"พรรคประชาชน" แถลงยังไม่ได้ข้อสรุปโหวตนายกฯ รอ กก.บห.เคาะ 3 ก.ย.
วันนี้ (2 ก.ย.2568) เวลา 17.20 น. นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.พรรคประชาชน กล่าวว่า ทางพรรคยังไม่มีมติใด ๆ ซึ่ง 2 วันที่ผ่านมาได้เปิดรับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วน และเครือข่ายทั่วประเทศ โดยเมื่อวานนี้ (1 ก.ย.) ได้ส่งข้อความให้สมาชิกพรรคทั่วประเทศกว่า 1 แสนกว่าคน เพื่อให้ความคิดเห็น ขณะนี้ตอบมาแล้วสองหมื่นกว่าคน
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ในวันนี้ สส.ของพรรคมากันเกือบครบ และให้ความเห็นเพิ่มเติมพอสมควร โดยให้ความเห็นว่าจะเปิดรับฟังความเห็นของสมาชิกพรรคต่อไป และ กก.บห.พรรค จะประชุมเพื่อลงมติในวันพรุ่งนี้ (3 ก.ย.)
นายปกรณ์วุฒิ กล่าวถึงกรณีความเห็นของ สส.ในพรรคแบ่งเป็น 2 ฝ่าย อาจกระทบมติของ กก.บห.พรรคหรือไม่ ว่า เป็นวัฒนธรรมของพรรค เป็นเรื่องปกติที่มีการถกเถียงและมีความเห็นหลากหลาย โดยมีการให้เหตุผลซึ่งกันและกัน ทุกคนอาจยังเห็นแย้งเห็นต่าง แต่คำนึงถึงเอกภาพ และทุกคนเคารพมติ กก.บห.
ส่วนกระแสข่าวพรรคประชาชนสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 นั้น นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.พรรคประชาชน ยืนยันว่า ขณะนี้ไม่มีมติทางใดทางหนึ่ง และไม่มีการยกมือโหวต เป็นเพียง สส.การให้ความคิดเห็นจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งทุกคนเข้าใจตรงกันว่าไม่ใช่การเลือกนายกฯ ที่ดีที่สุด แต่เลือกเพื่อนำไปสู่กระบวนการยุบสภา และแก้รัฐธรรมนูญ โดยยังมีความคิดเห็นที่หลากหลาย
นายพริษฐ์ ยืนยันว่า การตัดสินใจไม่ได้ยึดที่ประชุม สส. แต่เป็นการรับฟังความเห็น เพื่อให้ กก.บห.พรรค นำความคิดเห็นต่าง ๆ มาประกอบการตัดสินใจ แต่หากรักษาการนายกฯ จะยุบสภาฯ ก็ให้ทำได้ทันที ไม่ต้องรอมติจากทางพรรคประชาชน
ทางออกที่ดีที่สุดของประเทศ คือ ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ และคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็ว หากผู้ที่มีอำนาจคือรักษาการนายกฯ ไม่ยุบสภา ทางพรรคก็จะใช้กระบวนการเลือกนายกฯ คนใหม่ ไปยุบสภา
นายพริษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้เวลาเดินไปเรื่อย ๆ และพรรคประชาชนเรียกร้องมา 2 เดือนแล้ว เพื่อให้รัฐบาลพรรคเพื่อไทยยุบสภา ตั้งแต่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ยังอยู่ในตำแหน่ง จนถึงนายภูมิธรรม เวชยชัย ดำรงตำแหน่งรักษาการนายกรัฐมนตรี จึงขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่าหากจะยุบสภาก็ไม่ต้องรอมติของภาคประชาชน
หลังจากนี้จะไม่มีการประชุม สส. เพื่อพิจารณาในเรื่องนี้แล้ว แต่เป็นอำนาจของ กก.บห.พรรค ในการตัดสินใจที่จะประชุมในวันพรุ่งนี้ที่รัฐสภา พร้อมเปิดเผยความเห็น สส.ในพรรค ไม่ไว้วางใจบัญชีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีทั้ง 2 พรรค ดังนั้นย้ำว่าหลายคนมีความรู้สึกเหมือนตอนพรรคเพื่อไทยฉีกMOU และหลายคนก็มีความรู้สึกต่อพรรคภูมิใจไทยที่อภิปรายตอนเลือกนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรี
นายพริษฐ์ กล่าวว่า การตัดสินใจ ไม่ได้ใช้ความรู้สึกเป็นตัวตั้ง และไม่ลืมอดีต แต่ไม่ได้นำมาเป็นปัจจัยในการตัดสินใจ ซึ่งการพิจารณาของพรรค คือ เงื่อนไข 3 ข้อ ของพรรคประชาชน และข้อที่ 3 เขียนชัดว่าพรรคเข้าไปทำหน้าที่แกนนำพรรคฝ่ายค้าน ไม่ได้ไปจับมือร่วมรัฐบาลกับใคร และจะต้องมั่นใจว่าจะเลือกคนที่เข้าไปยุบสภาตาม 3 เงื่อนไขเป็นหลัก ยืนยันว่าการตัดสินใจของ กก.บห.พรรค ในวันพรุ่งนี้ จะต้องมีคำอธิบายต่อประชาชน
ส่วนกรณีกระแสข่าวทางรัฐบาลเริ่มต้นขั้นตอนการยื่นพระราชกฤษฎีกาให้มีการยุบสภาแล้วนั้น นายพริษฐ์ ระบุว่ายังคงอยู่จุดยืนเดิม การยุบสภาและการเลือกตั้งใหม่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับประเทศ แต่ที่ผ่านมาพรรคเพื่อไทยยังไม่เคยตอบสนองและยังไม่เห็นการกระทำ โดยปฏิเสธจะแสดงความเห็นว่าเป็นการขู่ภาคประชาชนหรือไม่ เพียงตั้งข้อสังเกตจากการให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีรักษาการว่าเป็นการนำความต้องการของตัวเองเป็นตัวตั้ง เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง
นายพริษฐ์ ยังชี้แจง 2 เหตุผลที่ไม่ร่วมรัฐบาลในเงื่อนไขครั้งนี้ คือ 1.ให้ความสำคัญกับคำพูด ว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาชุดนี้จนกว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ ไม่ต้องการให้พรรคประชาชนเป็นพรรคที่ไม่น่าเชื่อถือในสายตาประชาชน 2.ต้องการคงสถานะเป็นฝ่ายค้าน ทำให้รัฐบาลเสียงข้างน้อย ที่ฝ่ายค้านจะควบคุมรัฐบาลให้รักษาสัญญาผ่านกลไกการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หากมีการเบี้ยวสัญญา
ทั้งนี้ รับรู้ความเสี่ยงหากพรรคประชาชนเลือกนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 เข้าไปแล้วภายหลังอาจมีการดูด สส.ไปเติมเสียง เพื่อสกัดเกมล้มนายกฯ จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ซึ่งเหตุการณ์ทางการเมืองไทยเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มา แต่สิ่งที่จะลดความเสี่ยงได้คือเอกภาพของ 143 สส.
อ่านข่าว : "ภูมิใจไทย" วางไทม์ไลน์ 120 วัน "ยุบสภา"
แกนนำหลายพรรคชี้ "ยุบสภาฯ" ทำได้เลย ไม่ต้องหารือ ครม.
"ฉลาด" แจงนัดโหวตนายกฯ อยู่ที่ฝ่ายการเมือง คาดเร็วสุด 5 ก.ย.นี้