เปิด The Wireless House One Bangkok ชมไฮไลต์หลักฐานโบราณคดี เชื่อมประวัติศาสตร์ย่าน “วิทยุ-พระราม4-ลุมพินี”
เปิดหน้าประวัติศาสตร์ชีวิตทันสมัยของสยามในยุครัชกาลที่ 6 ซึ่งถูกฝังลึกอยู่ใต้ผืนดิน The Wireless House One Bangkokพิพิธภัณฑ์หนึ่งเดียวในโครงการ One Bangkok ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ประวัติศาสตร์ซึ่งเคยเป็น สถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย จัดแสดงและอนุรักษ์หลักฐานทางโบราณคดีที่เกี่ยวข้องกับ สถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง พร้อมนิทรรศการงานศิลปะร่วมสมัยเชื่อมวิถีชีวิตทันสมัยตั้งแต่ปลายรัชกาลที่ 6 ถึงปัจจุบัน รวมทั้งการอนุรักษ์หลักฐานชิ้นสำคัญที่รอเวลาให้ผู้คนในอนาคตมาค้นพบ
พ.ศ.2568 เป็นวาระครบรอบ 111 ปี กำเนิดสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย นับจากวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2456 เมื่อพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จฯ มาเปิดอาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง กลางทุ่งศาลาแดง ซึ่งปัจจุบันคือที่ตั้งโครงการ One Bangkok ศูนย์กลางไลฟ์สไตล์ของย่านวิทยุ-พระราม 4-ลุมพินีโดยใจกลางโครงการแห่งนี้ยังเป็นที่ตั้งของ The Wireless House One Bangkok อาคารสีเขียวยกพื้นมีใต้ถุน ตัวอาคารประดับลายฉลุแบบไทยๆ พร้อมสะพานไม้ความยาว 12 เมตร สร้างคร่อมตอม่อสะพานเดิม ทอดยาวอยู่เหนือท้องทุ่งสีเขียว ที่ทำให้บรรยากาศทุ่งนาศาลาแดงกลับมาพลิ้วไหวอีกครั้ง รวมทั้งเสาส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขต้นแรกของไทย ที่ถูกอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่ประวัติศาสตร์แห่งนี้
Sarakadee Lite ชวนไปแกะรอยชีวิตสยามทันสมัยที่เริ่มต้นขึ้น พร้อมกับเสียงสัญญาณวิทยุโทรเลขที่ดังก้องทุ่งศาลาแดงในช่วง 100 ปีที่ผ่านมา พร้อมพิกัดไฮไลต์หลักฐานทางโบราณคดีชิ้นสำคัญที่จัดแสดง ร่วมด้วยงานศิลปะร่วมสมัย และเบื้องหลังการอนุรักษ์ประวัติศาสตร์ในพื้นที่ The Wireless HouseOne Bangkok
01 The Wireless House One Bangkok สร้างใหม่ดีไซน์เดิม
แม้อาคาร The Wireless House One Bangkok เป็นอาคารที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ยังคงยึดตามแบบสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของอาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดงที่สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 โดยยกมาทั้งรูปแบบ สัดส่วน รวมทั้งเฉดสีเขียวของอาคารตามหลักฐาน “ภาพถ่ายสี” ใบสุดท้ายที่เป็นหลักฐานชั้นเยี่ยมในการรื้อฟื้นตัวอาคาร ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนเป็น “โบราณสถาน” ใน พ.ศ. 2526 ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่ไปในหลายยุคสมัย ทำให้ตัวอาคารดั้งเดิมถูกรื้อไป เหลือเพียงความทรงจำจากภาพถ่ายสีใบสุดท้าย ที่ได้กลายมาเป็นหนึ่งในหลักฐานที่ใช้ในการชุบชีวิตสถานีวิทยุศาลาแดงในรูปแบบ The Wireless House One Bangkok หรือ โครงการอนุรักษ์อาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง พร้อมจำลองบรรยากาศทุ่งศาลาแดง และจัดแสดงเสาส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขของจริงอายุกว่า 100 ปี ไว้ในตำแหน่งใกล้เคียงกับของเดิม
ภายในอาคารเป็นห้องนิทรรศการแบบเดินเชื่อมถึงกัน แบ่งตามเนื้อหาเป็น 4 โซนหลัก แสดงเรื่องราวประวัติศาสตร์สถานที่ เชื่อมต่อกับวิถีชีวิตในพื้นที่รอบๆ โครงการ One Bangkok ย่านถนนวิทยุ สวนลุมพินี และพระราม4 โดย โซนที่ 1 เป็นประวัติศาสตร์กิจการวิทยุโทรเลขและสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรก สัญญาณที่นำความทันสมัยมาสู่สยามโซนที่ 2ต่อเนื่องประวัติศาสตร์วิทยุกระจายเสียงโซนที่ 3เล่าถึงงานโบราณคดีและการอนุรักษ์ จัดแสดงหลักฐานและชิ้นส่วนโบราณวัตถุต่างๆ ที่ค้นพบในพื้นที่ระหว่างการขุดค้นทางโบราณคดี One Bangkok พร้อมวิดีโอแนวสารคดีเล่าขั้นตอนการทำงานตลอดระยะเวลา8 ปี ตั้งแต่การขุดค้น อนุรักษ์ ไปจนถึงก่อสร้างอาคารใหม่ นอกจากนี้ยังมีบทสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการขุดค้นทางโบราณคดี การอนุรักษ์ และการปฏิสังขรณ์อาคารขึ้นใหม่ ตั้งแต่สถาปนิก วิศวกร นักอนุรักษ์ ตัวแทนจากกรมศิลปากร ไปจนถึงนักโบราณคดี ที่ช่วยกันทำให้ประวัติศาสตร์ของพื้นที่แห่งนี้กลับมาสู่การรับรู้ของคนรุ่นปัจจุบัน
ส่วนโซนที่ 4 เล่าเรื่องย่านถนนวิทยุ พระราม 4 ผ่านงานศิลปะของ 2 ศิลปินร่วมสมัยของไทยได้แก่ วศินบุรีสุพานิชวรภาชน์ และ นักรบ มูลมานัสรวมถึงการเล่าประวัติของพื้นที่ย่านนี้ ในรูปแบบของบทความจากนักวิชาการสายประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม ที่มาร่วมบอกเล่าภาวะความเป็นสมัยใหม่ของพื้นที่ผ่านทางมิติต่างๆ โดยเฉพาะยุคแรกของสวนลุมพินีอันเป็นเหมือนจุดเริ่มต้นชีวิตทันสมัย การใช้เวลาว่างความบันเทิงต่างๆ ไปจนถึงอัพเดตข้อมูลท่องเที่ยวครอบคลุมย่านใกล้เคียงเพื่อเชื่อมต่อกับวิถีชีวิตยุคปัจจุบัน
พิกัดเดิม : ที่ตั้งเดิมของอาคารสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทยตั้งอยู่ในพื้นที่ศูนย์การค้า Post 1928 ของโครงการ One Bangkok(ปัจจุบันสามารถมองเห็นร่องรอยของพื้นที่เดิมได้จากหมุดแสดงอาณาเขต)
พิกัดปัจจุบัน : The Wireless House One Bangkok อาคารสถานีวิทยุโทรเลขที่สร้างขึ้นมาใหม่ ตั้งอยู่หัวมุมถนนวิทยุตัดกับถนนพระราม 4 ในพื้นที่ศูนย์การค้าโซน The Storeys ของโครงการ One Bangkok
02 เสาวิทยุโทรเลข ไฮไลต์หลักฐานโบราณคดี
เสาส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขสร้างด้วยวัสดุเหล็กกล้าแท่งยาวที่ตระหง่านอยู่ด้านหลังอาคาร The Wireless House One Bangkok เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ของพื้นที่นี้ได้อย่างสมบูรณ์ ตัวเสาวิทยุเดิมมีความสูง 60 เมตร ถูกอนุรักษ์ขนย้ายออกมาติดตั้งใหม่ในองศาที่ใกล้กับอดีต โดยมีการตัดเสาวิทยุออกเป็น 7 ท่อน นำไปเก็บรักษาไว้ที่ชั้นใต้ถุนอาคาร 4 ส่วน และนำเสาเดิมอีก 3 ส่วนความสูง 22 เมตร มาติดตั้งในหน้าที่ใหม่ที่ไม่ใช่เสาส่งสัญญาณ แต่เป็นเหมือนสัญญาณที่นำพาเรื่องราวในอดีตมาสู่ปัจจุบัน อีกทั้งหลักฐานทางโบราณคดีชิ้นนี้ยังเป็นหมุดหมายสำคัญ ที่แสดงถึงการพัฒนาประเทศสู่ความทันสมัยในช่วงรัชกาลที่ 6 ด้วยการนำเข้าเทคโนโลยีส่งสัญญาณวิทยุโทรเลขทางไกลมาใช้ เริ่มจากกรุงเทพฯ สู่สงขลา ระยะทางนับ 1,000 กิโลเมตร ก่อนจะพัฒนาสู่ยุคสื่อสารข้ามประเทศและซีกโลก โดยจากหลักฐานที่ค้นพบบ่งชี้ได้ว่า บริษัทเทเลฟุงเกน (Telefunken) ประเทศเยอรมนี มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการออกแบบระบบพื้นฐานของสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย อันเป็นที่มาของชื่อถนนวิทยุ (Wireless Road) ตัดผ่านหน้าสถานีวิทยุโทรเลข เชื่อมถนนเพชรบุรี-พระราม 4-เพลินจิต และคำว่า“วิทยุ” ยังเป็นคำศัพท์ใหม่ที่เกิดในสมัยรัชกาลที่ 6 อีกด้วย
พิกัดจัดแสดง : หลังอาคาร The Wireless House One Bangkok และมองเห็นได้จากระเบียงตึก One Bangkok ชั้น 3 โซน The Storeys ส่วนใครที่อยากชมเสาวิทยุเดิมที่ถูกจัดเก็บไว้ใต้ดินสามารถดูได้ผ่านซุ้มโค้งครึ่งวงกลมใต้ถุนอาคาร
03 ฉนวนแก้วหลักฐานโบราณคดีวิทยุโทรเลข
ฉนวนแก้วเป็นหลักฐานสำคัญทางโบราณคดีเพียงชิ้นเดียวที่ขุดพบในพื้นที่ และเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีวิทยุโทรเลขในไทย ชิ้นส่วนฉนวนแก้วผลิตโดย บริษัทเทเลฟุงเกน ผู้ผลิตรายใหญ่จากประเทศเยอรมนีประกอบด้วยเหล็กวงกลม แก้วคริสตัล และผลึกแร่เดิมถูกวางซ้อนติดกันเป็นชั้นอยู่ใต้เสาวิทยุ ระหว่างแท่นคอนกรีตและเสาเหล็กวิทยุ สันนิษฐานว่าเป็นฉนวนป้องกันกระแสไฟฟ้า ทั้งนี้ฉนวนแก้วที่ขุดพบบางชิ้นส่วนมีรอยแตกจากอุบัติเหตุระหว่างการขุดค้น และถูกนำมาจัดแสดงแบบแยกส่วนเพื่อให้เห็นแต่ละชิ้นอย่างชัดเจน โดยตั้งแสดงอยู่ที่กึ่งกลางระหว่างนิทรรศการประวัติศาสตร์และชีวิตร่วมสมัย ถือเป็นไฮไลต์ของนิทรรศการโซนอนุรักษ์ และเป็นหลักฐานสำคัญที่ร่วมสมัยของการใช้เทคโนโลยีสื่อสารวิทยุโทรเลขยุคแรก
พิกัดจัดแสดง : โซนกลางห้องนิทรรศการเชื่อมระหว่างโซน 1: ยุควิทยุโทรเลข และโซน 4: ย่านวิทยุ – พระรามที่ 4 อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต
04 สิ่งของเครื่องใช้ “โบราณคดีในชีวิตประจำวัน”
จากการขุดค้นพบหลักฐานโบราณคดีที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวันของคนในพื้นที่กว่า 1,500-1,600 ชิ้น เช่น ถ้วยชามกระเบื้อง ชิ้นส่วนภาชนะดินเผา เซรามิก โลหะ ขวดแก้วต่างๆ จึงทำให้เกิดโซนจัดแสดงเศษชิ้นส่วนสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ขุดค้นพบใต้ดินบริเวณที่ตั้งสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทย (ปัจจุบันคือพื้นที่โครงการ One Bangkok)บ่งชี้วิถีชีวิตและผู้คนในย่านนี้ช่วง 100 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ยุคกำเนิดสถานีวิทยุโทรเลขสมัยรัชกาลที่ 6 ก่อนจะเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร และสวนลุมไนท์บาซาร์ ตลาดกลางคืนแห่งแรกของกรุงเทพฯ เช่น ถ้วยกระเบื้องเขียนสีแบบจีน ชามตราไก่ จานชามเขียนสีลายดอกไม้แบบญี่ปุ่น ขวดแก้วน้ำอัดลม ขวดโคโลญจน์ กระปุกน้ำมันแต่งผม เป็นต้น
ทางทีมภัณฑารักษ์ได้คัดเลือกโบราณวัตถุบางชิ้นนำมาจัดแสดงตามธีมหลัก คือ โบราณคดีร่วมสมัย เล่าถึงชีวิตประจำวันและการเปลี่ยนผ่านของพื้นที่ และจัดหมวดหมู่วัตถุจัดแสดงเป็น 2 หมวดหมู่ที่ค่อยๆ เผยให้เห็นการใช้งานพื้นที่ที่เปลี่ยนไปตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6ซึ่งผู้คนนิยมสินค้าประเทศต่างๆ อย่างเครื่องถ้วยเขียนสีแบบจีน จานลายดอกไม้เขียนสีแดงแบบญี่ปุ่น เซรามิกจากอังกฤษ ถ้วยลายเทพนมของไทย เป็นต้น ส่วนอีกยุคคือ ยุคร่วมสมัย ตั้งแต่เริ่มเป็นโรงเรียนเตรียมทหาร ตลาดกลางคืนสวนลุมไนท์บาซาร์ ตัวแทนยุคนี้ก็เช่น ขวดน้ำอัดลม ช้อนส้อมจากโรงอาหาร เป็นต้น
ทั้งนี้ทีมภัณฑารักษ์ให้ข้อสังเกตว่า โบราณวัตถุที่ขุดพบมักเกี่ยวข้องกับอาหารการกิน สะท้อนวัฒนธรรมของการเข้ามาใช้พื้นที่นี้ของคนหลายกลุ่มตลอดช่วง 100 ปีที่ผ่านมา เช่น ถ้วยเขียนสีง่ายๆ แบบจีน สันนิษฐานว่ามากับ “แรงงานจีน” ซึ่งเป็นคนงานก่อสร้างสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง
ขณะที่เครื่องใช้ส่วนตัวอย่างกระปุกน้ำมันใส่ผม รวมถึงขวดวิสกี้ยุคเก่าล้วนเป็น “ของใช้สุภาพบุรุษ” สะท้อนข้อเท็จจริงของพื้นที่ที่เต็มไปด้วยผู้ชาย ตั้งแต่ทหารเรือ เจ้าหน้าที่สถานีวิทยุโทรเลข ไปจนถึงนักเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร ขณะที่วัตถุอย่างขวดน้ำอัดลม ซึ่งดูจากยี่ห้อน่าจะเข้ามาในไทยยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง และบางชิ้นน่าจะมาในยุคที่พื้นที่แห่งนี้เป็นที่ตั้งของสวนลุมไนท์บาซาร์ ซึ่งเป็นกิจการสุดท้ายก่อนการก่อสร้าง One Bangkok
พิกัดจัดแสดง : โซน 3: การขุดค้น อนุรักษ์ และปฏิสังขรณ์
05 ฐานอาคารเก่า และร่องรอย “แรงงานจีน” สมัยรัชกาลที่ 6
ต่อเนื่องจากการพบข้าวของเครื่องที่ใช้ฝังอยู่ใต้ดิน ทางโครงการฯ ได้ร่วมกับกรมศิลปากรและนักโบราณคดีขุดค้นลึกลงไปจนพบร่องรอยอาคาร สันนิษฐานว่าเป็นฐานอาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดงที่หลงเหลืออยู่จึงได้ขุดกู้ซากฐานโบราณสถานทั้งหมด ขนาด 10×14 เมตร และทำการอนุรักษ์ด้วยการย้ายไปฝังกลบที่ตำแหน่งใหม่โดยตัดแบ่งเป็น 10 ส่วน เพื่อให้สามารถขนย้ายออกจากพิกัดเดิม (ช่วงกลางของโครงการ One Bangkok ปัจจุบัน) โดย 9 ส่วนถูกจัดเก็บเพื่อการอนุรักษ์หลักฐานทางโบราณคดีไว้ที่ชั้นใต้ดินของตัวอาคารในความลึก 6 เมตร และมีการฝังกลบทรายปิดผนึกด้วยคอนกรีต เพื่อป้องกันความชื้นควบคุมอุณหภูมิเพื่อรักษาสภาพโบราณสถานไว้ยาวนานและมีเพียง 1 ส่วนที่จัดแสดง เป็นชิ้นส่วนที่มีร่องรอยขีดเขียนภาษาจีนบนผนังปูนเหนือแนวอิฐของฐานอาคาร
ความสำคัญของโบราณวัตถุชิ้นนี้เป็นหลักฐานยืนยันข้อสันนิษฐานที่ว่าชาวจีนจากซัวเถา หรือ มณฑลติดทะเลทางตอนใต้ของประเทศจีน เคยมาเป็นแรงงานก่อสร้างอาคารสถานีวิทยุโทรเลขดั้งเดิม โดยทางพิพิธภัณฑ์ได้จัดทำข้อมูลถอดข้อความภาษาจีนที่ค้นพบตามผนังอาคารรวมทั้งถอดคำแปลไทยไว้ให้ได้ศึกษาด้วย
สำหรับฐานอาคารเก่านั้นเป็นฐานก่ออิฐ นำมาจัดแสดงในตำแหน่งตามแบบอาคารเดิมที่แสดงถึงลักษณะทางของสถาปัตยกรรมที่พบได้ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีซุ้มโค้งช่วยระบายความชื้นและระบายน้ำ เหมาะกับสภาพพื้นที่เดิมที่เป็นทุ่งนา โดยกระบวนการขุดค้น เคลื่อนย้าย และการอนุรักษ์ฐานอาคารเก่าทั้งหมด ถูกนำเสนอผ่านจอวิดีโอและติดตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกัน เพื่อให้ผู้ชมได้เห็นที่มาที่ไปของงานอนุรักษ์โบราณสถานชิ้นสำคัญนี้ด้วย
พิกัดจัดแสดง : บริเวณฐานอาคารทางฝั่งเชื่อมกับ The Wireless Club
06 นิทรรศการอินเทอร์แอคทีฟ กำเนิดวิทยุโทรเลข
นอกจากข้าวของเครื่องใช้เกี่ยวเนื่องกับประวัติศาสตร์ดั้งเดิมของพื้นที่แล้ว ที่นี่ยังใส่ความสนุกของการชมนิทรรศการแบบอินเทอร์แอคทีฟ โดยผู้ชมจะได้พบกับภาพถ่ายเมื่อครั้งรัชกาลที่ 6 เสด็จฯ มาเปิดสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกที่ตำบลศาลาแดง เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2456และข้อความทักทายผู้เข้าชมที่จำลองภาษาและรูปแบบการส่งโทรเลขครั้งแรกในประวัติศาสตร์ประเทศไทย ซึ่งรัชกาลที่ 6 ทรงส่งจากต้นทางสถานีกรุงเทพฯ (สถานีศาลาแดง) ถึงกรมหลวงลพบุรีราเมศร์ ที่ปลายทางสถานีสงขลาต่อเนื่องด้วยประวัติศาสตร์การส่งวิทยุโทรเลขยุคแรกของไทยและพัฒนาการ มีทั้งวัตถุพยานเป็นภาพถ่าย เอกสารที่จัดแสดงทำให้สื่อสารข้อมูลเข้าใจง่ายสำหรับคนทุกวัยพร้อมการจำลองการส่งข้อความทางวิทยุโทรเลขด้วยการเคาะรหัสมอร์ส (morse code) และของที่ระลึกเป็นข้อความที่ส่งด้วยวิทยุโทรเลขจ่าหน้าผู้ส่ง-ผู้รับ พร้อมข้อความและวันเวลาที่สามารถพิมพ์ออกมาได้ รวมถึงรูปแบบไฟล์ดิจิทัลและการสัมผัส อ่าน ทดลองที่จะเจอได้ตลอดนิทรรศการ
พิกัดจัดแสดง : โซน 1: ยุควิทยุโทรเลข
07 นิทรรศการโซน “ชีวิตร่วมสมัย” พัฒนาการย่านวิทยุ – พระราม 4
นับจากมีการตั้งสถานีวิทยุโทรเลข ย่านนี้ก็ได้เปลี่ยนแปลงจากทุ่งนากลายเป็น “เมืองใหม่” มีเจ้านายมาพักอาศัย มีชาวต่างชาติมาทำธุรกิจ มีสถานทูตต่างๆ ที่นำไลฟ์สไตล์แบบใหม่มาด้วยไม่ว่าจะเป็นการเริ่มใช้ระบบเวลาแบบตะวันตก แบ่งเวลามีชั่วโมงทำงาน มีช่วงเลิกงาน และมีเวลาว่างชัดเจน ทำให้คนไทยเริ่มหากิจกรรมในเวลาว่าง การออกไปนอกบ้านเพื่อร่วมกิจกรรมรื่นรมย์ และความบันเทิงในพื้นที่สาธารณะก็ได้เริ่มเกิดขึ้นในพื้นที่บริเวณนี้
นิทรรศการโซนนี้ยังเล่าเรื่องราว “ชีวิตร่วมสมัยของชาวสยามในย่านวิทยุ-พระรามที่ 4” ผ่านวัตถุพยานจากงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์และไฮไลต์คืองานศิลปะร่วมสมัยที่สร้างสรรค์ขึ้นใหม่PintONE (ปิ่นโทน) หรือ ปิ่นโตเซรามิก โดย วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ ศิลปินเซรามิกชาวราชบุรี ซึ่งลวดลายและสีที่ใช้ในการออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากวัตถุถ้วยชามที่ขุดค้นพบในพื้นที่ อีกชิ้นคือ Greetings of Times งานศิลปะคอลลาจภาพถ่ายบนแม่พิมพ์ทองแดงโดย นักรบ มูลมานัสเล่าประวัติศาสตร์กิจกรรมบันเทิงในย่านนี้ เช่น ประกวดนางสาวสยาม งานเต้นรำ เรือเป็ดในสวนลุมพินี รวมถึงหอนาฬิกาที่เป็นแลนด์มาร์กของสวนลุมพินี
พิกัดจัดแสดง : โซน 4: ย่านวิทยุ – พระรามที่ 4 อดีต – ปัจจุบัน – อนาคต
08 ปิ่นโตเซรามิกศิลปะร่วมสมัยจากราชบุรี สู่ชีวิตร่วมสมัยในย่านนี้
งานปิ่นโตเซรามิกชุด ปิ่นโทน (PintONE)โดย วศินบุรี สุพานิชวรภาชน์ นักออกแบบและศิลปินเซรามิกจังหวัดราชบุรี สร้างสรรค์ภาชนะใส่อาหารที่เชื่อมอดีตกับปัจจุบันเป็น“ปิ่นโต” อิงลวดลายและสีจากชิ้นส่วนโบราณวัตถุที่ขุดพบในพื้นที่ รวมถึงลายถ้วยชามเขียนสีแบบจีนและญี่ปุ่นและลายจากชิ้นส่วนโบราณวัตถุอย่าง “ไหน้ำปลา” ดินเผาเนื้อแกร่งเคลือบสีน้ำตาลจากราชบุรี และเครื่องเคลือบสีน้ำเงินขาว (บลูไวต์เซรามิก) ที่ศิลปินวาดลวดลายขึ้นมาใหม่สไตล์จีน ทั้งหมดล้วนอ้างอิงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในพื้นที่สถานีวิทยุศาลาแดงจากอดีตถึงปัจจุบัน โดยศิลปินแอบใส่ “หมาลายจุด” ซิกเนเจอร์ส่วนตัวซ่อนอยู่ในชิ้นงานชุดนี้ด้วยทั้งนี้นัยสำคัญของ “ปิ่นโทน” สำหรับงานนี้ยังสื่อถึง ความยั่งยืน จากรากประวัติศาสตร์ในอดีตสู่ถึงปัจจุบันและกำลังจะถูกส่งต่อไปในอนาคต
พิกัดจัดแสดง : ห้องนิทรรศการโซนที่ 4 ด้านในอาคารพิพิธภัณฑ์
09 ศิลปะร่วมสมัย แรงบันดาลใจจากวิทยุโทรเลขและกาลเวลา
งานศิลปะชุด Greetings of Times กาละปฏิสันถาร โดย นักรบ มูลมานัสใช้เทคนิคศิลปะคอลลาจเล่าประวัติศาสตร์วัฒนธรรมวิถีชีวิตทันสมัยนำเรื่องราวจากภาพถ่ายในอดีตมาพิมพ์บนแผ่นแม่พิมพ์ทองแดงโลหะที่เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสื่อสารด้วยวิทยุโทรเลข ขับเน้นให้เห็นนัยของความเป็นสมัยใหม่ที่ค่อยๆ ผุดพรายขึ้นในพื้นที่หลังการตั้งสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง ผสมผสานจอแสดงข้อความดิจิทัลบรรทัดเดียวโดยใช้ AI แปลงข้อความวิทยุโทรเลขปฐมฤกษ์ของประเทศไทย 17 คำ ให้กลายเป็นร้อยกรองไร้ฉันทลักษณ์ โดยตัวแผ่นแม่พิมพ์ทองแดงที่ตั้งอยู่บนฐานมวลดินยัง สื่อถึงผู้คนจากต่างวาระเวลาร่วมกันสร้างความทรงจำที่ถมทับ ณ ที่แห่งนี้
สำหรับภาพที่ปรากฏในแผ่นแม่พิมพ์ทองแดงสะท้อนถึงไลฟ์สไตล์การใช้เวลาว่างของผู้คนในย่านวิทยุ-พระรามที่ 4 วัฒนธรรมการออกมาพักผ่อนหย่อนใจและทำกิจกรรมรื่นรมย์นอกบ้านของคนไทยรวมถึงกิจกรรมเต้นรำ การออกมาปิกนิกในสวนสาธารณะดูแข่งม้าที่ราชกิจสโมสร งานฉลองรัฐธรรมนูญ งานประกวดนางสาวสยาม เรือเป็ดน้ำ หอนาฬิกาในสวนลุมพินี เป็นต้น งานชุดนี้ยังถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งบนลวดลายบนสินค้าของที่ระลึกที่วางจำหน่ายใน The Wireless Club
พิกัดจัดแสดง : ห้องนิทรรศการโซนที่ 4 ส่วนของที่ระลึกจำหน่ายที่ The Wireless Club ซึ่งอยู่ติดกัน
10 มรดกจากงาน “สยามรัฐพิพิธภัณฑ์”มหกรรมสินค้านานาชาติยุครัชกาลที่ 6
นอกจากจะเป็นที่ตั้งของสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกแล้ว บริเวณทุ่งศาลาแดงแห่งนี้ยังเคยเป็นสถานที่จัดงาน “สยามรัฐพิพิธภัณฑ์” (The Siamese Kingdom Exhibition) มหกรรมแสดงสินค้านานาชาติในรูปแบบงานเอ็กซ์โป โดยรัชกาลที่ 6 ทรงริเริ่มและมุ่งหมายให้เป็นมหกรรมแสดงสินค้าของดีจากจังหวัดต่างๆ ของไทย เพื่ออวดศักยภาพให้นานาชาติได้รู้จัก ทั้งงานหัตถกรรม สินค้าการเกษตรศิลปวัฒนธรรม มหรสพ กีฬา และงานออกร้านสินค้าจากเอกชน เดิมทีสยามรัฐพิพิธภัณฑ์กำหนดจัดขึ้้นช่วงเดือนมกราคมถึงมีนาคม พ.ศ. 2468แต่งานถูกยกเลิกเนื่องจากรัชกาลที่ 6 เสด็จสวรรคตในขณะที่หลายส่วนได้เตรียมงานไว้พร้อมแล้ว
ทาง The Wireless House One Bangkok ได้นำหลักฐานสำคัญ 3 ชิ้นที่เป็นมรดกจากแผนจัดงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์มาจัดแสดงในโซนที่ 4 ไม่ว่าจะเป็น ภาพถ่ายหอนาฬิกาในสวนลุมพินี ที่สร้างในยุคนั้นและยังใช้งานอยู่ถึงปัจจุบันหนังสือที่ระลึกงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ ตีพิมพ์ 2 ภาษา คือ ไทย-อังกฤษ จัดทำขึ้นโดยสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เนื้อหาเล่าประวัติของประเทศไทยตั้งแต่สุโขทัยจนถึงสมัยรัชกาลที่ 6 รวบรวมประวัติศาสตร์ ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม ความเป็นอยู่ของชาวสยาม รวมทั้ง สมุดราชบุรี หนังสือบอกข้อมูลสินค้าและวัตถุดิบของดีจากมณฑลราชบุรี ที่เตรียมจัดแสดงในงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์
สำหรับหนังสือทั้ง 2 เล่มที่เป็นมรดกสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ มีฉบับไฟล์ดิจิทัลสามารถเปิดอ่านเนื้อหาด้านในได้ครบทุกหน้า โดยมีหมายเหตุทางวัฒนธรรมกล่าวไว้ว่า หลังจากการจัดงานสยามรัฐพิพิธภัณฑ์ รัชกาลที่ 6 มีพระราชดำริจะพระราชทานพื้นที่สวนลุมพินี หรือทุ่งศาลาแดงเก่านี้เป็นสวนสาธารณะให้ประชาชนได้ “ใช้เวลาว่าง” เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 7 มีเอกชนมาเช่าทำสวนสนุก และมีการจัดงานฉลองรัฐธรรมนูญ ส่งเสริมวิถีชีวิตทันสมัย สนับสนุนให้ผู้คนออกมาทำกิจกรรมยามว่าง กีฬา บันเทิง ศิลปวัฒนธรรมในย่านวิทยุ-ลุมพินีมากขึ้น และเชื่อมต่อกับย่านธุรกิจนานาชาติในบริเวณรอบๆ ที่ยังคงคึกคักมาจนถึงปัจจุบัน
พิกัดจัดแสดง : ห้องนิทรรศการโซนที่ 4 ชีวิตร่วมสมัย
11 การอนุรักษ์หลักฐานทางโบราณคดี
ร่องรอยโบราณสถานและโบราณวัตถุต่างๆ ที่ถูกขุดค้นพบในบริเวณโครงการ One Bangkok ถูกจัดแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกจัดแสดงให้คนทั่วไปได้ชมในนิทรรศการ ส่วนที่สองเก็บรักษาไว้ที่ชั้นใต้ถุนอาคาร ได้แก่ เสาวิทยุและโบราณวัตถุ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในชั้นใต้ดินด้านล่างอาคารพิพิธภัณฑ์ลึกลงไป 6 เมตร ซึ่งมีการฝังกลบทรายป้องกันความชื้นและควบคุมอุณหภูมิคงที่ปิดผนึกด้วยคอนกรีตถูกต้องตามหลักการเพื่อรักษาสภาพเดิมไว้หากภายภาคหน้ามีการรื้อสร้างอาคารพิพิธภัณฑ์นี้หลักฐานโบราณคดีเหล่านี้จะยังอยู่ใต้พื้นดินรอเวลาให้คนในอนาคตมาขุดค้นเจอเรื่องราวในอดีตได้อีก
พิกัด : ฐานใต้ดินของอาคารพิพิธภัณฑ์
History in Brief
สถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง ตั้งอยู่บนทุ่งศาลาแดงเดิม เป็นสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของประเทศไทย เปิดให้บริการใน พ.ศ. 2456 โดยสามารถส่งสัญญาณได้ไกลสุดประมาณ 1,000 กิโลเมตร จากกรุงเทพฯ ถึงสงขลา ถือเป็นยุคแรกของกิจการวิทยุโทรเลขไทย จากนั้นอีก 15 ปีต่อมา เทคโนโลยีไร้สายจึงเริ่มออกสู่ตลาดโลก ไทยก็ขยับตามโดยซื้อเครื่องรับส่งโทรเลขเทคโนโลยีใหม่มาจากบริษัทเทเลฟุงเกน ประเทศเยอรมนี และสร้างสถานีใหม่ใกล้อาคารเดิม พร้อมติดตั้งเครื่องส่งวิทยุโทรเลขแบบไร้สาย สามารถส่งข้อความระยะทางไกลแบบข้ามทวีปได้โดยไม่ต้องส่งผ่านสถานีอื่นเป็นทอดๆ เช่น จากประเทศไทยสามารถส่งโทรเลขไดเรกต์ไลน์ไปต่างประเทศจากกรุงเทพฯ-เบอร์ลิน โดยไม่ต้องผ่านสถานีในประเทศอื่นๆเหมือนในอดีต อีกทั้งสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดงนี้ ยังถูกใช้เป็นหนึ่งในพื้นที่ทดลองเทคโนโลยีการกระจายเสียงในช่วงทศวรรษ 2470
สถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดงได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนตัวอาคารและพื้นที่รอบอาคารเป็น “โบราณสถาน” โดยกรมศิลปากรเมื่อ พ.ศ.2526 ส่วนเสาวิทยุได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นโบราณวัตถุ โดยช่วง พ.ศ.2504-2543 ตัวอาคารสถานีวิทยุโทรเลขศาลาแดง ที่ถูกประกาศเป็นโบราณสถานตั้งอยู่ในบริเวณโรงเรียนเตรียมทหาร และเปลี่ยนการใช้งานพื้นที่มาเป็นสวนลุมไนท์บาซาร์ ตลาดกลางคืนแห่งแรกของกรุงเทพฯ ระหว่างปี พ.ศ. 2544-2554 ก่อนที่จะถูกประมูลให้เอกชนเช่าพื้นที่และปัจจุบันคือโครงการ One Bangkok
ในระหว่างการเตรียมงานก่อสร้าง ทาง One Bangkok ได้พบว่าบางส่วนของพื้นที่เป็นเขตโบราณสถาน และค้นพบมรดกทางประวัติศาสตร์ของพื้นที่ เป็นหลักฐานทางโบราณคดีซุกซ่อนอยู่ ไม่ว่าจะเป็นเสาวิทยุโทรเลข หรือโบราณวัตถุที่อยู่ใต้ดิน ไปจนถึงฐานอาคาร ปฏิบัติการขุดค้น สำรวจหลักฐาน และการบริหารจัดการวัตถุโบราณ และกระบวนการอนุรักษ์และฟื้นฟูอาคารสถานีวิทยุโทรเลขแห่งแรกของไทยจึงเริ่มขึ้นใน พ.ศ.2560 และนำมาสู่การอนุรักษ์และส่งต่อประวัติศาสตร์ใน The Wireless House One Bangkok
Fact File
- The Wireless House One Bangkok (เดอะไวร์เลสเฮาส์วันแบงค็อก) ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ
- เปิดบริการทุกวัน เวลา 10.00-20.00 น.
- เข้าชมฟรี! โดยสามารถเดินชมได้เอง หรือถ้าต้องการเจาะลึก ทางนิทรรศการมีภัณฑารักษ์นำชมโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
The post เปิด The Wireless House One Bangkok ชมไฮไลต์หลักฐานโบราณคดี เชื่อมประวัติศาสตร์ย่าน “วิทยุ-พระราม4-ลุมพินี” appeared first on SARAKADEE LITE.