มท. จัดพื้นที่พิเศษฟรี งาน ‘OTOP ศิลปาชีพ’ เยียวยาผู้ประกอบการชายแดนไทย-เขมร
มท. สั่งด่วน จัด 'พื้นที่พิเศษ' ช่วยผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา และสถานการณ์น้ำท่วม นำสินค้ามาจำหน่ายในงาน 'OTOP ศิลปาชีพ'
4 ส.ค. 2568 - นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เปิดเผยว่า ในช่วงนี้ประเทศไทยประสบวิกฤติทางเศรษฐกิจในหลายด้าน อันสืบเนื่องจากการได้รับผลกระทบสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาและสถานการณ์น้ำท่วม กรมการพัฒนาชุมชนมีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นอย่างมาก และเชื่อมั่นว่าจิตใจของพี่น้องชาวไทยทั้งประเทศคงมีความวิตกเป็นห่วงเช่นกัน
ดังนั้น เพื่อเป็นการช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจและเพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น กรมการพัฒนาชุมชนได้รับนโยบายเร่งด่วนจากกระทรวงมหาดไทย ให้ส่งเสริมพื้นที่จำหน่าย หรือ “จัดบูธพื้นที่พิเศษ” ให้ผู้ประกอบการในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบจากสองสถานการณ์ดังกล่าว สามารถนำสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนมาจำหน่ายในงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” ที่กรมการพัฒนาชุมชน ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 17 สิงหาคม 2568 นี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 - 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เพื่อเคียงข้างและช่วยเหลือประชาชนให้มีรายได้ ตลอดจนฟื้นฟูเศรษฐกิจในชุมชน และให้ประชาชนกลับมายิ้มได้อีกครั้ง
สำหรับงาน “ศิลปาชีพประทีปไทย OTOP หลอมดวงใจ ด้วยพระบารมี” เป็นงานที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมการพัฒนาชุมชน จัดขึ้นทุกปีในช่วง “วันแม่” เพื่อสืบสานพระราชปณิธานและพระเมตตาของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ตลอดจนส่งเสริมผลิตภัณฑ์ OTOP ซึ่งเป็นผลผลิตจากภูมิปัญญาชาวบ้านทั่วประเทศให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “จากมือคนไทย…สู่หัวใจคนทั้งโลก” หรือ From Hand To Heart
“ระหว่างวันที่ 9–17 สิงหาคมนี้ ผมขอเชิญชวนทุกท่านมาชม ชิม ช้อป และร่วมภาคภูมิใจไปกับผลิตภัณฑ์ OTOP งานนี้ไม่ได้มีแค่ของสวย ๆแต่เต็มไปด้วยของดีจากทุกภูมิภาคที่ชาวบ้านตั้งใจทำด้วยมือและหัวใจ ซึ่งผลิตภัณฑ์ OTOP บอกเลยว่าคุณภาพไม่แพ้ใครในโลก โดยเฉพาะผ้าไทย รวมถึงของกินของใช้จากชุมชนทั่วประเทศ ที่รอให้ทุกท่านมาสัมผัส เลือกซื้อ และสนับสนุนผู้ผลิตโดยตรง ถือเป็นเวทีที่รวมพลังความคิดสร้างสรรค์ ภูมิปัญญา และศักยภาพของคนไทยไว้มากที่สุดงานหนึ่งแห่งปี และคาดว่าปีนี้จะมีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 100,000 คน มียอดเงินสะพัดไม่ต่ำกว่า 600 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยกระจายรายได้สู่ชุมชนและกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศให้กลับฟื้นโดยเร็วอย่างแน่นอน ” อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ระบุ.