นิทานกัมพูชา ที่เล่าในโหนกระแส ฟังแล้วเข้าใจเลย ทำไมกัมพูชาชอบเคลม
เรียกได้ว่า หลายคนอาจจะเคยได้ยินนิทาน พระโค-พระแก้ว กันมาบ้างแล้ว ที่ชาวกัมพูชา ยกมาเล่า เป็นสัญลักษณ์ของความเจ็บปวดทางประวัติศาสตร์ ที่สื่อถึงการสูญเสีย และการถูกกดขี่ จากการรุกรานของไทย นิทานนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนความรู้สึกของชาวกัมพูชา แต่ยังเป็นเครื่องมือ ในการกระตุ้นความรู้สึกชาตินิยม
โดย นิทาน พระโค-พระแก้ว มีที่มาจากเหตุการณ์ในสมัยต้นกรุงศรีอยุธยา สยามยกทัพตีเมืองละแวก และกวาดต้อนสมบัติจากกัมพูชา เนื้อเรื่องยังเล่าเพิ่มอีกว่า พระโค และ พระแก้ว เป็นคู่ฝาแฝด ที่มีพลังพิเศษ และเมื่อกษัตริย์สยามส่งทูตมาท้าประลอง พวกเขา ก็ไม่สามารถต้านทานได้ และถูกจับตัวไป แต่สมบัติ และภูมิปัญญาทั้งหมด ตกเป็นของฝ่ายสยาม
ซึ่ง นักวิชาการบางท่าน มองว่า นิทานนี้ ถูกเผยแพร่ในยุคล่าอาณานิคม ทาง ฝรั่งเศส เพื่อปลุกกระแสชาตินิยมในกัมพูชา และสร้างภาพลักษณ์ไทย ในฐานะผู้รุกราน ที่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือในกระบวนการสร้างอัตลักษณ์ชาติของกัมพูชา ในช่วงที่มีความตึงเครียด
สัญลักษณ์ที่สำคัญในนิทาน คือ พระโค ถือเป็น คลังปัญญาของกัมพูชา ความสูญเสียของ พระโค จึงถูกมองว่า เป็นการปล้นภูมิปัญญาของกัมพูชา และแสดงถึงการที่ความรุ่งเรืองของไทย เกิดจากการยึดเอาความรู้ของเขมรไปนั่นเอง
ถึงแม้ จะมีความเชื่อว่า รูปปั้นวัว หน้าวัดพระแก้วในไทยเป็นพระโค ที่ถูกขโมยมา แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์กลับชี้ให้เห็นว่า วัวหิน นั้นเป็นงานศิลปะแบบตะวันตก ที่มีการนำเข้ามาตั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับนิทานเรื่องนี้แต่อย่างใด
ขอบคุณข้อมูล จาก โหนกระแส
เรียบเรียงโดย news.in.th