อย่าเพิ่งวางดาบ !
การสู้รบระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา สร้างผลกระทบเกิดขึ้นเป็นวงกว้าง และความสูญเสียมากมาย โดยเฉพาะ “ชีวิตทหารกล้า” ที่สู้เพื่อรักษาอธิปไตย พลีชีพไปทั้งสิ้น 14 นาย ตลอดจนชีวิตพี่น้องประชาชน โรงพยาบาล บ้านเรือนที่เสียหายอย่างหนัก
ขณะเดียวกัน ยังปฏิเสธไม่ได้ว่าเหตุปะทะกันสองฝ่ายครั้งนี้ ยังชัดเจนว่า “พรรคเพื่อไทย”และ “ครอบครัวชินวัตร” จะบอบช้ำ ได้รับผลกระทบมากกว่าใคร
แม้การแถลงข่าวก่อนหน้านี้ของ “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี และรมว.วัฒนธรรม ยืนยันว่า ชินวัตรไม่ได้บอบช้ำ พร้อมโต้ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น “ความขัดแย้ง” ระหว่างสองครอบครัว ไม่ใช่ “สารตั้งต้น” ก็ตาม แต่ดูเหมือนว่า ยิ่งชี้แจง ยิ่งเจ็บหนัก เพราะนาทีนี้เป็นเรื่องที่เชื่อได้ยาก
ปัญหาของรัฐบาล ที่นำโดยพรรคเพื่อไทย ที่ส่ง “คณะเจรจา” นำโดย “รัฐมนตรีเพื่อไทย” เป็นหลัก นำโดย “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษการนายกฯ ยกคณะ บินไปเจรจากับ “พล.อ.ฮุน มาเนต” นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 โดยมี “อันวาร์ อิบราฮิม” นายกฯมาเลเซีย เป็นคนกลาง ทำหน้าที่ประสานให้
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาหลังจากที่ประชุมนัดพิเศษที่มาเลเซีย กำหนดเงื่อนไข “หยุดยิง” ตั้งแต่เวลา 24.00 น.ของวันที่28 ก.ค.ปรากฎว่า “กัมพูชา” เป็นฝ่ายละเมิดอย่างชัดเจน ส่งผลทำให้เกิดคำถามตามมาว่า การเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข แต่เขมรทำสวนทาง อย่างสิ้นเชิง เพราะมีรายงานว่า ในหลายพื้นที่ทางฝั่งไทยนั้น เสียงปืน เสียงระเบิดเพิ่งสงบลงเมื่อเวลา 03.30 น. เช้ามืดของวันที่ 29 ก.ค.ด้วยซ้ำ
หมายความว่า กัมพูชา “เล่นนอกกติกา” ไม่เห็นความสำคัญของข้อตกลงหยุดยิง ที่มาเลเซียเช่นนี้ ขณะที่ “แม่ทัพภาค 2” ที่อยู่หน้างาน บัญชาการรบในพื้นที่ ที่ต้องสูญเสียลูกน้องไปด้วยกันอีก 3 นาย หลังเลยเส้นหยุดยิง จะกลายเป็นว่า “ฝ่ายการเมือง” เป็นด้านหน้าเจรจา
ในท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์เบื้องหลังภาพ การจับมือ ระหว่าง “อันวาร์-ภูมิธรรม-ฮุน มาเนต” มี “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯ เกี่ยวข้องเชื่อมโยงหรือไม่ เมื่อทักษิณ คือคนที่คบหาทั้ง อันวาร์และ “พ่อ” ของฮุน มาเนต คือ “สมเด็จ ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภากัมพูชา
ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจที่สื่อจะรุมซักภูมิธรรม และ “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ซึ่งเป็น 1ในคณะที่บินไปมาเลเซีย ด้วยท่าที ที่ไม่เชื่อมั่น ว่าการรับข้อเสนอ “หยุดยิง” ครั้งนี้มาจาก “ใบสั่ง” จากฝ่ายการเมืองหรือไม่ จนทำให้ “กองทัพ” ที่ “รบ” อยู่ในภาคสนาม ตลอด4-5 วันที่ผ่านมา หนักใจ เพราะการหยุดยิงนั้น มีคนละเมิด และไม่ได้หยุดจริงๆ
จนถึง ณ เวลานี้ กองทัพยังไม่วางใจ “กัมพูชา” เช่นเดียวกับที่ประชาชน เองยังไม่วางใจ “รัฐบาล” ไม่ต่างกัน