โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ปตท. ชูแผน สู้ วิกฤติ 'ชายแดน' ลุยปรับพอร์ตธุรกิจ ดันกระแสเงินสดกว่าแสนล้าน

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 11 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แม้ความท้าทายจากปัจจัยภายนอกต่างๆ อาทิ สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้มีส่วนต่างของกำไรขาดทุนจากสต็อกน้ำมัน ประกอบกับ Spread ของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีที่ลดลง ผลการดำเนินงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รอบ 6 เดือนแรกปี 2568 ยังคงแข็งแกร่งด้วยกำไรสุทธิ 44,848 ล้านบาท เทียบกับกำไรสุทธิของทั้งปี 2567 ซึ่งอยู่ที่ 90,072 ล้านบาท

นายคงกระพัน อินทรแจ้ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ด้วยวิสัยทัศน์ “ปตท. แข็งแรงร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน” โดยมีพันธกิจในการสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ สร้างการเติบโตควบคู่กับการลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมดูแลผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างสมดุลและยั่งยืน

"แนวโน้มผลกำเนินงานครึ่งปีหลัง มองว่าราคาน้ำมันคงไม่ขึ้นไปสูงมาก ดังนั้น จากสภาวะเศรษฐกิจ มาร์จิ้นกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นจะยังคงทรงๆ ดังนั้น ความสามรถจากวิชั่น และการเพิ่ม EBITDA จะเป็นไปตามเป้าที่วางไว้"

สำหรับ แผนการลงทุนกลุ่มปตท. ในสหรัฐ และผลกระทบภาษีสหรัฐนั้น ปตท. จะยังคงเป็นผู้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด สิ่งไหนที่ทำไปแล้วและประเทศได้ประโยชน์ก็ทำต่อไป โดยกลุ่มปตท. ได้ทำสัญญาในการจัดหาก๊าซ LNG มานานปริมาณ 1 ล้านตัน ถือเป็นเครื่องมือช่วยให้รัฐบาลได้ต่อรองได้ โดยการซื้อ-ขายต้องมีการเจรจา เพราะ LNG มีราคาอ้างอิงทั่วโลก แต่ LNG จากแหล่ง Alaska ที่อยู่ทางตอนเหนือของสหรัฐเบื้องต้นในปริมาณ 2 ล้านตันต่อปี สัญญาระยะยาว 15-20 ปี โดยกว่าจะออกมาตามการ MOU ก็อีก 4 ปี โดยวันข้างหน้าสัญญาระยะยาวที่จะนำเข้าจะครบสัญญา ในส่วนนี้ก็จะเข้ามาทดแทนได้ เป็นประโยชน์กับประเทศที่ต่อรอง

"เรื่องภาษีทรัมป์เราก็ติดตามสถานการณ์ โดยโลกมีความไม่แน่นนอนในหลายเรื่อง ทั้งภูมิรัฐศาสตร์ กลุ่มปตท. จะต้องบริหารจัดการและวางแผนการลงทุนอย่างระมัดระวัง รักษาผลตอบแทนที่ดี ภาษีสหรัฐจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เป็นควาเสี่ยง แผนที่รองรับไว้ก็ต้องรองรับโดยการตั้งวอร์รูม"

ส่วนปัญหาชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ถือเป็นอีกปัญหาที่กลุ่มปตท. ได้จับตาอย่างใกล้ชิด ดังนั้น ปตท. ในฐานะบริษัทพลังงานชาติ ที่ต้องคำนึงถึงความมั่นคงของประเทศที่ต้องมาอันดับหนึ่ง เรื่องของปัญหาข้อพิพาทชายแดนนี้จึงเป็นอีกเรื่องสำคัญที่เหมือนกับมาตรการภาษีสหรัฐ หรือเรื่องของภูมิรัฐศาสตร์ โดยเมื่อเทียบธุรกิจทั้งกลุ่มแล้ว ปตท. ต้องบริหารจัดการด้านภูมิรัฐศาสตร์ให้ดี เป็นอีกหนึ่งในวิธีการดำเนินการ ดังนั้น คนไทยต้องเอาเรื่องของประเทศไว้ก่อน

“เรื่องของไทยและกัมพูชา ถือเป็นความไม่แน่นอนทางภูมิรัศฐศาตร์ ปกติเราก็มีการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจอยู่แล้ว ดังนั้น ในเรื่องนี้ให้ บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เป็นผู้บริหารความเสี่ยงและตัดสินใจ โดยปตท. มองความสำคัญภายในประเทศมากกว่า”

ทั้งนี้ ปตท.มั่นใจกลยุทธ์ปตท. มาถูกทาง โดยตั้งวอร์รูมจัดทำ Scenario Planning ที่ยืดหยุ่นและปรับเปลี่ยนได้ทันต่อสถานการณ์ อาทิ 1. ความขัดแย่งภูมิรัฐศาสตร์ 2. ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี 3. กฏหมายและระเบียบข้อบังคับ 4. การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน 5. การเปลี่ยนของภูมิทัศน์อุตสาหกรรม เมื่อรวมกับปัญหาสงครามการค้าและภาษีทรัมป์ ปตท. จึงต้องรับมือบริหารจัดการความไม่แน่นอนเหล่านี้ โดยเร่งดำเนินการเพิ่มผลการดำเนินงานด้านการเงิน

ทั้งนี้ ปตท. มีการดำเนินงานตามกลยุทธ์ที่สำคัญในไตรมาสที่ผ่านมา ดังนี้

1. ธุรกิจ Hydrocarbon ที่เป็นธุรกิจหลักที่ ปตท. มีความเชี่ยวชาญ โดยเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ มุ่งเน้นเสริมสร้างความสามารถการแข่งขันอย่างต่อเนื่อง อาทิ การขยายธุรกิจด้านสำรวจและผลิต โดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. ได้ขยายการสำรวจและผลิตในแหล่งใหม่ๆ โดยมีปริมาณการซื้อขายเพิ่มขึ้นจากทั้งแหล่งอาทิตย์ แหล่งสินภูฮ่อม และแหล่ง MTJDA รวมไปถึงชนะการประมูลในโครงการ Reggane II

ขณะเดียวกัน ปตท. ได้ตั้งเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Global LNG Player สร้างการเติบโต ขยาย LNG Portfolio สู่เป้าหมาย 10 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2573 และ 15 ล้านตันต่อปี ภายในปี 2578 พร้อมลงนามข้อตกลงร่วมศึกษาการจัดหา LNG ระยะยาวกับบริษัท 8 Star Alaska, LLC ประเทศสหรัฐอเมริกา

2. ธุรกิจ Non-Hydrocarbon มีความก้าวหน้าที่ดี เดินตามแผนกลยุทธ์ปรับพอร์ตการลงทุน โดยธุรกิจ Life Science ร่วมกับพันธมิตรที่เชี่ยวชาญ สร้างการเติบโตแบบพึ่งพาตนเอง (Self-funding) ปรับการถือหุ้น Lotus ผ่านธุรกรรมการขายหุ้น เพื่อเพิ่มความคล่องตัว รวมทั้งปรับโครงสร้างธุรกิจ EV จำหน่ายเงินลงทุนในบริษัท นีโอ โมบิลิตี้ เอเชีย จำกัด โดยเป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้

ส่วนการดำเนินงานด้านความยั่งยืน กลุ่ม ปตท. ยึดหลักการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างสมดุลใน 3 มิติ ได้แก่ 1. เสริมสร้างความมั่นคงทางพลังงาน มีการกระจายความเสี่ยง สามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ (Security) 2. จัดหาแหล่งพลังงานที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่เหมาะสม ด้วยต้นทุนที่แข่งขันได้ (Affordability / Competitiveness) และ 3. ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืน ควบคู่การลดก๊าซเรือนกระจก (Sustainability) ดำเนินการศึกษา Eastern Thailand CCS Hub แล้วเสร็จ โดยมีการ FID โครงการ CCS ในแหล่งอาทิตย์ พร้อมแสวงหาโอกาสการลงทุนในต่างประเทศ

ด้านธุรกิจไฮโดรเจน ศึกษาโอกาสในการจัดหาแอมโมเนียคาร์บอนต่ำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้า พร้อมลงนามข้อตกลงความร่วมมือศึกษาความเป็นไปได้ทางเทคนิคและเชิงพาณิชย์ในการจัดหาไฮโดรเจนสีเขียวและแอมโมเนียสีเขียวที่ผลิตในประเทศอินเดียสู่ประเทศไทยร่วมกับ Avaada Ventures Private Limited

สำหรับ Key Initiatives เพื่อ EBITDA Uplift และตอบสนองต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย แบ่งออกเป็น 3 ช่วงเวลา ได้แก่ ระยะสั้น Non-Hydrocarbon Business Restructuring มี 3 กลยุทธ์หลัก ได้แก่

1. P1 & D1 - Supply Chain Optimization โดยตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 5,800 ล้านบาท/ปี ภายในปี 2030 โดยเป้าปีนี้ 4,325 ล้านบาท

2. MissionX - Operational Excellence ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 30,000 ล้านบาท/ปี ภายในปี 2027 (เป้าหมายปีนี้ 10,000 ล้านบาท)

3. AXIS - Digital Transformation ตั้งเป้าเพิ่มรายได้ 12,000 ล้านบาท/ปี ภายในปี 2029 (เป้าหมายปีนี้ 200 ล้านบาท)

ส่วนระยะกลาง Reshape P&R Portfolio ปรับโครงสร้างธุรกิจปิโตรเคมีและการกลั่น โดยทำการปรับ Portfolio กลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมและโรงกลั่น (P&R) เสริมความแข็งแกร่งให้บริษัทเรือธง (Flagships) โดยเปิดโอกาสให้มีพาทเนอร์เข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่า ซึ่งต้องเป็นพาทเนอร์ที่ต้องอยู่ในอุตสาหกรรม และ ปตท. ยังมองว่าเป็นธุรกิจเรือธงของกลุ่มอยู่ และยังถือเป็นหุ้นใหญ่ โดยคาดว่าจะมีการสรุปรายชื่อพาทเนอร์ได้ภายในปี 2568 และตั้งเป้าดำเนินธุรกิจแล้วเสร็จภายในปี 2569 ส่วนธุรกิจ LNG Growth ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิต LNG เป็น 10 ล้านตัน ภายในปี 2030 และ 15 ล้านตัน ภายในปี 2035

ในขณะที่ระยะยาว ผ่านธุรกิจ CCS (Carbon Capture and Storage) โดยปีนี้อยู่ระหว่างศึกษาพัฒนาแหล่งอาทิตย์ Arthit CCS FID และปี 2028 คาดจะมีปริมาณ CCS COD ที่ 1 ล้านตัน ส่วนปี 2034 จะขยายสู่การเป็น Eastern Thailand CCS Hub ที่ปริมาณกว่า 5 ล้านตัน

ส่วนธุรกิจ Hydrogen อยู่ระหว่างจัดทำ Hydrogen/Ammonia business roadmap คาดแล้วเสร็จในปีนี้ และปี 2030 สามารถสร้างเครือข่ายการจัดหาและโครงสร้างพื้นฐานทดลองนำร่องแอมโมเนีย ใช้เป็นเชื้อเพลิงร่วมในโรงไฟฟ้าถ่านหิน

ดังนั้น จะทำให้ EBITDA ที่มาจากการ Cost Saving รักษาวินัยทางการเงิน, ประหยัดค่าใช้จ่ายดำเนินงานครึ่งปีแรกปี 2025 ที่ 3,814 ล้านบาท คาดทั้งปีที่ 10,000 ล้านบาท ส่วน Asset Monetization โดยการบริหารสินทรัพย์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อเพิ่มผลการดำเนินงานและมีความมั่นคงในระยะยาว, แสวงหาโอกาสในการสร้างผลกำไร โดยมุ่งสร้างกระแสเงินสด 38,000 ล้านบาท ในปี 2025 และ 77,000 ล้านบาท ในปี 2026 รวมเพิ่มสภาพคล่อง 2 ปี กว่า 1.1 แสนล้านบาท

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) หนุนพัฒนาห้องปฏิบัติการคุณภาพ ชี้เป้าควรมี 1 หมื่นแห่งใน 10 ปี

43 นาทีที่แล้ว

'ไชยา' สั่งปิดประชุม ชิ่งหนี สภาฯ ล่ม หลัง 'ปชน.' ถามองค์ประชุม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาล รธน.เปิดถ่ายวงจรปิด ไต่สวน 'แพทองธาร' คดีคลิปเสียง 'ฮุน เซน'

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ไอซี! เบอร์ลิน’ รีเฟรชแบรนด์ครั้งใหญ่ งัดนโยบายโลกคุมทุกตลาด

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไอที ธุรกิจอื่น ๆ

กรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) หนุนพัฒนาห้องปฏิบัติการคุณภาพ ชี้เป้าควรมี 1 หมื่นแห่งใน 10 ปี

กรุงเทพธุรกิจ

‘พงศ์กวิน’ ยกระดับมาตรฐานปลอดภัยแรงงานไทย เดินหน้าสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แรงงานทุกภาคส่วน

THE STATES TIMES

GC–TPN FlexPak–W&H เปิดตัวฟิล์ม Mono Material 7 ชั้น รีไซเคิลได้ 100% พลิกโฉมบรรจุภัณฑ์ไทยสู่ Circular Economy

สยามรัฐ

‘เอกนัฏ’ ส่งทีมสุดซอย บุกค้นบ่อฝังกลบโรงงานปราจีนบุรี พบผิดเงื่อนไขหลายจุด!! กระทบวิถีชีวิตประชาชนในพื้นที่

THE STATES TIMES

ราคาน้ำมันวันพรุ่งนี้ 21 ส.ค. เช็กราคาน้ำมันเบนซิน-ดีเซล-โซฮอล์จาก 3 ปั๊มใหญ่

The Bangkok Insight

SCB ปรับทัพผู้บริหารใหม่ดัน “อารักษ์” นั่ง CFO รอขึ้นซีอีโอ – “มาณพ” นำขับเคลื่อน AutoX

ข่าวหุ้นธุรกิจ

PTT กางแผนสร้างกระแสเงินสด 1 แสนลบ. ใน 2 ปี เร่งขับเคลื่อนธุรกิจพลังงาน เดินหน้า Net Zero

ข่าวหุ้นธุรกิจ

จับตา!! ‘พิชัย’ นัดถก ‘ผู้แทนสหรัฐ’ กำหนดสัดส่วน Local Content สินค้าไทย

The Bangkok Insight

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...
Loading...
Loading...
รีโพสต์ (0)
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...