ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลดลง 200 จุด หลังทรัมป์ขึ้นภาษีอียู เม็กซิโก 30%
ซีเอ็นบีซี รายงานว่าตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหุ้นสหรัฐติดลบดาวโจนส์ฟิวเจอร์ของสหรัฐฯ ลดต่ำลงในเย็นวันอาทิตย์ (13 ก.ค.) ขณะที่วอลล์สตรีทต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากภาษีนำเข้าที่ยังคงดำเนินต่อไป และบริษัทต่างๆจะเริ่มรายงานผลประกอบการไตรมาสสองอาทิตย์นี้
ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์ลดลง 0.5% ขณะที่ดัชนีNasdaq 100 ฟิวเจอร์ ลดลง 0.6% ส่วนดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ฟิวเจอร์ ลดลง 214 จุด หรือ 0.5%
เมื่อวันเสาร์ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่าสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหภาพยุโรป (EU) และเม็กซิโกเป็น 30% ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นไป ผู้นำของสหภาพยุโรปและเม็กซิโกระบุว่า พวกเขาตั้งใจที่จะเจรจากับรัฐบาลทรัมป์ต่อไปในเดือนนี้ เพื่อพยายามหาข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีที่ลดลง
การประกาศดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนการรายงานตัวเลขเงินเฟ้อในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนเข้าใจถึงผลกระทบของภาษีนำเข้าของทรัมป์ที่มีต่อเศรษฐกิจโดยรวมได้ดียิ่งขึ้น
“เงินเฟ้อมาถึงแล้วพร้อมกับภาษีศุลกากร คำถามคือใครจะรับภาระ บริษัทที่มีอำนาจในการขึ้นราคาสินค้าหมายความว่าผู้บริโภคจะรับภาระ บริษัทที่ไม่มีอำนาจกำหนดราคาหมายความว่าบริษัทจะต้องรับภาระผ่านการลดอัตรากำไรลง” ปีเตอร์ บ็อควาร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของกลุ่มการเงิน Bleakley Financial Group กล่าวเมื่อวันศุกร์ในรายการ “Fast Money” ของซีเอ็นบีซี
การเคลื่อนไหวของตลาดฟิวเจอร์ในวันอาทิตย์เกิดขึ้นหลังจากที่หุ้นติดลบในสัปดาห์ที่แล้ว แม้ว่าค่าดัชนีหลักๆ จะยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยดัชนี S&P 500 ลดลง 0.31% ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ติดลบครั้งแรกในรอบสามสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ Dow Jones Industrial Average ลดลง 1.02% หยุดถิติขึ้นติดต่อกันสามสัปดาห์
ขณะเดียวกัน ดัชนี Nasdaq Composite ลดลงเล็กน้อย 0.08% หยุดสถิติขึ้นติดต่อกันสามสัปดาห์
ฤดูกาลประกาศผลประกอบการจะคึกคักขึ้นในช่วงปลายสัปดาห์นี้ ธนาคารขนาดใหญ่ รวมถึงJPMorgan Chase จะรายงานผลประกอบการรายไตรมาสเริ่มตั้งแต่วันอังคาร
อีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนจับตามองคือความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลทรัมป์และธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เควิน แฮสเซ็ตต์ ประธานสภาเศรษฐกิจแห่งชาติสหรัฐฯ ให้สัมภาษณ์กับเอบีซีนิวส์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์สามารถปลดนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด “ได้หากมีเหตุผล”
เจ้าหน้าที่ของทรัมป์กำลังตรวจสอบค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารหลักของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ขณะที่ประธานาธิบดีได้วิพากษ์วิจารณ์พาวเวลหลายครั้งที่ไม่ลดอัตราดอกเบี้ย ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ออกมาปฏิเสธข้อวิพากษ์วิจารณ์บางส่วนเกี่ยวกับโครงการปรับปรุงอาคารดังกล่าว