ไทย-EU ย้ำความสัมพันธ์แน่นแฟ้น เดินหน้า FTA-กระชับความร่วมมือทุกมิติ
วันนี้ (28 สิงหาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ให้การต้อนรับ เดวิด เดลี เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรป (EU) ประจำประเทศไทย ในโอกาสอำลาตำแหน่ง ที่ทำเนียบรัฐบาล
ภูมิธรรมได้กล่าวชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ที่มีส่วนสำคัญในการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองฝ่ายมาโดยตลอด พร้อมยืนยันว่ารัฐบาลไทยมุ่งมั่นที่จะสานต่อและยกระดับความร่วมมือกับสหภาพยุโรปให้แน่นแฟ้นและครอบคลุมในทุกมิติ เพื่อสร้างความมั่นคงและความเข้มแข็งร่วมกัน
ทางด้านเอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปฯ ได้กล่าวถึงพัฒนาการของความสัมพันธ์ที่ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และยืนยันความพร้อมของ EU ที่จะร่วมมือกับไทยอย่างใกล้ชิด โดยเน้นย้ำว่ากรอบความตกลงว่าด้วยความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือรอบด้าน (PCA) ถือเป็นกลไกสำคัญในการกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ระยะยาว ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานของผลประโยชน์และค่านิยมที่ทั้งสองฝ่ายมีร่วมกัน อันจะนำไปสู่ความร่วมมือที่ยั่งยืนและครอบคลุมในทุกด้าน
ในการหารือ ทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเร่งรัดการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-EU ให้สำเร็จโดยเร็ว โดยภูมิธรรมแสดงความยินดีต่อความคืบหน้าล่าสุดที่สามารถตกลงในหลักการได้แล้ว 7 จาก 24 ข้อบท และพร้อมจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดในการเจรจารอบที่ 7 ณ กรุงบรัสเซลส์ ระหว่างวันที่ 29 กันยายน-3 ตุลาคม 2568
นอกจากนี้ ภูมิธรรมได้ขอบคุณ EU สำหรับการสนับสนุนงบประมาณด้านมนุษยธรรมแก่พลเรือนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีส่วนช่วยคลี่คลายสถานการณ์และเสริมสร้างสันติภาพในภูมิภาค
ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงความร่วมมือด้านการประมงที่ผิดกฎหมาย (IUU) ซึ่งภูมิธรรมได้ย้ำถึงความก้าวหน้าของไทยในการแก้ไขปัญหาจนได้รับการยอมรับในระดับสากล ส่งผลให้ไทยได้รับการยกเลิกสถานะใบเหลือง อยู่ในสถานะ IUU-Free และได้รับการจัดให้อยู่ใน Tier 2 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ด้าน EU พร้อมสนับสนุนไทยในการพัฒนาอุตสาหกรรมประมงให้ยั่งยืนต่อไป
ในช่วงท้าย ภูมิธรรมกล่าวย้ำว่า ไทยพร้อมทำงานเคียงข้างสหภาพยุโรปในฐานะหุ้นส่วนสำคัญ เพื่อผลักดันความร่วมมือในประเด็นท้าทายใหม่ๆ เช่น การปราบปรามยาเสพติดและอาชญากรรมทางไซเบอร์ เพื่อประโยชน์ของประชาคมโลกโดยรวม