ตำรวจสหรัฐจับชายเผาธงชาติใกล้ทำเนียบขาว ประท้วงคำสั่งห้ามของทรัมป์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 27 ส.ค. ว่า สำนักงานตำรวจอุทยานแห่งชาติสหรัฐ (ยูเอสพีพี) ออกแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ซึ่งกำลังลาดตระเวนอยู่บริเวณสวนสาธารณะลาฟาแยตต์ ในกรุงวอชิงตัน จับกุมชายซึ่งอ้างเป็นทหารผ่านศึก เบื้องต้นมีการตั้งข้อหา จุดไฟในสถานที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
ขณะที่คลิปจากสื่อหลายแห่งและบนโลกออนไลน์เผยให้เห็น ชายคนหนึ่งจุดไฟเผาธงชาติสหรัฐ และร้องตะโกนว่า กระทำการดังกล่าวเพื่อประท้วง "ประธานาธิบดีฟาสซิสต์ที่กำลังนั่งอยู่ในทะเนียบขาว" หมายถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และยืนยันว่า การเผาธงชาติครั้งนี้ เป็นการดำเนินการตามกรอบของรัฐธรรมนูญสหรัฐ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น หลังทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา มอบหมายให้นางพาเมลา บอนได รมว.ยุติธรรมสหรัฐ ฟ้องร้องดำเนินคดีอาญากับผู้ที่เผาธงชาติสหรัฐ ในสถานการณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรุนแรง เช่น การประท้วงและก่อการจลาจล แม้เนื้อหาในคำสั่งดังกล่าวของผู้นำสหรัฐไม่ได้ระบุเกี่ยวกับบทลงโทษ แต่ทรัมป์กล่าวว่า “การเผาทำลายธงชาติมีบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 1 ปี”
อย่างไรก็ตาม มีการตั้งคำถามทันที ว่าการใช้อำนาจพิเศษของทรัมป์ในเรื่องนี้ เข้าข่ายละเมิดบทบัญญัติแก้ไขรัฐธรรมนูญสหรัฐครั้งที่ 1 หรือ รัฐบัญญัติสิทธิฉบับที่ 1 หรือไม่ โดยสาระสำคัญของเอกสารฉบับนี้ คือการคุ้มครองเสรีภาพในการพูดและการชุมนุมโดยสงบ และศาลฎีกาของสหรัฐมีมติด้วยเสียงข้างมากฉิวเฉียด 5 ต่อ 4 เสียง เมื่อปี 2532 ว่าการเผาธงชาติ “เป็นรูปแบบหนึ่ง” ของการแสดงออกทางการเมือง และไม่ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES