ทรัมป์คุยอีกใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดีย สำหรับEUก็มีโอกาส แต่แคนาดา-ญี่ปุ่นไม่คืบหน้า
ทรัมป์คุยอีกแล้วใกล้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินเดียเต็มที รวมทั้งอาจตกลงกับอียูได้เช่นเดียวกัน ส่วนกับแคนาดานั้นไม่แน่ใจ เช่นเดียวกับญี่ปุ่น ซึ่งเขาระบุว่าคงยึดตามจดหมายแจ้งอัตราภาษีที่สหรัฐฯจัดส่งไปก่อนหน้านี้
คณะบริหารของสหรัฐฯ กำลังคร่ำเคร่งเจรจาข้อตกลงการค้ากับประเทศต่างๆ ก่อนถึงเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ที่อเมริกาจะเริ่มใช้ภาษีศุลกากรอัตราใหม่กับสินค้านำเข้าจากพวกประเทสคู่ค้า
ทรัมป์ให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศทางสถานีเรียล อเมริกาส์ วอยซ์ เมื่อวันพุธ (16 ก.ค.) ว่า การเจรจาข้อตกลงการค้ากับอินเดียใกล้บรรลุผลแล้ว และยังมีความเป็นไปได้ที่อเมริกาจะบรรลุข้อตกลงกับสหภาพยุโรป เช่นเดียวกัน แต่จะเป็นข้อตกลงที่แตกต่างจากเมื่อหลายปีก่อนมาก
การให้สัมภาษณ์นี้เกิดขึ้นขณะที่ มารอส เซฟโควิก กรรมาธิการการค้าอียู มีกำหนดเดินทางถึงวอชิงตันในวันพุธเพื่อเจรจาเกี่ยวกับภาษีศุลกากร ส่วนคณะผู้แทนการค้าของอินเดียนั้นเดินทางถึงวอชิงตันแล้วตั้งแต่วันจันทร์เพื่อหารือต่อ
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับแนวโน้มการทำข้อตกลงกับแคนาดา ซึ่งประกาศเตรียมพร้อมมาตรการตอบโต้หากการเจรจาล้มเหลว อันเป็นท่าทีเดียวกันกับอียูนั้น ทรัมป์ตอบว่า เร็วเกินไปที่จะบอกได้
ความคิดเห็นนี้ของเขาก็สอดคล้องกับการประเมินสถานการณ์ของนายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ของแคนาดา ที่กล่าวเมื่อวันพุธว่า บนโต๊ะเจรจา ยังไม่มีข้อตกลงที่ดีสำหรับแรงงานในแคนาคา
ในส่วนของญี่ปุ่น ทรัมป์กล่าวว่า ไม่คิดว่า จะบรรลุข้อตกลงที่ครอบคลุมมากขึ้นกับแดนอาทิตย์อุทัย และอเมริกาอาจ “ยึดตามจดหมาย” อัตราภาษี 25% ที่ส่งให้ญี่ปุ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
สำหรับประเทศขนาดเล็กๆ นั้น ทรัมป์เสริมว่า อาจกำหนดภาษีศุลกากร 10-15%
ทั้งนี้ นับจากวันที่ 7 ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ทยอยส่งจดหมายแจ้งอัตราภาษีใหม่ไปยังหลายสิบประเทศ ขณะที่เมื่อวันอังคาร (15) ผู้นำสหรัฐฯ เผยว่า ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับอินโดนีเซียซึ่งจะต้องจ่ายภาษีศุลกากรให้อเมริกา 19%
นโยบายการค้าของทรัมป์เป็นการกลับลำความพยายามของสหรัฐฯที่ดำเนินมานับสิบปีในการเจรจาเพื่อลดอุปสรรคการค้าทั่วโลก รวมทั้งยังทำให้ตลาดการเงินทั่วโลกปั่นป่วน และจุดชนวนความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อระลอกใหม่
เควิน แฮสเส็ตต์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจระดับสูงของทรัมป์ เปิดเผยกับฟ็อกซ์ นิวส์ว่า อาจมีการประกาศข้อตกลงการค้าจำนวนมากเร็วๆ นี้ และเสริมว่า เส้นตายวันที่ 1 ส.ค. กระตุ้นให้เกิดความเคลื่อนไหวใหม่ๆ มากมาย ซึ่งรวมถึงการเจรจากับหลายประเทศที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยติดต่อมา
ขณะเดียวกัน เจมิสัน กรีเออร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวกับผู้บริหารธุรกิจในดีทรอยต์ว่า เขากำลังโฟกัสการลดยอดขาดดุลการค้าที่ขณะนี้อยู่ที่ 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ รวมถึงหยุดยั้งการสูญเสียศักยภาพการผลิตขั้นสูงของอเมริกา
นโยบายภาษีศุลกากรของทรัมป์กำหนดภาษีศุลกากรพื้นฐาน 10% สำหรับทุกประเทศ และอัตราที่สูงกว่านั้นสำหรับประเทศ “ที่สร้างปัญหา” ส่วนใหญ่ ซึ่งรวมถึงจีนที่ถูกเรียกเก็บภาษีสูงที่สุดคือ 55% กรีเออร์สำทับว่า ทรัมป์ยินดีเจรจากับทุกประเทศที่ต้องการลงทุนในอเมริกา
(ที่มา: รอยเตอร์)
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO