ช้าไป!! ‘โรม’ ลั่นเชิญทูตนอกดูจุดปะทะ 1 ส.ค. เหมือนแก้ตัวเพราะไปทีหลังกัมพูชา
"โรม" ซัดรัฐบาลล่าช้า เชิญทูตต่างประเทศไปดูจุดปะทะ 1 สิงหาคม เหมือนไปแก้ตัว เพราะไปทีหลังกัมพูชา ทำเสียโอกาสเห็นภาพจริง แนะเปิดแนวรบใหม่ล้างคอลเซ็นเตอร์
นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมาธิการวันนี้ เป็นการติดตามเรื่องปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งมีหลายมิติ
ในสถานการณ์ปัจจุบัน มองว่าการหยุดยิงน่าจะเป็นผลแล้ว แต่ก็ต้องสิ่งสำคัญคือ ต้องคิดถึงโจทย์ระหว่างประเทศที่ประชาชนคนไทยเป็นห่วง โดยเฉพาะการหาแนวทางรับมือ กับวิธีการต่าง ๆ ที่กัมพูชาได้ดำเนินการไปก่อนหน้า ไม่ว่าจะเป็นการพาผู้ช่วยทูตทหาร สื่อต่างชาติ ไปลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2568 แต่ประเทศไทย กลับจะพาไปลงพื้นที่ในวันที่ 1 สิงหาคม ทำให้หลายฝ่ายเป็นห่วงว่าจะช้าไปหรือไม่
นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หากรัฐบาลพาสื่อต่างชาติและทูตประเทศต่าง ๆ ไปลงพื้นที่ตามแนวชายแดนวันนี้หรือก่อนหน้านี้ จะทำให้ทุกคนได้เห็นบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นการอพยพ และได้พูดคุยกับประชาชนว่ารู้สึกอย่างไร เพื่อเห็นภาพจริง แต่เมื่อจะไปวันที่ 1 ส.ค. ตนเชื่อว่าประชาชนที่เป็นห่วงบ้านของตนเอง ห่วงวัว ห่วงควาย และสัตว์เลี้ยงอื่น ๆ เขาก็พยายามทยอยกลับบ้าน
ดังนั้น ภาพที่จะลงไปเห็นในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ ต้องยอมรับว่า ความล่าช้าของเราทำให้เสียโอกาสในการที่จะทำให้ต่างชาติได้เห็นภาพว่าการกระทำของกัมพูชา มีเป้าหมายโจมตีพลเรือนชัดเจน นี่คือความเสียหายของความล่าช้าของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน ในที่ประชุม กมธ. จะมีการพูดคุยกันเพื่อสอบถามถึงแนวทางของรัฐบาล ว่าจะมีวิธีการดำเนินการอย่างไรต่อวิธีการของกัมพูชา ที่ดำเนินการระหว่างประเทศในทุกรูปแบบทุกขั้นตอน แม้กระทั่งประธานสภาของกัมพูชาก็มีการไปพูดในเวทีสำคัญ นี่คือสิ่งที่ไทยไม่ได้เตรียมการ หรือการดำเนินการระหว่างประเทศยังดีไม่พอ
ส่วนกรณีกัมพูชาสื่อสารบิดเบือนความจริง เป็นสิ่งที่ชาติอื่นไม่ได้มารับรู้ว่ากัมพูชาเป็นอย่างไร ดังนั้น การที่เราจะมีความชอบธรรมในเวทีระหว่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ด้วยการถ่ายทอดเรื่องราวข้อเท็จจริงต่าง ๆ โดยไม่บิดเบือนเนื้อหา หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง
สิ่งที่เรากำลังทำคือ ต้องการให้ประชาคมโลกได้เห็นในสิ่งที่กัมพูชาทำ มีลักษณะอย่างไร เพราะเรารู้อยู่แล้วว่ากัมพูชา จะทำให้เห็นว่าตัวเองเป็นเหยื่อ เราจึงไม่สามารถที่จะปล่อยให้กัมพูชา เล่าเรื่องของเขาเพียงลำพัง และต้องพยายามทำอย่างรวดเร็ว แต่ปัญหาคือ เมื่อกัมพูชาชิงเล่าก่อน ฝ่ายที่ออกมาพูดทีหลังก็อาจจะถูกกล่าวหาได้ว่า เป็นการแก้ตัว
สำหรับเรื่องนี้ต้องยอมรับว่า ค่อนข้างเสียหาย ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วสถานทูตทั่วโลกตั้งอยู่ในประเทศไทยมากกว่ากัมพูชา ประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆ มานาน แต่ต้องยอมรับว่าตั้งแต่รัฐบาล ปี 2557 เป็นต้นมา บทบาทไทยในเวทีโลกลดลงเรื่อย ๆ วันนี้เห็นชัดเจนว่า เราต้องเผชิญหน้ากับประเทศที่เล็กกว่าอย่างกัมพูชา กลายเป็นว่าประเทศไทยเสียเปรียบในหลาย ๆ ด้าน การสู้รบทางการทหารเราสู้ได้ แต่การสู้รบทางการต่างประเทศเราต้องเร่งสปีดให้มากกว่านี้
ดังนั้น ในที่ประชุม กมธ.ก็จะมีการพูดคุยเรื่องความล่าช้าของรัฐบาลด้านการสื่อสารด้วย โดยเฉพาะในเวทีโลก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ทั้งที่เรามีเหตุการณ์หลายอย่างที่สามารถใช้โอกาสที่จะทำให้เวทีโลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นการวางกับดักระเบิด การโจมตีเป้าหมายพลเรือน หรือแม้กระทั่งหลักฐานการปะทะกัน ที่พิสูจน์ได้ว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แต่ไม่ได้เอาไปใช้ สุดท้ายประชาคมโลกก็คิดว่า ไทยไปโจมตีกัมพูชาก่อน เพราะประเทศไทยใหญ่กว่า
แนะเปิดแนวรบ จัดการคอลเซ็นเตอร์ สร้างผลงานไทย
ส่วนอีกเรื่องที่ต้องพูดคุยคือ คอลเซ็นเตอร์ เพราะไทยต้องพยายามเปิดแนวรบใหม่ ๆ ไม่ใช่แนวรบเฉพาะการสู้รบเท่านั้น ซึ่งคอลเซ็นเตอร์ เป็นหนึ่งในเรื่องที่ไทยสามารถ หยิบเอามาทำให้เป็นผลงานของประเทศทยได้ และยังเป็นผลดีต่อประชาคมโลก
เราต้องทำให้ประชาคมโลกเห็นว่ากัมพูชามีรายได้หลักมาจาก แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งส่งผลเสียต่อโลก เราจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ซึ่งจะส่งผลต่อหม้อข้าวของแกนนำหรือผู้ที่มีอำนาจของกัมพูชาด้วย แม้กระทั่งกรณีที่มีการสังหารนักการเมืองกัมพูชาในประเทศไทย เป็นกรณีที่เราสามารถหยิบ มาใช้ได้ แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลพูดเรื่องนี้น้อยมาก
ทั้งนี้ ปัญหาของรัฐบาลที่มีนัยยะสำคัญอย่างหนึ่ง คือ ความชอบธรรม โดยต้องยอมรับว่าสังคมไม่เชื่อมั่นรัฐบาลแล้ว นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมพรรคประชาชนจึงเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภาและคืนอำนาจให้กับประชาชน เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งแล้วมีรัฐบาลที่มีความชอบธรรมต่อไป
จากความไม่ชอบธรรมของรัฐบาลจึงมีคำถามออกมามากมาย แม้กระทั่งกรณีที่นายภูมิธรรม เวชยชัยรักษาการนายกรัฐมนตรี ไปเจรจากับนายกกัมพูชาที่ประเทศมาเลเซีย ก็มีคำถามจากคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ไว้ใจในเรื่องการเจรจาดังกล่าวซึ่ง สิ่งเหล่านี้เป็นปัญหาที่ต้องยอมรับว่าคนที่ทำให้ปัญหาเกิดขึ้น คือรัฐบาลเอง
ส่วนกรณี ว่าที่เอกอัครราชทูตของสหรัฐประจำประเทศไทย กล่าวถึงความขัดแย้งไทย-กัมพูชา ว่าสู้รบกันไปก็ไม่มีประโยชน์ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐได้ ซึ่งคำพูดนี้จะทำให้ ไทยมีปัญหาในเวทีโลกหรือไม่ นายรังสิมันต์กล่าวว่า ต้องยอมรับและเชื่อว่าคำพูดนี้เสียดแทง ความรู้สึกของคนไทยแน่นอน
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าข้อเท็จจริงที่เราเห็นและข้อเท็จจริงที่นานาชาติเห็น ดังนั้นต้องช่วยกันกระตุ้นให้กระทรวงการต่างประเทศ ทำหน้าที่ในการสื่อสารกับทั่วโลกให้ดีกว่านี้ เราปล่อยให้แนวความคิดแบบนี้เกิดขึ้น แบบนี้ไม่เป็นผลดีกับประเทศไทยแน่นอน เราจึงมีความจำเป็นที่จะต้องสื่อสารกับโลกให้มากขึ้น เพราะถ้าทั่วโลกคิดกันแบบนี้ ประเทศไทยเราเสียหาย
เราจะทำงานล่าช้าแบบเช้าชามเย็นชามไม่ได้แล้ว และคิดว่าเรื่องนี้นายมาริษเสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เคลื่อนไหวล่าช้ามาก ที่ผ่านมามีการเคลมว่าไปถึงนิวยอร์ก ที่สหรัฐอเมริกาแล้วแต่ ก็ไม่ได้เห็นว่าผลลัพธ์จะเป็นรูปธรรม ในการสื่อสารหรือทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทย หรือความเข้าใจในเรื่องความขัดแย้งกับกัมพูชา ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็นอย่างไร
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กองทัพภาคที่ 2 แจงสถานการณ์ ‘ปราสาทตาควาย’ ยังไม่ยึดเนิน 350
- 'โฆษกรัฐบาล' ถามวันนี้ 'กัมพูชา' โกหกอะไร? หลังปล่อยข่าวปลอมทุกวัน!
- ‘โรม’ ซัด ‘ทักษิณ’ โผล่นำทัพรัฐบาลช่วง ‘อุ๊งอิ๊ง’ แผ่ว!
ติดตามเราได้ที่