“อรรถกร” ลุยแม่ฮ่องสอนสั่งเร่งบูรณะบ้าน–ไร่นา เยียวยาผู้ประสบภัย
นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยหลังลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติ เหตุอุทกภัย น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่มจากอิทธิพล 'พายุคากิจิ' ในช่วงเช้าลงพื้นที่รับฟังปัญหา และมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบอุทกภัย พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ณ ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน บ้านผาบ่องเหนือ หมู่12 ต.ผ่าบอง อ.เมือง และวัดห้วยโป่ง ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จากอิทธิพลของพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” เกิดฝนตกติดต่อกันในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม ส่งผลให้มีพื้นที่การเกษตรได้รับผลกระทบ จึงได้สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่สำรวจและเร่งรายงานผลความเสียหายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที ขณะเดียวกันกำชับให้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษให้รับทราบสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ เครื่องจักร ในการให้ความช่วยเหลือได้ทันที
ผลกระทบดังกล่าวมีความเสียหายต่อภาคการเกษตร ทั้งพื้นที่เพาะปลูก พืชผล ประมง และปศุสัตว์ เบื้องต้นได้รับรายงานมีเกษตรกรได้รับความเสียหายรวมกว่า 600 ราย พื้นที่ได้รับความเสียหาย 2,169 ไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าว 1,838 ไร่ พื้นที่ปลูกพืชไร่/พืชผัก 331ไร่ จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและเร่งรายงานผลความเสียหายอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที พร้อมทั้งลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ เวชภัณฑ์ และอาหารสัตว์ พร้อมประสานกองทุนช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัยพิบัติด้านการเกษตร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะเร่งด่วน โดยเน้นขับเคลื่อนมาตรการเชิงรุก ทั้งด้านการฟื้นฟูพื้นที่เกษตรที่เสียหาย การเยียวยาผู้ประสบภัย และการวางระบบจัดการน้ำอย่างบูรณาการ เพื่อสร้างความมั่นมั่นใจให้กับพี่น้องเกษตรกร
กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมชลประทาน โครงการชลประทานแม่ฮ่องสอน ยังได้จัดทำแผนงานและโครงการบริหารจัดการน้ำ เพื่อบรรเทาอุทกภัย และเตรียมความพร้อมในการรับมือภัยอันเกิดจากน้ำ ปี 2568 (เพิ่มเติม) เพื่อรองรับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง โดยมุ่งเน้นการปรับปรุงแหล่งน้ำขนาดเล็ก ขุดลอกคลองส่งน้ำ เสริมระบบระบายน้ำและเก็บกักน้ำ รวมถึงผลักดันโครงการประตูระบายน้ำและอ่างเก็บน้ำในพื้นที่เสี่ยง เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนที่เพิ่มขึ้นและลดผลกระทบต่อพื้นที่เกษตรกรรม
“สถานการณ์การเมืองจะเป็นอย่างไร ก็ถือเป็นเรื่องของอนาคต แต่วันนี้ผมยังคงปฏิบัติหน้าที่ในฐานะรัฐมนตรีกระทรวงเกษตรฯ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งชัดเจนว่า เราทำงานทุกวัน และเมื่อ สส.ปกรณ์ ประสานมาว่า ชาวบ้านในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้รับความเดือดร้อน จึงไม่สามารถรอได้ ทั้งนี้ผมเชื่อว่า ไม่ว่าจากนี้ผมจะอยู่หรือไม่ก็ตาม แต่ผู้ที่จะมาทำหน้าที่คนใหม่ก็จะดูแลพี่น้องประชาชนแบบนี้เช่นกัน“