รมว.วธ. อินปั้นหนังโกอินเตอร์ นักวิชาการถามแล้วเมื่อไหร่จะยื่นยูเนสโก ปมเขมรยิงปราสาทไทย
แพทองธาร-รมว.วัฒนธรรม ติดตามนโยบาย Cash Rebate ดันหนังไทยสู่เวทีโลก พร้อมเตรียม Grant หนุนผู้สร้างทุกระดับ ขณะนักวิชาการจี้ ยังไม่เห็นความคืบหน้าการยื่นเรื่องเขมรยิงโบราณสถานถึงยูเนสโก
30 กรกฎาคม 2568 - เวลา 14.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ประชุมติดตามมาตรการจูงใจทางภาษีและ Cash Rebate เพื่อสนับสนุนผู้ผลิตภาพยนตร์ไทย
โดย น.ส.แพทองธาร ระบุว่า เป้าหมายสำคัญของนโยบายนี้คือต้องตอบโจทย์ความต้องการของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทย และต้องสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ทั้งในระดับจังหวัดและระดับประเทศ
ขณะนี้กระทรวงวัฒนธรรมอยู่ระหว่างเปิดรับฟังข้อมูลจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภาคเอกชน และจะมีการเปรียบเทียบกับมาตรการที่เคยให้แก่ผู้ผลิตภาพยนตร์จากต่างประเทศที่เข้ามาถ่ายทำในไทย ซึ่งเคยให้สิทธิ Cash Rebate สูงสุดอยู่ที่ 30% เพื่อให้การออกแบบมาตรการสนับสนุนผู้ผลิตไทยเกิดประโยชน์สูงสุดต่อระบบอุตสาหกรรมภายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นนักแสดง ผู้เขียนบท ผู้ตัดต่อ ผู้ทำกราฟิก และแรงงานเบื้องหลังอื่น ๆ ที่จะได้รับการถ่ายทอดองค์ความรู้และมีโอกาสในการจ้างงานเพิ่มขึ้น
น.ส.แพทองธารยังเปิดเผยว่า กระทรวงฯ เตรียมมาตรการเงินสนับสนุนให้เปล่า (Grant) สำหรับกระบวนการผลิตภาพยนตร์ไทย โดยจะพิจารณาให้ครอบคลุมทั้งรายเล็ก รายกลาง รายใหญ่ รวมถึงบุคคลที่มีความสามารถแต่ขาดเงินทุนในการริเริ่มงานสร้างสรรค์
“การออกมาตรการต่าง ๆ เหล่านี้ จะเป็นการยกระดับวงการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ไทยได้อย่างกว้างขวาง สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้เป็นอย่างมาก ขอให้เชื่อมั่นว่าทางกระทรวงฯ ได้ยกระดับ และพัฒนาทั้งระบบ ecosystem เพื่อให้ทุก ๆ องค์ประกอบขับเคลื่อนไปด้วยกันได้อย่างเข้มแข็ง และแข่งขันกับนานาประเทศได้ และเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ไทยอย่างแท้จริง” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมกล่าว
อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกัน ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตั้งคำถามว่า
“เมื่อไหร่ รัฐมนตรีวัฒนธรรมจะส่งเรื่องไปยัง UNESCO? กรณีเขมรใช้อาวุธโจมตีใส่ปราสาทต่าง ๆ ของไทย”