อดีตผอ.สปสช.กทม. ไม่นิ่งนอนใจ! เล่าถึงหมอสุภัทร ยัน การจัดซื้อ ATK ถือเป็นความสำเร็จของคนกระทรวงสาธารณสุขโดยแท้
อดีตผอ.สปสช.กทม. ให้กำลังใจหมอสุภัทร หลังโดนสอบสวน ขอทุกคนก้าวข้ามความขัดแย้ง เห็นประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง
ผู้สื่อข่าวโตโจ้นิวส์รายงานว่า ดร.ทพ.วิรัตน์ เอื้องพูลสวัสดิ์ อดีตผู้อำนวยการ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 13 กรุงเทพฯ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า
เที่ยงนี้ผมไปให้กำลังใจหมอสุภัทรครับ สิ่งที่หมอสุภัทรกำลังถูกสอบสวนตอนนี้ ผมเป็นส่วนหนึ่งในเหตุการณ์นั้นด้วย
ผมย้ายจากผอ.สปสช.สงขลาไปเป็นผอ.สปสช.กทม ช่วงโควิดกำลังสุกงอมในกทมพอดี ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม มีทั้งผู้ป่วยที่ต้องเสียชีวิตกลางถนน จำนวนผู้ป่วยที่สูงกระโดดจนสถานบริการไม่ว่าจะเป็นรพ. Hospitel, Hotel isolation รับไม่ไหว จนต้องนำระบบ primary care เข้ามาจัดการดูแลผู้ติดเชื้อในลักษณะ home isolation and community isolation แต่นั่นเป็นจัดการกับผู้ติดเชื้อ การตรวจคัดกรองอย่างปูพรมที่ยังติดขัดอยู่ที่ต้องใช้เทคนิค PCR ที่ต้องส่งแลป จึงทำอย่างกว้างขวางไม่ได้
ช่วงนั้นเอง ชุดตรวจด้วยตนเอง ATK ก็เป็นแนวทางใหม่ที่ตปทยืนยันว่าได้ผลดี ตรวจแล้วทราบผลเลย สปสชก็พยายามจะนำเข้ามาใช้ แต่ต้องผ่านอนุกรรมการ แล้วจึงเข้าบอร์ดเพื่ออนุมัติให้ใช้ได้ ต้องมีช่วงเวลาดำเนินการตามระบบ แต่การระบาดในกทมรุนแรงมาก บุคลากรสาธารณสุขในกทมก็ระดมความร่วมมืออย่างเต็มที่ มี EOC ที่เป็นศูนย์สั่งการที่รัฐบาลตั้งขึ้นมาบูรณาการงานสาธารณสุขทุกภาคส่วน แต่ก็ยังปฏิบัติการควบคุมสถานการณ์ได้ไม่ทั่วถึง
ทีมแพทย์ชนบทจึงเสนอตัวเข้ามาช่วย มีรองปลัดท่านนึงเป็นผู้ดูแลในฝั่งสธ. EOC ก็ต้องรับทราบและอนุมัติดำเนินการ ดังนั้น ผมในบทบาทผอ.สปสช.กทม.ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ EOC ย่อมต้องยอมรับการเสียสละของเหล่าทีมแพทย์และบุคลากรจากทั่วทุกสารทิศที่มาช่วยกันคัดกรองชาวบ้าน แต่การรอชุดตรวจตามระเบียบปกติย่อมไม่ทันแน่ รพ.ต่างๆจึงต้องช่วยกันหาหนทางเตรียมชุดตรวจมาด้วย โดยจัดหาชุด ATK มากัน
ซึ่งก็มีหนังสือจากกรมบัญชีกลางฉบับหนึ่งกำหนดแนวทางปฏิบัติในการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวข้องกับการตัดการโควิดในสถานการณ์ฉุกเฉินได้โดยอนุโลม รพ.จึงสามารถจัดหาอุปกรณ์มาพร้อมคน และลงมือคัดกรองประชาชนในกทมได้อย่างรวดเร็ว ตอบโต้สถานการณ์วิกฤตในช่วงเวลานั้นมาอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ได้ผลสัมฤทธิ์พึงประสงค์
ผมถือว่านี่คือความสำเร็จของคนกระทรวงสาธารณสุขโดยแท้ และคือความภาคภูมิใจของประเทศชาติ มิใช่ผลงานของผู้ใดผู้หนึ่ง ดังนั้น เมื่อหมอสุภัทรถูกตั้งกรรมการสอบสวนจากเหตุดังกล่าว ผมคงไม่สามารถนิ่งนอนใจมองดูเหตุการณ์ครั้งนี้เฉยๆได้
ผมขอให้ทุกคนช่วยกันก้าวข้ามความขัดแย้งนี้ มองประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง ผมอยากเห็นความเป็นเอกภาพของระบบสาธารณสุขของไทยที่สามารถจรรโลงด้วยมือของพวกเราเองทุกคน และขอส่งความปรารถนาดีมายังคนดีในสังคมอย่างหมอสุภัทรอีกครั้งครับ
#เพื่อไม่พลาดข่าวสารดีๆ อย่าลืมกดติดตามพวกเรา TOJO NEWS