สุดทึ่ง! ภูมิปัญญาบรรพบุรุษไทย สร้างฐานรองรับ ‘พระปรางค์วัดอรุณฯ’
พระวชิรรัตนาภรณ์ เลขานุการ และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวราราม กล่าวว่า ตามที่ที่ประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 47 ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2568 ได้รับรอง “พระปรางค์วัดอรุณราชวราราม อัตลักษณ์แห่งกรุงรัตนโกสินทร์” เข้าสู่บัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) มรดกโลกอย่างเป็นทางการ ซึ่งการที่แหล่งมรดกแห่งใดแห่งหนึ่งได้เข้าสู่บัญชีเบื้องต้นถือเป็นก้าวสำคัญสู่การได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นแหล่งมรดกโลกนั้น ขณะนี้ได้มีการเตรียมความพร้อมในด้านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้างพระปรางค์ ทั้งการศึกษารวบรวมข้อมูล วิจัย วิเคราะห์ ศึกษารายละเอียดพื้นที่ แผนผัง รูปแบบ ประวัติศาสตร์โบราณคดี เพื่อกำหนดขอบเขตพื้นที่นำเสนอเป็นมรดกโลก และพื้นที่กันชน การสำรวจทางวิศวกรรม การขุดค้นทางโบราณคดี การสรุปวิเคราะห์ผลที่ได้รับจากการศึกษา และการขุดสำรวจ ซึ่งทางสมาคมอิโคโมสไทย กรมศิลปากร และทางวัดอรุณฯ ได้ร่วมกันดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อเตรียมไว้เป็นข้อมูลในรายงานฉบับสมบูรณ์ต่อไป
พระวชิรรัตนาภรณ์ กล่าวต่อไปว่า ซึ่งจากการขุดค้นทางโบราณคดีชั้นดินรอบฐานพระปรางค์ทั้ง 4 ทิศ ตั้งแต่ระดับผิวดินลงไปจนสิ้นสุดที่ระดับความลึกประมาณ 2 เมตร เมื่อเร็วๆ นี้ พบว่า 1.การก่อสร้างฐานไพที (ส่วนที่รองรับสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ เช่น พระอุโบสถ วิหาร หรือเจดีย์) ที่รองรับองค์ประกอบของพระปรางค์ทั้งหมดจะอยู่ลึกลงไปจากผิวดินประมาณ 60 เซนติเมตร พบลักษณะของปูนฉาบฐานไพทีจมอยู่ในชั้นดิน และลักษณะของชั้นดินโดยรอบฐานไพทีพบลักษณะของการเตรียมดินด้วยการบดอัดดินกับเศษอิฐ กระเบื้องมุงหลังคา และเศษปูน เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับดินก่อนจะปูกระเบื้องหินแกรนิตทับเป็นผิวทางเดินด้านบน 2.จากระดับการเตรียมดินลงไปอีกประมาณ 60 เซนติเมตร พบลักษณะการก่อเรียงอิฐเป็นรูปหน้ากระดาน ป้องกันไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัวของดินใต้ฐานไพที ทั้งยังพบการใช้ไม้กระดานมาวางเรียงทั้งแนวตั้งและแนวนอน ซึ่งสันนิษฐานว่าเป็นการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับแนวอิฐเรียง 3.ในระดับที่ลึกลงไปจากชั้นดินที่พบกิจกรรมของคนแล้วนั้น จะเป็นชั้นดินธรรมชาติ ที่มีความแข็งแรงสามารถรับน้ำหนักของพระปรางค์ได้อย่างมั่นคง สอดคล้องกับการสำรวจทางวิศวกรรม นับว่าเป็นความเก่งกาจของบรรพบุรุษของไทยที่สร้างสิ่งมหัศจรรย์ของโลกไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจ