โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ดร.ณัฏฐ์ เปิดขั้นตอนคดี ‘แพทองธาร’ ศาลรธน.วินิจฉัยได้ทันที หากเป็นข้อกม.-หลักฐานครบ

ไทยโพสต์

อัพเดต 8 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา

"ดร.ณัฏฐ์" เปิดขั้นตอน คดี"แพทองธาร" ศาลรัฐธรรมนูญ ไม่มีกรอบเวลา หากเป็นข้อกฎหมาย-พยานหลักฐานเพียงพอ วินิจฉัยคดีได้โดยไม่ต้องไต่สวน นัดอ่านคำวินิจฉัยได้ทันที

31 กรกฎาคม 2568 - สืบเนื่องศาลรัฐธรรมนูญมีมติโดยเสียงข้างมาก 5 ต่อ 4 มีคำสั่งอนุญาตให้นางสาวแพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง ขยายระยะเวลายื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาออกไป จนถึงวันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นครั้งสุดท้าย ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 31 ส่วนหากกรณีผู้ถูกร้องไม่ยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว ให้ถือว่า ผู้ถูกร้องไม่ติดใจที่จะยื่นคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา และศาลรัฐธรรมนูญจะดำเนินกระบวนพิจารณาต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 มาตรา 54 วรรคสาม นั้น
ล่าสุด “ดร.ณัฏฐ์” หรือ ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน ได้ให้ความเห็นเพื่อประโยชน์สาธารณะว่า ประเด็นที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้องในปมคลิปเสียงสนทนากับนายฮุนเซน โดยผู้ร้องกล่าวหาว่าขาดคุณสมบัติความเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4)(5) หากกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ มีผลให้นางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี สิ้นสมาชิกภาพความเป็นรัฐมนตรี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4)และมีผลให้คณะรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 167 วรรคหนึ่ง (1) นำไปสู่การฟอร์มทีมรัฐบาลชุดใหม่

แต่ประเด็นที่ถูกกล่าวหาในเรื่องคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 มี 2 ประเด็น ประเด็นแรก มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ ประเด็นที่สอง มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ หากศาลรัฐธรรมนูญโดยเสียงข้างมากวินิจฉัยกระทำฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญในประเด็นหนึ่งประเด็นใด ย่อมทำให้พ้นจากตำแหน่งทันที

ศาลรัฐธรรมนูญเคยวินิจฉัยเกี่ยวกับคุณสมบัติรัฐมนตรีและได้วางบรรทัดฐานในคำวินิจฉัยที่ 21/2567 นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

แต่คำวินิจฉัยคำว่า มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่ เป็นการตีความไว้อย่างกว้าง โดยยึดโยงมาตรฐานจริยธรรมฯ 2561 ข้อ 27 ได้กำหนดให้กระทำฝ่าฝืนหมวด 1 เป็นมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

แต่ข้อเท็จจริงที่นางสาวแพทองธารฯถูกกล่าวหา เทียบเคียงกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง การตีความในลักษณะกว้างของศาลรัฐธรรมนูญ ผลคดี อาจออกบวก หรือลบก็ได้อยู่ที่มติเสียงข้างมาก

ประเด็นเนื้อหาแห่งคดี ปมคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายฮุนเซน ที่ผู้ร้องกล่าวหาว่า นางสาวแพทองธารฯ ได้แถลงยอมรับนั้น รับในส่วนใด และข้อรับนั้น หมายถึงอะไร เพราะยังไม่ได้รับฟังข้อมูลจากฝ่ายผู้ถูกร้อง ตามหลักฟังความสองฝ่าย ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่คู่ความทุกฝ่ายโดยมาตรฐานเดียวกัน
หากมองด้วยใจเป็นธรรมและยึดหลักข้อกฎหมาย ไม่เป็นไปตามอารมณ์ทางการเมือง คลิปเสียงการสนทนามีพิรุธ มีความน่าเชื่อถือเพียงใด มีการตัดต่อข้อความหรือไม่ ยิ่งในยุค AI ต้องตรวจสอบให้ชัดแจ้ง เพราะเป็นการสนทนายผ่านล่ามหรือคนกลาง เป็นภาระการพิสูจน์ของฝ่ายผู้ถูกร้องมิใช่ผู้ร้อง

ตรงนี้ถือว่า นางสาวแพทองธารฯพลาดมาแต่แรก แถลงยอมรับต่อสาธารณะ กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาให้สัมภาษณ์ว่า ที่เห็นต่างฝ่ายตรงข้าม หมายถึง มุมมองทางประชาธิปไตย ตรงนี้จะฟังขึ้นหรือไม่ อยู่ที่พยานหลักฐาน จะอ้างลอยๆ ให้ย่อมกระทำไม่ได้ ต้องมีพยานหลักฐานมาสนับสนุนให้เป็นที่รับฟังได้ ย้ำต้องมีพยานหลักฐานสอดคล้องแก้ต่างให้มีน้ำหนัก เป็นช่องทาง “รอด”

ต้องตอบคำถามให้ได้ว่า เหตุใดนางสาวแพทองธารฯ นายกรัฐมนตรี เป็นผู้นำรัฐบาล ที่สวมหมวก 2 ใบ เป็น“ผู้นำรัฐบาล” ในฐานะฝ่ายการเมือง และ“หัวหน้าฝ่ายปกครอง” ทุกกระทรวง ทบวง กรม รวมถึงกองทัพ เหตุใดถึงพูดพล่อยๆเช่นนั้น หากฟังได้ว่า มีความเห็นต่างถึงระดับขั้นเป็นฝ่ายตรงข้าม อริราชศัตรูระหว่างผู้นำรัฐบาล กับทหารแม่ทัพภาค 2 โดยเอื้อประโยชน์ให้แก่กัมพูชา ไปต่อไม่ได้ ช่องทาง “ร่วง” จอดไม่มีแจวต่อ กลับไปเลี้ยงบุตรได้เลย ต้องเปลี่ยนม้ากลางศึกอีกรอบ

กรอบระยะเวลาในการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญ กฎหมายไม่ได้กำหนดกรอบเวลาที่แน่นอนไว้ เป็นไปตามความจำเป็นเร่งด่วน บางคดีต้องใช้ขั้นตอนไต่สวนปกติ บางคดีจำเป็นเร่งด่วน ย่อมงดไต่สวน นัดตัดสินได้ทันที ทำให้กระชับเวลาและรู้ผลเร็วยิ่งขึ้น โดยศาลรัฐธรรมนูญใช้พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561 และข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2562 เป็นแนวทางวางกรอบพิจารณา

การออกแบบให้ศาลรัฐธรรมนูญใช้ระบบไต่สวน ส่งผลให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจในการใช้ดุลพินิจพิจารณาพยานหลักฐานได้อย่างกว้างขวาง ตามมาตรา 27 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561
แต่การพิจารณาเนื้อหาและพยานหลักฐานในสำนวน หากศาลรัฐธรรมนูญ พิเคราะห์แล้วเห็นว่า เป็นปัญหาข้อกฎหมายหรือมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ ย่อมงดไต่สวนได้ ตามมาตรา 58 วรรคหนึ่ง แห่ง พรป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2561

พูดภาษาชาวบ้าน ว่า ศาลงดไต่สวนหรือไม่ไต่สวนก็ได้ หากเข้าเงื่อนไข (1)เป็นปัญหาข้อกฎหมาย (2)มีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะวินิจฉัยได้ นัดอ่านคำวินิจฉัยได้ทันที ช่องทางนี้ ระยะเวลาสั้น กะทัดรัด ถูกใจคอการเมือง
แต่ผู้ถูกร้องอาจเพิ่มระดับความเครียดสูง อาจยกขึ้นอ้างว่า ศาลไม่รับฟังพยานหลักฐานฝ่ายผู้ถูกร้องและไม่ได้รับความเป็นธรรม ตรงนี้ ผู้ถูกร้องทำได้อย่างเดียว คือ “ทำใจ” เพราะกฎหมายบัญญัติให้อำนาจศาล
คุณสมบัติรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160(4)(5) เป็นข้อกฎหมายที่ศาลจะต้องนำข้อเท็จจริงตามคำร้องและคำชี้แจงฝ่ายผู้ร้องและพยานหลักฐานทั้งปวงมาปรับข้อกฎหมาย ที่เรียกว่า ปรับข้อเท็จจริงกับข้อกฎหมาย ไม่ใช่ปัญหาข้อกฎหมาย แต่เป็นข้อเท็จจริงที่นำไปสู่ข้อกฎหมาย เรียกว่า “ปัญหาข้อเท็จจริง” หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า จากพยานหลักฐานฝ่ายผู้ร้องและคำชี้แจงและพยานหลักฐานฝ่ายผู้ถูกร้อง พอที่จะตัดสินได้ ศาลรัฐธรรมนูญย่อมใช้มาตรา 58 วรรคหนึ่ง มีมติเสียงข้างมาก ให้งดไต่สวนหรือไม่ไต่สวนก็ได้
อำนาจศาลรัฐธรรมนูญเปิดกว้าง หากเป็นความจำเป็นเร่งด่วนและเป็นเรื่องความสำคัญ โดยการงดไต่สวนทำให้กระบวนการกระชับ และสั้นขึ้น นัดอ่านคำวินิจฉัยได้เลย

เปรียบเทียบกับกรอบระยะเวลาที่ผู้นำรัฐบาลถูกร้อง

กรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกร้องปมวาระดำรงตำแหน่ง 8 ปี ศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ กรอบระยะ ระหว่างวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ถึงวันที่ศาลได้อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 30 กันยายน 2565 โดยใช้ระยะเวลาสั้นเพียง 37 วัน

กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกร้องปมแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี โดยศาลไม่สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ มีกรอบระยะเวลา ระหว่างวันที่ 23 พ.ค.2567 วันที่ศาลได้อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 14 สิงหาคม 2567 โดยใช้ระยะเวลา 83 วัน

อีกคดีหนึ่งของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ปมคุณสมบัตินายกรัฐมนตรีฯประเด็นบ้านพักหลวง ศาลมีคำสั่งไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ ศาลใช้เวลา ระหว่างวันที่ 13 พ.ค. 2563 ถึงวันศาลได้ที่อ่านคำวินิจฉัย วันที่ 2 ธ.ค.2563 โดยใช้ระยะเวลา 203 วัน

กรอบระยะเวลาที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้เวลาในการพิจารณาช้าหรือเร็ว มีตัวแปรและปัจจัยต่างกัน

กรณีคดีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และศาลรัฐธรรมนูญมีมติสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากศาลรับไว้พิจารณาเมื่อ วันที่ 1 กรฎาคม 2568
ปมคลิปเสียงสนทนาและศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ โดยนางสาวแพทองธารฯ เป็นผู้นำรัฐบาล ถือว่า เป็นคดีสำคัญถูกจับตาของทุกฝ่าย และมีความจำเป็นเร่งด่วน ให้สังเกตว่า ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากให้ขยายระยะเวลาชี้แจงเพียง 5 วัน

หากเทียบเคียงได้กับ กรณีคดีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถูกร้อง ปมวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีและศาลสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่า จากพยานหลักฐานฝ่ายผู้ร้องและคำชี้แจงและพยานหลักฐานฝ่ายผู้ถูกร้อง เพียงพอที่จะตัดสินได้ และมีมติให้งดไต่สวน

แนวโน้ม ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย โดยใช้ระยะเวลา 30 - 45 วัน นับตั้งแต่ วันที่ 4 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป คาดหมายว่า น่าจะอ่านคำวินิจฉัยในคดีนี้ในเดือนกันยายน 2568

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

สิ่งที่น่ากลัวกว่าเขมร

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ไม่เคยได้จับเงิน!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คนกันทรลักษ์

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สันติภาพ .. มิใช่เรื่องของคนเขลา.. สันติภาพ .. เป็นเรื่องความกล้าหาญอย่างมีสติปัญญา!

5 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม