ปชน.บี้ ทบ.แจง “น้ำมันหาย” คืนแล้ว แต่ไม่ทุจริต
กมธ.ทหาร ตรวจน้ำมันกองทัพฯ เตรียมเชิญ มทบ.18–พลาธิการ ทบ.ชี้แจง ด้าน “เชตวัน” เผยผลสอบล่าสุด งง “น้ำมันหาย” แต่คืนแล้วไม่ทุจริต
วันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา กรรมาธิการการทหาร โดยเอกราช อุดมอำนวย ประธานกรรมาธิการ, ชยพล สท้อนดี รองประธานกรรมาธิการ,เชตวัน เตือประโคน รองประธานกรรมาธิการ และวิโรจน์ ลักขณาอดิศร กรรมาธิการ แถลงข่าวกรณีน้ำมันของกองทัพหายไปจากคลังใน 2 หน่วยงานทหารคือ มณฑลทหารบกที่ 18 จ.สระบุรี กับ กรมพลาธิการ กองทัพบก จ.นนทบุรี
เชตวัน กล่าวว่า กรณีแรกน้ำมันดีเซล มณฑลทหารบกที่ 18 จ.สระบุรี หายไปจากคลัง 215,897 ลิตร เกิดขึ้นตั้งแต่ ก.ย.2565 แต่มาเป็นข่าวเมื่อปี 2566 หลังมีรายงานการตรวจพิเศษการส่งกำลัง สป.3 ถึง ผบ.ทบ. ลงวันที่ 10 พ.ค.2566 ระบุว่า น้ำมันดีเซลที่รับจาก มทบ.18 จ.สระบุรี ปริมาณ 215,897 ลิตร ไม่พบการเก็บรักษาในจำนวนดังกล่าว และให้กรมจเรทหารบกตรวจสอบ แต่ยังไม่ทันมีผลออกมาก็กลายเป็นข่าวในหน้าสื่อในช่วงปลายเดือน ก.ย.2566 ขณะเดียวกัน กมธ.ทหาร ก็ทำหนังสือสอบถามถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่มีการชี้แจงใด
“3 ครั้ง 3 ครา ในการขอคำชี้แจง และสุดท้าย เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 กรรมาธิการการทหารจึงทำหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เรื่อง “การขาดความร่วมมือจากกองทัพต่อการดำเนินงานตามหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมาธิการการทหาร” ขณะเดียวกันก็ทำหนังสือไปถึง ป.ป.ช. และ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ช่วยแสวงหาข้อเท็จจริงตามอำนาจที่ท่านมี นี่คือกรณีน้ำมันหายที่กรรมาธิการการทหารไม่ได้รับความร่วมมือจากกองทัพบก ผมพยายามทวงถามเรื่องนี้กับฝ่ายเลขาของกรรมาธิการอยู่หลายครั้ง ว่ามีหนังสืออะไรตอบกลับมาหรือไม่ แต่ก็เงียบเหมือนเดิม จนมามีกรณีน้ำมันหายในกรณีที่ 2 เลยคิดว่าต้องมาทวงและตามเรื่องนี้อีกครั้ง” เชตวัน กล่าว
เชตวัน กล่าวว่า อีกกรณีคือน้ำมันหายจากคลังของกรมพลาธิการ กองทัพบก จ.นนทบุรี ซึ่งกรณีนี้ล่าสุด เพิ่งได้รับ “รายงานผลการสอบสวนข้อเท็จจริง” เป็นบันทึกข้อความลงวันที่ 14 ก.ค.2568 ซึ่งมาจนถึงวันนี้ เป็นเวลาถึงเดือนครึ่งแล้ว ก็ไม่มีการชี้แจงแถลงข่าวใดๆ จากทางกองทัพบก ถ้าไม่มีแถลงข่าวในวันนี้ หรือกรรมาธิการเชิญมาชี้แจงในวันพรุ่งนี้ ก็ไม่มั่นใจว่าจะมีใครได้ทราบผลการสอบนี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา กองทัพก็มักจะทำอย่างนี้ สอบกันเองแล้วก็เงียบ สอบกันเองแล้วก็หาย เป็นข่าวเป็นคราวแต่ตอนเกิดเรื่อง เวลาถามก็บอกว่าอยู่ในระหว่างการสอบ คืบหน้าจะแจ้งให้ทราบ แต่สุดท้ายก็ไม่เคยมีใครทราบ
“กรณีนี้ เป็นข่าวเมื่อ 2-3 เดือนที่ผ่านมา หากแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงปลายปี 2566 ตอนที่ ผอ.กองคลังเชื้อเพลิงคนใหม่กำลังจะเข้ามารับตำแหน่งในเดือนตุลาคม 2566 แล้วพบว่ามีน้ำมันหาย ตอนนั้นไม่มีการรายงาน ไม่มีการสอบสวน และก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นการคุยกันเองหรือไม่ ยื้อไปจนกระทั่งมีการสั่งซื้อน้ำมันจากเอกชนรายใหญ่เจ้าหนึ่งมาทดแทน โดยที่ผู้สั่งซื้อไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่มีอำนาจในการสั่งซื้อได้”
เชตวัน กล่าวว่า กรณีน้ำมันหายนี้ เช่นเดียวกับหลายๆ เรื่องที่เกิดในกองทัพ ที่ได้รับฉายาว่าแดนสนธยา คือ "คืนแล้วก็จบ" ไม่มีการตั้งกรรมการสอบอะไร ทว่าพอเวลาผ่านไปเป็นปี จนกำลังพลในหน่วยเห็นว่าไม่เป็นธรรม จึงไปร้องเรียนต่อกองทัพบก และมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีการสูญหายน้ำมันเชื้อเพลิงที่เกิดขึ้นในปี 2566 เป็นข่าวตามหน้าสื่อด้วยจนในที่สุดก็มีผลสอบจากกรมจเรทหารบกออกมา ที่ได้นำมาเปิดเผยในวันนี้ โดยสรุปว่าไม่เป็นการทุจริต
“ผมเชื่อว่าหลายๆ ท่านคงตั้งคำถามต่อผลสอบนี้ คือเมื่อน้ำมันหาย ซึ่งไม่รู้ว่าหายไปตอนไหน เอาไปอย่างไร เอาไปทำอะไรก็ไม่รู้ แต่พอวันหนึ่งเมื่อมีคนล่วงรู้ว่าหายแล้วซื้อกลับเอามาชดใช้คืนแล้ว ไม่เป็นการทุจริตเหรอ? นี่มันมาตรฐานแบบเดียวกันกับนาฬิกายืมเพื่อนเลย ยังไม่นับว่า ที่ผ่านมากระบวนการดำเนินการตามระเบียบที่เกี่ยวข้องของ ทบ. เมื่อทราบว่ามีน้ำมันหาย นั้นไม่เป็นไปตามระเบียบด้วย
“กรณีน้ำมันหายจากคลังของกรมพลาธิการ กองทัพบก แม้จะมีการซื้อมาคืนในภายหลัง แต่ผมคิดว่าความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 157 การปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ นั้นเกิดขึ้นแล้ว ซึ่งผมจะรอติดตามต่อไปว่าจะมีการชี้แจงในเรื่องนี้อย่างไร ที่ผมเอาผลการสอบสวนมาชี้แจงก่อน ก็เพราะค่อนข้างจะเชื่อว่ากองทัพบกจะไม่ชี้แจง ดังนั้นเมื่อออกมาแล้ว ก็คงต้องฝากช่วยกันติดตามต่อไป” เชตวัน กล่าว