แบงก์ยันเอง หลวงพ่ออลงกต ใช้ใบสุทธิที่มีเลข 13 หลักของ อลงกต พลมุข มาเปิดบัญชีเองเมื่อปี 40

แบงก์ยันเอง หลวงพ่ออลงกต ใช้ใบสุทธิที่มีเลข 13 หลักของ อลงกต พลมุข มาเปิดบัญชีเองเมื่อปี 40 และมาผูกพร้อมเพย์เมื่อปี 61 ด้าน พศจ.ลพบุรี เผยเลข 13 หลักของหลวงพ่อ ไม่มีในทะเบียนพระใหม่

วันที่ 25 ส.ค.68 ที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรี นายวีระ จำลอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.ลพบุรี (พศจ.ลพบุรี) ได้เผยถึงความคืบหน้าในการตรวจสอบข้อมูล เกี่ยวกับวัดพระบาทน้ำพุ ว่า ตอนนี้ ผวจ.ลพบุรี ได้เร่งรัดเรื่องการตรวจสอบมูลนิธิให้แล้วเสร็จในวันที่ 29 ส.ค.นี้ ในส่วนของ พศจ.ลพบุรี ก็ดูเรื่องทรัพย์สินของวัด ซึ่งตนได้ขอข้อมูลที่เป็นทางการจากสำนักงานที่ดินลพบุรี ภายใน 1-2 วันนี้

โดยตอนนี้ประเด็นใหญ่ๆ คือเรื่องที่ดินที่วัดถือครอง และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวัดคือ หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาส ส่วนไวยาวัจกรนั้นถือเป็นบุคคลธรรมดา สำหรับเส้นทางการเงินรับบริจาค ทางวัดก็ยืนยันมี 8 บัญชี ซึ่งตนได้ขอข้อมูลบัญชีรับ-จ่ายที่เป็นเงินสด ที่อยากให้แยกชัดเจนเพราะเป็นประเด็นสงสัย ซึ่งได้แจ้งไวยาวัจกรไปแล้ว นอกจากนั้นจะเป็นการบริหารงานของวัด ที่ต้องรวบรวมข้อมูลรายงานตามขั้นตอน ส่วนบัญชีธนาคารใดนั้นต้องรอตรวจสอบความแน่ชัดอีกครั้ง

ส่วนที่การบริจาคของประชาชนที่มีการโอนเงินจากบัญชีพร้อมเพย์ของ นายอลงกต พลมุข ที่เสียชีวิตไปแล้ว แต่กลับไปเข้าบัญชีมูลนิธิธรรมรักษ์นั้น ต้องไปดูว่าผู้ที่ไปขอเปิดระบบโอนนี้นั้นมีเจตนาอย่างไร ใครเป็นผู้ได้ประโยชน์ และลักษณะการเปิดโอนเงินพร้อมเพย์ ก็เพิ่งมีมาไม่นาน ซึ่งผู้เกี่ยวข้องสามารถตรวจสอบได้ โดยหากเกี่ยวข้องกับในเรื่องของสงฆ์เราถึงเข้าจะไปตรวจสอบได้เช่นกัน

ด้านเรื่องเลขบัตรประชาชน 13 หลักของ หลวงพ่ออลงกต นั้น ได้สอบถามไปที่พระอุปัชฌาย์ ซึ่งท่านไม่ได้มีระบบเลข 13 หลักในทะเบียนพระใหม่ หรือทะเบียนสัทธิวิหาริก ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญอันแสดงถึงการได้ให้บรรพชาอุปสมบทในสังฆมณฑล ใช้คู่กับหนังสือสุทธิ ในการกำกับผู้ที่มาบวช แต่เนื่องจากในการบวชตั้งแต่ปี 2529 ช่วงนั้นจึงไม่มีทะเบียนคุม จึงไม่ปรากฏข้อมูลเลขประจำตัวประชาชน แต่ในด้านการทำธุรกรรมเงินอุดหนุนจากสำนักพุทธศาสนา ตอนนี้จึงมีแต่เลข 13 หลักในปัจจุบัน ซึ่งก็ไม่ตรงกับเลขประจำตัวของผู้ที่เสียชีวิต สอดคล้องกับที่นายอำเภอเมืองลพบุรียืนยัน

เมื่อถามว่า ในเรื่องการตรวจสอบเรื่องอื่นๆ ตามข้อสั่งการของ นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายวีระ ตอบว่า เรียบร้อยแล้ว และได้ส่งให้ส่วนกลางแล้ว แต่คงรอคำตอบจากสำนักงานที่ดินลพบุรี ในการตรวจสอบที่ดินของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัด และที่ดินวัดอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องในสารบบของวัดพระบาทน้ำพุหรือไม่ ซึ่งน่าจะครบถ้วน

โดยภาพรวมเราได้ดำเนินการอย่างเต็มที่ตามกรอบอำนาจที่เรามี รวมทั้งต้องประสานงานกับหน่วยงานอื่นๆ เช่นสำนักงานที่ดิน และการขอข้อมูลจากทางวัด เช่นบัญชีรับ-จ่าย ตามที่เรามีข้อสงสัย บางทีต้องใช้เวลาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดส่งข้อมูลมาให้ หากสิ่งใดจะต้องให้ปรับปรุงแก้ไขคงอยู่ที่ผู้บังคับบัญชา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบธนาคารกรุงเทพ ได้รับการชี้แจงว่า พระอลงกต ได้นำใบสุทธิมาใช้เป็นหลักฐานประกอบการเปิดบัญชี ซึ่งในใบสุทธิมีเลข 13 หลักของ นายอลงกต พลมุข อดีตข้าราชการที่เสียชีวิต แต่ตอนนั้นธนาคารไม่ทราบเรื่องดังกล่าว จึงเปิดบัญชีให้ตั้งแต่ปี 2540

กระทั่งมีการรณรงค์ให้ใช้พร้อมเพย์ในปี 2561 หลวงพ่อได้เชื่อมบัญชีดังกล่าวเข้ากับพร้อมเพย์ แต่เมื่อปรากฏข่าวกรณีนี้ ธนาคารได้ตรวจสอบย้อนหลัง พบว่าเลข 13 หลักดังกล่าวเป็นของผู้อื่น จึงได้อายัดบัญชีและยุติการใช้พร้อมเพย์เมื่อวันที่ 24 ส.ค.ที่ผ่านมา ทำให้การเชื่อมพร้อมเพย์บัญชีดังกล่าวถูกระงับ แต่ยังโอนเงินเข้าบัญชีได้ตามเดิม แต่ถอนเงินไม่ได้จากกระบวนการอายัด

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : แบงก์ยันเอง หลวงพ่ออลงกต ใช้ใบสุทธิที่มีเลข 13 หลักของ อลงกต พลมุข มาเปิดบัญชีเองเมื่อปี 40

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th