โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ศาลฎีการับฟ้อง ปมใช้ 'ศ.' สั่งพักงาน 'ส.ว.หมอเกศ'

MATICHON ONLINE

อัพเดต 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 20 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลฎีการับฟ้อง ปมใช้ ‘ศ.’ สั่งพักงาน ‘ส.ว.หมอเกศ’

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกาเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ขอให้สั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของ น.ส.เกศกมล เปลี่ยนสมัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาตรา 62 ประกอบประกอบมาตรา 77 (4) และรัฐธรรมนูญมาตรา 226 นั้น เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งรับคำฟ้องไว้พิจารณาวินิจฉัย และมีคำสั่งให้ น.ส.เกศกมล ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลฎีกาจะมีคำพิพากษา พร้อมได้แจ้งคำสั่งดังกล่าวไปยังประธานวุฒิสภาแล้ว รวมทั้ง ศาลยังมีคำสั่งให้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 10 กันยายน เวลา 14.00 น.ที่ห้องพิจารณาคดีที่ 5 ศาลฎีกา

ทั้งนี้ การฟ้องคดีดังกล่าวสืบเนื่องจาก กกต.เห็นว่าการที่ น.ส.เกศกมล ระบุข้อมูลแนะนำตัวของผู้สมัคร ส.ว.หรือ ส.ว.3 ในส่วนของประวัติการศึกษาว่า 2.1 ศาสตราจารย์การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (Professor in Human Resource Development) California University และระบุประวัติการทำงาน หรือประสบการณ์ในการทำงานในกลุ่มที่สมัครว่า “ศาสตราจารย์ ดร.แพทย์หญิง เกศกมล เปลี่ยนสมัย” นั้น ข้อเท็จจริงเป็นที่ยุติว่า น.ส.เกศกมล มิได้มีตำแหน่งทางวิชาการศาสตราจารย์ตามหลักการ และขั้นตอนที่กำหนดไว้ในกฎหมายดังกล่าวข้างต้นของไทย จึงเป็นการหลอกลวง หรือจูงใจให้บุคคลอื่นเข้าใจผิด ในคุณสมบัติ ความรู้ความสามารถ หรือชื่อเสียงหรือเกียรติคุณของผู้ถูกร้อง เพื่อจูงใจให้ผู้สมัคร หรือผู้มีสิทธิเลือก ลงคะแนนให้แก่ผู้ถูกร้อง ซึ่งเป็นการทุจริตในการเลือก และทำให้การเลือกมิได้เป็นไปโดยสุจริต หรือเที่ยงธรรม อันเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง ส.ว. พ.ศ.2561 มาตรา 62 และมาตรา 77 (4)

วันเดียวกัน ที่ศาลฎีกา องค์คณะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดไต่สวนคดีหมายเลขดำที่ บค.1/2568 กรณีตรวจสอบข้อเท็จจริงการบังคับโทษคดีถึงที่สุด นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 7 โดยวันนี้เป็นการไต่สวนพยาน จำเลย 1 ปาก คือ นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ

โดยศาลอนุญาตให้โจทก์ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซักถามพยานเพิ่มเติมได้ตามที่เห็นสมควร คดีเสร็จการไต่สวน ทั้งนี้ นายวิษณุได้ส่งเอกสารประกอบการเบิกความล่วงหน้าต่อศาล 1 ฉบับ ทำให้วันนี้เป็นการที่ศาลซักถามเพิ่มเติมตามแต่ละข้อสงสัย โดยนายวิษณุเบิกความในฐานะพยานสรุปว่า ก่อนที่นายทักษิณเดินทางกลับไทยก่อนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ว่า ได้รับข้อมูลการเดินทางกลับของนายทักษิณจากสื่อมวลชน ทำให้มีการเตรียมพร้อมล่วงหน้าโดยเปล่าประโยชน์หลายครั้ง กระทั่งได้รับการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูง และสถานทูต จากนั้นประชุมกับเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม เพื่อเตรียมพร้อมในการรับตัวนักโทษ มีการเตรียมพร้อม เพราะจำเลยเป็นอดีตนายกฯ ถือเป็นบุคคลสำคัญทางการเมืองของไทย น่าจะมีศัตรู และน่าจะเจ็บป่วยเนื่องจากสูงอายุ

นายวิษณุเบิกความอีกว่า ได้เดินทางไปพิจารณาสถานที่กักขังของนักโทษหลายรายเพื่อประกอบการตัดสินใจ แต่ไม่ได้เตรียมการสำหรับการย้ายตัวไปรักษาพยาบาลนอกทัณฑสถาน แต่หารือว่าหากมีการเจ็บป่วยจะต้องส่งตัวไปที่โรงพยาบาลใด เบื้องต้นตั้งหลักให้เป็นโรงพยาบาลของรัฐบาล แต่หากมีอาการป่วยจำเพาะที่ต้องการหมอเฉพาะทาง ให้พิจารณาตามโรงพยาบาลที่มีข้อตกลงร่วมกัน อีกทั้ง นายวิษณุได้พบนายทักษิณที่สถานพยาบาลเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ซึ่งได้เข้าไปพร้อมคณะเจ้าหน้าที่ ได้พูดคุยกับทักษิณ 20 นาที ขณะนั้นยืนยันว่าไม่ได้พูดถึงการพักโทษ หรือการย้ายตัวคุมขัง แต่จำเลยสอบถามตนเรื่องการขอพระราชทานอภัยโทษ ต่อมานายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยโทษ แต่เรื่องไม่ผ่านมาที่ตนในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

นอกจากนี้ ยังได้พูดถึงปัญหาสุขภาพของทักษิณ และการออกกำลังกายในครั้งที่อยู่ต่างประเทศ โดยตนได้ให้คำแนะนำว่าหลังจากเสร็จสิ้นกระบวนการต่างๆ ตามกฎหมาย อยากให้นายทักษิณได้บวชเข้าสู่ทางธรรม ซึ่งนายทักษิณแจ้งว่ามีปัญหาส่วนตัวเล็กน้อย จึงไม่สะดวก ในช่วงกลางดึกของวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ที่มีการย้ายตัวนายทักษิณเข้ารักษาตัวด่วนที่โรงพยาบาลตำรวจ ตนได้ทราบข้อมูลภายหลังจากการส่งตัวแล้วจากปลัดกระทรวงยุติธรรม ตนได้สอบถามว่าย้ายตัวไปโรงพยาบาลใด ปลัดฯ ระบุว่าเป็นโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งก่อนหน้านายทักษิณระบุว่าต้องการไปโรงพยาบาลย่านพระราม 9 ซึ่งตามระเบียบเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว

ต่อมาภายหลังการไต่สวนพยานปากสุดท้ายเสร็จสิ้น ศาลได้นัดฟังคำสั่งคดีนี้ในวันที่ 9 กันยายน เวลา 10.00 น.โดยศาลได้ออกหมายเรียกนายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คนปัจจุบัน เข้ามาฟังคำสั่งการบังคับโทษของนายทักษิณ

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ศาลฎีการับฟ้อง ปมใช้ ‘ศ.’ สั่งพักงาน ‘ส.ว.หมอเกศ’

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก MATICHON ONLINE

ส.ก.เนอสเปิดปม จงใจทุจริต? ชำแหละ ‘งบซ่อมสภากทม.’ 194 ล้าน เพิ่มโรงหนัง ราคาสร้างตึกหรู

35 นาทีที่แล้ว

ที่ปรึกษา รมว.กต. เผย ทูต 24 ประเทศตอบรับ ลงพื้นที่สังเกตการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา

45 นาทีที่แล้ว

คมนาคม จับมือ รฟท.-กทท. ดันขนส่งรางสู่เป้าหมาย เป้าขนส่งตู้สินค้า 2 ล้านตู้ใน 10 ปี

48 นาทีที่แล้ว

สถานทูต-ผช.ทูตทหารตอบรับลงพื้นที่สังเกตการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาแล้ว 24 ประเทศ

51 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

โปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง “อธิบดีกรมการปกครอง-อธิบดี สถ.” คนใหม่

ฐานเศรษฐกิจ

ทบ. เชิญผู้ช่วยทูตทหารอาเซียน รับฟังข้อเท็จจริง สถานการณ์ไทย-กัมพูชา

AEC10NEWs

‘บิ๊กป้อม’ ขนอดีต ‘บิ๊ก ทบ.’ ลุยชายแดน ติว ทหารรุ่นน้อง รับมือ ‘กัมพูชา’

กรุงเทพธุรกิจ

ศาลฎีกาฯสั่งคุกจริง 4 ปี 'วิรัช' คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอล สพฐ.

กรุงเทพธุรกิจ

“ภูมิใจไทย” จุดประเด็นร้อน ยื่นยกเลิก MOU ไทยกัมพูชา

THE ROOM 44 CHANNEL

เปิดนาที ฮ. ค้นหาทหารพรานแนวหน้า ภารกิจช่วยเหลือ 19 นาย หลังอดอาหารนานกว่า 3 วัน

News In Thailand

ข่าวและบทความยอดนิยม

ศาลฎีการับฟ้อง ปมใช้ 'ศ.' สั่งพักงาน 'ส.ว.หมอเกศ'

MATICHON ONLINE

ราศีใดได้บริวารที่มีหัวด้านบริหาร กำลังจะโชคดี ดวงการเงินกลับรุ่งเรือง ได้ลาภเป็นของที่ลงมือทำเอง

MATICHON ONLINE

โอลิมปิคไทยตั้ง บิ๊กต้อม นั่งประธานกรรมาธิการฝ่ายกองทุนสงเคราะโอลิมปิคระหว่างประเทศ

MATICHON ONLINE
ดูเพิ่ม