ตี๋หมวยชอบดื่มชาเพื่อสุขภาพ มีนวัตกรรม แนะไทยศึกษาเทรนด์ ดันสินค้าไปขาย
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) สำรวจตลาดชาเครื่องดื่มในจีน พบผู้บริโภคให้ความสำคัญต่อการบริโภคชาเพื่อสุขภาพ มีนวัตกรรมเพิ่มมากขึ้น แนะผู้ประกอบการเครื่องดื่มไทย หากต้องการบุกเจาะตลาดต้องติดตามแนวโน้ม เทรนด์การบริโภค เพื่อให้สินค้าไทยตอบสนองได้
น.ส.สุนันทา กังวาลกุลกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมได้มอบนโยบายให้ทูตพาณิชย์ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆ ทำการสำรวจลู่ทางการค้า และโอกาสการส่งออกสินค้าไทยไปยังประเทศที่ประจำอยู่ ตามนโยบายกระทรวงพาณิชย์ ล่าสุดได้รับรายงานจากนายนิติ ประทุมวงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครหนานหนิง สาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการสำรวจตลาดชาเครื่องดื่มในจีน ที่ให้ความสำคัญต่อการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพ และโอกาสในการส่งออกเครื่องดื่มจากไทยเข้าไปจำหน่าย
ทูตพาณิชย์ได้รายงานผลการสำรวจว่า เครื่องดื่มชามีรสชาติเฉพาะตัวของใบชา อุดมไปด้วยสารสำคัญจากชาธรรมชาติ เช่น โพลีฟีนอล และกาเฟอีน ถือเป็นเครื่องดื่มที่มีประโยชน์หลากหลาย ให้ความสดชื่น และคุณค่าทางโภชนาการ และมีรายงานการวิเคราะห์ตลาดเครื่องดื่มชาของจีนปี 2567-2572 ระบุว่า ในปี 2567 ตลาดเครื่องดื่มชาของจีนมีมูลค่ามากกว่า 3,548 ล้านหยวน เพิ่มขึ้น 6% คาดการณ์ว่าตลาดจะเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มทะลุมูลค่า 4,000 ล้านหยวน ภายในปี 2571
สำหรับธุรกิจเครื่องดื่มชาของจีนมีแนวโน้มการพัฒนา 3 ประการหลัก ได้แก่ 1. ,กระแสการดูแลสุขภาพ ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจการลดน้ำตาล ไม่มีสารเติมแต่ง และฟังก์ชันพิเศษ ผลักดันให้ตลาดชารสดั้งเดิมไปสู่ชาเพื่อสุขภาพ เช่น ชาโพรไบโอติก ชาช่วยนอนหลับ และชาเติมอิเล็กโทรไลต์หลังออกกำลัง ต่างตอบสนองความต้องการในด้านการใช้ชีวิตผ่านส่วนผสมเฉพาะเพื่อกระตุ้นความสดชื่น เสริมความงาม ลดความเครียด ซึ่งสูตรชา+ฟังก์ชัน ไม่เพียงเพิ่มมูลค่า แต่ยังยกระดับเครื่องดื่มชาเป็นตัวแทนสุขภาพ มีตัวอย่างเช่น ความร่วมมือกับฟิตเนสเพื่อจำหน่ายชาบำรุงหลังออกกำลัง หรือร่วมพัฒนาเครื่องดื่มชาลดน้ำตาลกับบริษัทยา
2. แบบนวัตกรรมช่วยสร้างประสบการณ์บริโภค เช่น ชาผสมกาแฟ น้ำผลไม้ โซดา และแอลกอฮอล์ กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ KINGSTAR ซึ่งเป็นแบรนด์เบียร์ของจีน ได้ผลิตและจำหน่ายตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ เบียร์คราฟต์ใบชาที่รวมความหอมของชาชนิตต่างๆ และยังมีการผลิตชาที่ออกแบบบรรจุภัณฑ์ขนาดพกพาและฝาเปิดแบบสะดวก เครื่องดื่มชาสำหรับผ่อนคลาย Goodnight tea และชาผ่อนคลาย
3. เทคโนโลยีขับเคลื่อนการยกระดับธุรกิจเครื่องดื่มชา โดย AI Big Data และ Internet of Things กำลังปฏิวัติกระบวนการผลิต การตลาด และประสบการณ์ผู้บริโภคในธุรกิจเครื่องดื่มชา เช่น ในด้านการผลิต โรงงานอัจฉริยะใช้ Digital Twin ปรับปรุงกระบวนการการผลิต ซึ่งช่วยลดอัตราความเสียหายในกระบวนการผลิต ในด้านบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมโดยใช้วัตถุดิบชีวภาพ วัสดุย่อยสลายได้และวัตถุดิบจากพืชมากขึ้น ตัวอย่างเช่น แบรนด์ Master Kong ได้ผลิตซีรีส์ ชาคาร์บอนศูนย์ ที่เริ่มจากการปลูกวัตถุดิบจนถึงบรรจุภัณฑ์กระบวนการทั้งหมดทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ ทำให้กลายเป็นมาตรฐานใหม่ในธุรกิจ ในด้านการบริโภค AI ชิมตัวอย่าง และระบบแนะนำอัจฉริยะเพิ่มประสบการณ์ใช้งาน เช่น มีแบรนด์เครื่องดื่มชาได้เปิดพื้นที่อินเตอร์เน็ตเพื่อให้ผู้บริโภคมีการส่วนร่วมทางออนไลน์ ซึ่งผู้บริโภคสามารถมีปฏิสัมพันธ์ทางออนไลน์ และเข้าร่วมการลงคะแนนเพื่อเลือกผลิตสินค้าตัวใหม่ รวมถึงสแกนรหัส QR Code ที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์เพื่อเปิดเรื่องราวเสมือนจริงของแบรนด์ วิธีดังกล่าวเป็นวัฒนธรรมใหม่ที่สามารถดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น ในด้านการตลาด เทคโนโลยีใช้ไอดอลเสมือนจริงเป็นพรีเซ็นเตอร์ และบล็อกเชนตรวจสอบแหล่งที่มาช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ
นอกจากนี้ แบรนด์เครื่อมดื่มชาจีนยังมีการเปิดร้านที่นิวยอร์กที่จัดโซน “ชา+เทคโนโลยี” เพื่อแสดงวัฒนธรรมชาจีนผ่านอุปกรณ์ Interactive หรือการสร้างความร่วมมือกับพิพิธภัณฑ์ เพื่อออกแบบบรรจุภัณฑ์ประกอบด้วยวัฒนธรรมพิเศษของจีน รวมความงามแบบดั้งเดิมเข้ากับการออกแบบสมัยใหม่ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางด้านวัฒนธรรมของผลิตภัณฑ์ การขับเคลื่อนด้วย “เทคโนโลยี+วัฒนธรรม” สองสิ่งนี้ช่วยผลักดันให้เครื่องดื่มชาของจีนพัฒนาจากการส่งออกผลิตภัณฑ์ยกระดับสู่การส่งออกแบรนด์ไปยังตลาดสากล
“ธุรกิจเครื่องดื่มชากำลังเปลี่ยนจากการขยายขนาดสู่การสร้างคุณค่า แนวโน้มเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ นวัตกรรมและเทคโนโลยี กำลังผลักดันธุรกิจสู่โลกยุคใหม่ ไม่ว่าผ่านการยกระดับคุณภาพด้วยเทคโนโลยี การขยายตลาดด้วยวัฒนธรรม หรือการตอบสนองความต้องการที่หลากหลายผ่านความร่วมมือระหว่างแบรนด์ ปัจจุบันธุรกิจเครื่องดื่มชาของจีนยังคงเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงและมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการไทยที่ประสงค์ขยายตลาดเครื่องดื่มไทยสู่ตลาดจีน ควรศึกษาตลาดอย่างครบวงจร ติดตามสถานการณ์แนวโน้มการบริโภคของชาวจีน ทิศทางตลาด ตลอดจนเทรนด์การบริโภคอย่างใกล้ชิด รวมถึงให้ความสำคัญในการสร้างแบรนด์เพื่อให้สินค้าและผลิตภัณฑ์สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน” น.ส.สุนันทากล่าว
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO