เอ๊ะยังไง พูดไม่เหมือนทรัมป์? รองปธน.สหรัฐฯป้องรัสเซีย-ระบุปูตินยอมถอยมากแล้ว ขณะรมว.ต่างปท.หมีขาวอัดผู้นำยุโรปขวางสันติภาพยูเครน
รองประธานาธิบดีเจดี แวนซ์ ของสหรัฐฯระบุ รัสเซีย “อ่อนข้อให้มากแล้ว” ในการเจรจาเกี่ยวกับสงครามในยูเครน ขณะรัฐมนตรีต่างประเทศเซียร์เก ลาฟรอฟของแดนหมีขาวก็ชมทรัมป์ต้องการสันติภาพเช่นเดียวกับปูติน ตรงข้ามกับพวกผู้นำยุโรป ตลอดจนพวกเจ้าหน้าที่ในคณะบริหารอเมริกันยุคไบเดน ที่พยายามขัดขวางการเจรจาเพื่อยุติการสู้รบขัดแย้งในยูเครนมาโดยตลอด
รองประธานาธิบดีแวนซ์ กล่าวในการให้สัมภาษณ์รายการมีท เดอะ เพรสส์ ของเครือข่ายโทรทัศน์เอ็นบีซี ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์ (24 ส.ค.) ว่า รัสเซียยอมโอนอ่อนให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อย่างมากเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปีครึ่งนับจากเกิดสงครามในยูเครน
แวนซ์ยกตัวอย่างการที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ยอมให้ยูเครนได้รับการค้ำประกันความมั่นคงเพื่อป้องกันการรุกรานของรัสเซียในอนาคต และการที่รัสเซียยอมรับเรื่องว่า จะไม่สามารถแต่งตั้งรัฐบาลหุ่นเชิดในเคียฟได้
เมื่อถึงถามถึงกรณีที่ทรัมป์พูดเมื่อวันศุกร์ (22) รื้อฟื้นการขู่แซงก์ชั่นขึ้นมาอีกครั้ง ถ้ารัสเซียไม่ดำเนินการให้คืบหน้าเรื่องการทำความตกลงให้เกิดสันติภาพในยูเครนภายใน 2 สัปดาห์ เป็นการแสดงความหงุดหงิดใส่มอสโก ภายหลังการประชุมซัมมิตระหว่างเขากับปูตินที่อะแลสกาผ่านไปได้ 1 สัปดาห์แล้ว แวนซ์ก็ตอบว่า การออกมาตรการแซงก์ชันจะพิจารณากันเป็นกรณีไป พร้อมกันนั้นเขายอมรับว่า มาตรการลงโทษใหม่ๆ ไม่น่าจะสามารถเร่งรัดให้รัสเซียตกลงหยุดยิงกับยูเครน
แวนซ์กล่าวถึงการที่ทรัมป์ประกาศขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าอินเดียเพิ่มขึ้น 25% ก่อนหน้านี้ เพื่อลงโทษที่นิวเดลียังคงซื้อน้ำมันรัสเซียว่า เป็นตัวอย่างการใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเพื่อส่งเสริมให้เกิดสันติภาพ
นอกจากแวนซ์แล้ว รายงานมีต เดอะ เพรสส์ คราวนี้ ยังได้ออกอากาศการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีต่างประเทศลาฟรอฟ ของรัสเซีย ซึ่งกล่าวถึงการรับประกันความมั่นคงของยูเครน โดยระบุว่า กลุ่มของชาติต่างๆ ที่รวมไปถึงพวกชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ตลอดจนเยอรมนี, ตุรกี, และประเทศอื่นๆ ควรทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกันเรื่องนี้
“ผู้รับประกันเหล่านี้ควรที่จะรับประกันความมั่นคงของยูเครน ซึ่งจะต้องคงความเป็นกลาง โดยจะต้องไม่ฝักใฝ่เข้ากับกลุ่มทางทหารใดๆ และจะต้องปลอดอาวุธนิวเคลียร์” ลาฟรอฟ กล่าว ทั้งนี้ตามสำเนาคำให้สัมภาษณ์ของเขาที่เผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย
ลาฟรอฟยังพูดอย่างชัดเจนว่า เรื่องที่ยูเครนจะเข้าเป็นสมาชิกของนาโตนั้นเป็นเรื่องที่รัสเซียยอมรับไม่ได้ รวมทั้งกล่าวด้วยว่ารัสเซียต้องการให้มีการปกป้องคุ้มครองกลุ่มผู้พูดภาษารัสเซียในยูเครน รวมทั้งต้องมีการหารือเกี่ยวกับเรื่องดินแดนกับทางยูเครน
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวหลายรายเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เวลานี้ปูตินเรียกร้องให้ยูเครนต้องสละภูมิภาคดอนบาสทั้งหมด ซึ่งหมายถึงแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ ให้รัสเซีย, ยุติแผนการเข้าเป็นสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต), ต้องรักษาความเป็นกลาง, รวมทั้งฝ่ายตะวันตกต้องถอนทหารทั้งหมดออกจากยูเครน เพื่อแลกกับการที่รัสเซียจะยุติสงคราม
ในการให้สัมภาษณ์คราวนี้ ลาฟรอฟยังกล่าวว่า ปฏิกิริยาของเจ้าหน้าที่ยุโรปหลายคนที่มีต่อซัมมิตระหว่างทรัมป์กับปูตินที่อะแลสกา รวมถึงคำพูดของบุคคลเหล่านั้นระหว่างการหารือกับทรัมป์ ที่มีประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครนเข้าร่วมด้วยนั้น ฟ้องว่า พวกชาติยุโรปที่เป็นสมาชิกนาโตยังคงก้าวร้าวและไม่ต้องการสันติภาพ ประเทศเหล่านั้นยังประกาศว่า จะไม่ยอมเด็ดขาดทให้ยูเครนพ่ายแพ้และรัสเซียเป็นฝ่ายชนะ
ในทางกลับกัน ลาฟรอฟตั้งข้อสังเกตว่า ทรัมป์มีแนวทางที่ต่างออกไปและมุ่งปกป้องผลประโยชน์ของอเมริกา นอกจากนั้นยังดูเหมือนว่า ทรัมป์เคารพปูตินที่ทำแบบเดียวกันนี้เพื่อรัสเซีย และย้ำว่า ทั้งคู่ต่างต้องการให้เกิดสันติภาพในยูเครน
รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียย้อนความหลังด้วยว่า รัสเซียและยูเครนเกือบบรรลุข้อตกลงสันติภาพระหว่างเจรจาที่เมืองอิสตันบูล, ตุรกี เมื่อเดือนเมษายน 2022 หรือหลังจากมอสโกส่งทหารบุกยูเครนเพียงสองเดือน โดยรัสเซียได้เสนอทางออกอย่างสันติผ่านกลไกทางการทูตหลายครั้ง แต่แล้ว บอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษในขณะนั้น รวมทั้งเจ้าหน้าที่หลายคนในคณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา ตลอดจนฝรั่งเศสและเยอรมนี กลับทำให้การเจรจาคราวนั้นล่ม
ก่อนหน้านี้ มอสโกเคยกล่าวหาว่า ในระหว่างการเจรจาคราวนี้น รัสเซียและยูเครนได้หารือกันเกี่ยวกับร่างข้อตกลงที่ระบุให้ยูเครนวางตัวเป็นกลางและลดขนาดกองทัพ และจะมีการรับประกันความมั่นคงของยูเครนโดย 5 ชาติสมาชิกถาวรคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็น แต่แล้วจอห์นสันเข้ามาแทรกแซงและยุยงให้เซเลนสกี้ปฏิเสธร่างข้อตกลงและทำสงครามต่อ ถึงแม้ตัวจอห์นสันเองได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
ภายหลังซัมมิตที่อะแลสกา ทรัมป์ได้หารือกับเซเลนสกี้และผู้นำยุโรปหลายคนเกี่ยวกับการรับประกันความมั่นคงให้เคียฟ โดยยุโรปหลายประเทศเสนอแนวคิดในการส่งทหารของพวกตนเข้าไปในยูเครนหลังจากความขัดแย้งยุติ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่รัสเซียคัดค้านโดยสิ้นเชิง
ที่กรุงเคียฟในวันอาทิตย์(24) เซเลนสกี้กล่าวยืนกรานระหว่างพิธีรำลึกการประกาศเอกราชของยูเครนว่า การพบกับปูตินเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุดในการผลักดันความคืบหน้าในการยุติสงคราม หลังจากรัสเซียประกาศชัดเจนเมื่อวันศุกร์ว่า จะไม่มีการพบกันระหว่างปูตินกับเซเลนสกี้เร็วๆ นี้
ในอีกด้านหนึ่ง โอเลคซานดร์ ซีร์สกี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครน อ้างว่า กองทัพยูเครนสามารถยึดหมู่บ้าน 3 แห่งในแคว้นโดเนตสก์คืนมาได้ หลังจากเมื่อวันเสาร์ (23 ส.ค.) มอสโกอ้างว่า ยึดหมู่บ้าน 2 แห่งในแคว้นนี้
เวลาเดียวกัน รัสเซียกล่าวหาว่าโดรนลำหนึ่งที่ยูเครนส่งไปโจมตี มีลำหนึ่งถูกยิงตกเหนือโรงงานไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในแคว้นคูร์สก์ทางตะวันตกของรัสเซีย ส่งผลให้ไฟไหม้โรงงานดังกล่าว อย่างไรก็ดี ไม่มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต รวมทั้งไม่มีรังสีรั่วไหล
(ที่มา: รอยเตอร์/เอเอฟพี/ อาร์ที)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO