โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

หุ้น การลงทุน

4 ธีมเด่นลงทุนครึ่งปีหลัง ส่องกลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุน ท่ามกลางไฟสงคราม!!

The Bangkok Insight

อัพเดต 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 9 ชั่วโมงที่ผ่านมา • The Bangkok Insight

ตลาดลงทุนครึ่งแรกปี 2568 เผชิญความท้าทาย ทองคำพุ่งทำจุดสูงสุดใหม่ น้ำมันผันผวน หุ้นไทยหลุด 1,200 จุด ส่อง 4 ธีมเด่นลงทุนครึ่งปีหลัง กลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุน ท่ามกลางไฟสงคราม!!

หากย้อนดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรกปีนี้ ถือว่าหนักหนาสาหัสพอควรกับการลงทุนทั่วโลก เช่น ราคาทองคำปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ น้ำมันดิบที่ระดับผันผวนตาม OPEC+ และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ S&P500 กลับมาเป็นบวกได้แล้วหลังวันปลดแอกอเมริกา อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐอเมริกา 10 ปี ปรับตัวทดสอบระดับ 4.50% ท่ามกลางความเสี่ยงหนี้ท่วม หรือดัชนีหุ้นไทยหลุด 1,200 จุด จากแนวรับกลายเป็นแนวต้าน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจหดตัว

กลยุทธ์จัดพอร์ตลงทุน

ควรจัดพอร์ตอย่างไร เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนในระดับที่ดีและป้องกันความเสี่ยง

ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับการลงทุนทั่วโลก นักลงทุนได้เห็นปรากฏการณ์สำคัญหลายอย่าง เช่น ราคาทองคำที่พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ ราคาน้ำมันดิบที่ผันผวนตามการปรับนโยบายของกลุ่ม OPEC+ และปัจจัยภูมิรัฐศาสตร์ ดัชนี S&P500 ที่กลับมาเป็นบวกได้อีกครั้งหลังวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐอเมริกา อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้นไปทดสอบระดับ 4.50% ท่ามกลางความกังวลเรื่องหนี้สาธารณะที่เพิ่มขึ้น และดัชนีหุ้นไทยที่หลุดระดับ 1,200 จุด จากที่เคยเป็นแนวรับกลับกลายเป็นแนวต้าน ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่หดตัว

คำถามสำคัญที่ตามมาคือ ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เราควรจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไร เพื่อสร้างโอกาสในการรับผลตอบแทนที่ดีและป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ขอแนะนำ 4 ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ พร้อมแนวทางการจัดพอร์ตที่เหมาะสมดังนี้

จัดพอร์ตลงทุน

1. การปรับเส้นทางการค้าโลก (Trade Restocking and Rerouting)

การที่สหรัฐอเมริกาเรียกเก็บภาษีการค้ามากขึ้น ทำให้ประเทศที่ถูกเรียกเก็บภาษีพยายามหาทางหลีกเลี่ยง เห็นได้จากการส่งออกและนำเข้าของโลกที่เร่งตัวขึ้นอย่างมากในเดือนมีนาคม - เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเรียกว่าการกลับมาเติมสต็อกสินค้า (Trade restocking) เมื่อภาษีถูกยกระดับขึ้น การปรับเปลี่ยนจุดหมายของการค้า (Trade rerouting) ไปยังตลาดอื่นที่ไม่ใช่สหรัฐอเมริกาจะตามมา รวมถึงการค้าขายสินค้ากันเองระหว่างประเทศในแถบเอเชียก็มีโอกาสเกิดขึ้นสูงเช่นกัน

2. พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ไม่เหมือนเดิมแต่ล็อกผลตอบแทนสูง (Treasuries: Not the Same but Locked-in)

แม้ว่าตลาดจะคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (Fed) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ แต่จากปัจจัยต่าง ๆ เช่น นโยบายภาษีของทรัมป์ และความกังวลเรื่องเงินเฟ้อที่อาจกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง การลดดอกเบี้ยอาจมาล่าช้าและน้อยกว่าที่คาดไว้ ด้วยระดับอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันที่ 4.5-5.0% การลงทุนในพันธบัตรสหรัฐอเมริกา จึงยังให้ผลตอบแทนที่คงที่ในระดับสูง (Locked-in) อย่างไรก็ตาม การถือพันธบัตรสหรัฐอเมริการอบนี้อาจจะไม่ปลอดภัยเหมือนเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากย้อนไป 5 ปีก่อน การลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุมากกว่า 20 ปี อาจทำให้ขาดทุนเกือบ 50% จากดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ดังนั้น นักลงทุนควรเน้นลงทุนในพันธบัตรสหรัฐอเมริการะยะสั้น (Money Market) หรืออายุไม่เกิน 1 ปี

3. ยุคทองคำรุ่งเรือง (The Golden Era)

ราคาทองคำได้ทำจุดสูงสุดใหม่ ท่ามกลางความปั่นป่วนของโลกในช่วงครึ่งแรกปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นสงครามการค้า ภาพรวมเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน หรือแนวโน้มของสงครามที่อาจนำไปสู่เงินเฟ้อในระยะถัดไป นอกจากนี้ การกักตุนทองคำเพื่อเป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลกก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง สถานการณ์ทั้งหมดบ่งชี้ว่า ยุคนี้การมีทองคำติดพอร์ตไม่ใช่เพียงเพื่อไม่ให้พลาดโอกาส แต่เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความเสี่ยงของพอร์ตลงทุน อย่างไรก็ตาม นักลงทุนอาจไม่ควรซื้อที่ระดับราคา 3,300 – 3,500 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ควรรอให้ราคาทองคำย่อตัวลง หรือทยอยซื้อเมื่อราคาทองคำปรับฐานลง

4. แนวคิด The Mar-A-Lago Accord is Now

แนวคิดนี้มาจากสตีเฟน มิแรน นักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของรัฐบาลทรัมป์ ซึ่งตั้งชื่อตามบ้านพักตากอากาศของประธานาธิบดีทรัมป์ มิแรนเสนอว่า เพื่อลดการขาดดุลการค้าของสหรัฐอเมริกา ค่าเงินดอลลาร์ “ควรอ่อนค่าลง” ในขณะเดียวกัน เขาก็ต้องการให้ดอลลาร์ยังคงเป็น “สกุลเงินหลักของโลก” พูดง่าย ๆ คือ ต้องการให้ดอลลาร์ “อ่อนค่าในระยะสั้น” แต่ “คงมีเสถียรภาพในระยะยาว” เป้าหมาย คือ การลดดุลการค้าและลดหนี้สาธารณะ โดยทำได้ 2 วิธี คือ

  • เพิ่มภาษีนำเข้าอย่างรุนแรง (Reciprocal Tariffs) เพื่อใช้ในการเจรจากับประเทศต่าง ๆ
  • เสนอแนวคิดให้ประเทศที่ต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นทุนสำรองและไม่ต้องการโดนภาษีการค้า ถือพันธบัตร 100 ปี ที่ไม่มีการจ่ายดอกเบี้ยหรือให้แลกเปลี่ยนจากพันธบัตรปกติเป็นพันธบัตร 100 ปี วิธีนี้จะช่วยทั้งการลดดุลการค้า (โดยสนับสนุนการย้ายฐานการผลิตกลับสหรัฐอเมริกาและส่งออกมากขึ้น รวมถึงเก็บภาษีได้มากขึ้นหากใครไม่ย้ายฐานการผลิต) และนำเงินมาลดหนี้สาธารณะของประเทศ ดังนั้น ภาพที่ดอลลาร์ต้องอ่อนค่าในช่วงครึ่งปีหลังเพื่อบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

กลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุนในครึ่งปีหลัง

จากธีมการลงทุนข้างต้น สามารถจัดพอร์ตการลงทุนได้ ดังนี้

  • ตราสารทุน (Equity) (20 - 25%) : แบ่งเป็นหุ้นสหรัฐอเมริกา 5% หุ้นตลาดที่พัฒนาแล้ว 10% และตลาดเกิดใหม่ 10% โดยอาศัยประโยชน์จากธีมการปรับเส้นทางการค้า (Trade rerouting) และธีมแนวคิดมา-อา-ลาโก (The Mar-A-Lago is Now) ซึ่งอาจส่งผลให้มีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนหรือค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า
  • ตราสารหนี้ (Fixed Income) (30 - 35%) : แบ่งเป็นตราสารหนี้สหรัฐอเมริการะยะสั้น 20% และตราสารหนี้สหรัฐอเมริการะยะยาว 5% ซึ่งเป็นกลยุทธ์แบบ Barbell Strategy ที่ถือทั้งพันธบัตรระยะสั้นเพื่อล็อกผลตอบแทน และพันธบัตรระยะยาวเพื่อเก็งกำไรจากการลดดอกเบี้ย นอกจากนี้ ควรมีตราสารหนี้ไทยอีก 10%
  • ตราสารทางเลือก (Alternative Asset) (20 - 25%) : แบ่งเป็นกอง REITs 8.3% ทองคำ 8.3% และคริปโตเคอร์เรนซี 8.3% สำหรับทองคำและคริปโตเคอร์เรนซี ควรใช้กลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging) หรือทยอยลงทุน เนื่องจากราคาได้ปรับขึ้นไปสูงแล้วจากธีมทองคำรุ่งเรือง (The “Golden” Era)
  • ตราสารอนุพันธ์ (Derivative) (0 - 5%) : สำหรับนักลงทุนที่มีความเข้าใจในการลงทุนที่ซับซ้อน การซื้อ Put Options หรือสัญญาซื้อขาย VIX Index ท่ามกลางความผันผวน ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่น่าสนใจ
  • เงินสด (Cash) (10 - 20%) : ควรเก็บเงินสดไว้อย่างน้อย 10% จากความไม่แน่นอนของโลกในปัจจุบัน เพราะเงินสดคือสิ่งสำคัญที่สุดเสมอ (Cash is always King)

กลยุทธ์จัดพอร์ต ครึ่งปีหลังท่ามกลางไฟสงคราม

จัดพอร์ตลงทุน

ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ สภาพตลาดการลงทุนยังคงเต็มไปด้วยความผันผวนและความไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม การทำความเข้าใจใน 4 ธีมการลงทุนหลัก ได้แก่ การปรับเส้นทางการค้าโลก, สถานการณ์พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ, ยุคทองคำรุ่งเรือง และแนวคิด Mar-A-Lago Accord จะช่วยให้นักลงทุนสามารถวางแผนและปรับกลยุทธ์พอร์ตการลงทุนได้อย่างเหมาะสม

การกระจายความเสี่ยงไปในสินทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งตราสารทุน ตราสารหนี้ ตราสารทางเลือก และการรักษาสัดส่วนเงินสดที่เพียงพอ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีพร้อมกับการบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาวะที่โลกยังคงเผชิญกับ "ไฟสงคราม" และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ที่มา : กรรณ์ หทัยศรัทธา นักกลยุทธ์ ฝ่ายวิเคราะห์เศรษฐกิจและการลงทุน สายงานวิจัย บล.ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) , ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

อ่านข่าวเพิ่มเติม

ติดตามเราได้ที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Bangkok Insight

ปิดประตูนายกฯ ชั่วคราว! ‘วิสุทธิ์’ บอกอย่าใจร้อน ยังมี ‘ชัยเกษม’ อีกคน

20 นาทีที่แล้ว

ทย. คว้าใบรับรองสนามบินสาธารณะ ‘พิษณุโลก-กระบี่’ 2 แห่งรวด พร้อมเป็นฮับการบินภูมิภาค

35 นาทีที่แล้ว

OR ร่วมกับ บางกอกแอร์เวย์ส นำร่องใช้น้ำมัน SAF ที่ผลิตในไทยเป็นครั้งแรก

42 นาทีที่แล้ว

‘มอก.วอทช์’ 5 เดือน ใช้ AI จับสินค้าด้อยมาตรฐานกว่า 1 แสนรายการ

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความหุ้น การลงทุนอื่น ๆ

OCEAN LIFE ไทยสมุทร ร่วมบริจาคโลหิตในวันประกันชีวิตแห่งชาติ ครั้งที่ 24 ประจำปี 2568 ร่วมส่งต่อพลังความรัก เพื่อช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์

สยามรัฐ

ธ.ไทยเครดิต “หนุนชุมชนยั่งยืน สร้างเศรษฐกิจชุมชนเติบโตมั่นคง” ขับเคลื่อนความรู้ทางการเงิน ประจำปี 2568 พื้นที่ภาคตะวันออก

Wealthy Thai

IN-SURE อินทรประกันภัย ตอกย้ำนโยบาย ESGเปิดตัวประกันภัยที่อยู่อาศัย IN-SURE Go Green

สยามรัฐ

บางกอกแอร์เวย์ส และสนามบินสมุย คว้ารางวัล Top 10 สุดยอดสายการบิน และสนามบินแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

Share2Trade

TCM Corporation ฉลองความสำเร็จรีไซเคิลครบ 1 พันล้านขวด กับแคมเปญ “Beyond One Billion” ตอกย้ำพันธกิจสู่โลกที่ยั่งยืน

Share2Trade

หั่นเป้า “ยอดออกหุ้นกู้” ปีนี้เหลือ 8.0 แสนลบ. หลังครึ่งแรกซบ ลดลง -19.3%... ด้าน “เงินต่างชาติ” ครึ่งปีหลัง ยากประเมิน แม้ครึ่งแรก “ซื้อสุทธิ” กว่า 3.2 หมื่นลบ. !!!

Wealthy Thai

“หุ้น Tesla” ร่วงกว่า 7% นักลงทุนหวั่น อีลอน มัสก์ ตั้งพรรคการเมือง กระทบแบรนด์-ทิศทางธุรกิจ

การเงินธนาคาร

Hot Stocks ประจำวันที่ 08/07/2568

Share2Trade

ข่าวและบทความยอดนิยม

ทิศทางหุ้นไทยสัปดาห์หน้า! คาดแกว่งกรอบ 1,100-1,160 จุด ลุ้นเจรจาภาษีสหรัฐ

The Bangkok Insight

หุ้นวันนี้ปิดร่วง 7.27 จุด ต่างชาติเทขาย 2 พันล้าน จับตาเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ

The Bangkok Insight

หุ้นเช้าวันนี้เปิดร่วงเล็กน้อย ดัชนียืนที่ 1,127.35 จุด คาดแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์อัพ

The Bangkok Insight
ดูเพิ่ม
Loading...