ยวพันกับบริษัทที่ดำเนินการแพลตฟอร์มฉ้อโกงดังกล่าว

เมื่อพิจารณารวมกัน เหตุการณ์ปิดด่านชายแดนไม่เพียงทำให้รายได้ของธุรกิจคาสิโนหายไปในทันที แต่ยังสั่นคลอนโครงสร้างผลประโยชน์ของเครือข่ายอำนาจการเมืองในกัมพูชา ที่เชื่อมโยงระหว่างทุนคาสิโนกับการเมืองอย่างแน่นหนา การหยุดชะงักครั้งนี้จึงเป็นมากกว่าเรื่องเศรษฐกิจชายแดน แต่เป็นแรงกระเพื่อมที่อาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองและการจัดวางอำนาจในระยะยาว

สำหรับผู้ประกอบการคาสิโน แม้การกระจายตลาดไปยังลูกค้าจากประเทศอื่นหรือการพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์อาจเป็นทางออก แต่ความจริงก็คือ การอยู่รอดของอุตสาหกรรมนี้ในกัมพูชายังขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ข้ามพรมแดนไทย-กัมพูชา และสภาพภูมิรัฐศาสตร์ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงได้ทุกเมื่อ

#ไฟสงครามลามบ่อน#บ่อนปอยเปตวิกฤติ#เครือข่ายฮุนเซน#สงครามชายแดน#ทุบบ่อนปอยเปต#ข่าวการเมืองกัมพูชา#คาสิโนกัมพูชา#ชายแดนไทยกัมพูชา#สงครามผลประโยชน์#เศรษฐกิจชายแดน#โป๊ะแตกกัมพูชา #สะเทือนเครือข่ายฮุนเซน#ข่าวด่วนชายแดน#เดือดชายแดน