ตร.คุมตัว"ต้น เคหะออเงิน"ก่อความเดือดร้อนเพื่อนบ้านเบื้องต้นแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด
วันที่ 12 สิงหาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ สน.คันนายาวนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.คันนายาว นำกำลังเข้าตรวจค้นและควบคุมตัว นายต้น ผู้ก่อความไม่สงบต่อเพื่อนบ้าน ด้วยการนำป้ายเขียนข้อความ “อย่าล้ำเส้น” ไปติดไว้หน้าห้องของเพื่อนบ้าน อีกทั้ง ยังใช้แม่กุญแจล็อคหน้าห้องเพื่อนบ้าน พร้อมข่มขู่ โยนถังแก๊ส เผาอาคารการเคหะชุมชนออเงิน ตึก 9 ชั้น 2
เมื่อไปถึงห้องของผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามตะโกนเรียก พร้อมเกลี้ยกล่อม โดยใช้เวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นนายต้นตะโกนออกมาจากในห้องดังกล่าวว่า “ตำรวจกูก็แทงนะ” เจ้าหน้าที่จึงเกลี้ยกล่อมต่อเนื่องอีกครั้ง กระทั่งนายต้นยอมเปิดประตูออกมาพบ ในสภาพอิดโรย ลักษณะเพิ่งตื่นนอน ไม่สวมใส่เสื้อ สวมเพียงกางเกงขาสั้นเท่านั้น และไม่ตอบคำถามใดใดกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมท้าทาย ว่าตนเองทำผิดอะไร ซึ่งเจ้าหน้าที่พยายามชี้แจงว่านายต้นก่อเหตุเดือดร้อนรำคาญต่อเพื่อนบ้าน แต่นายต้นไม่ฟัง และท้าทายให้ดำเนินคดีตามความผิดไป ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะควบคุมตัวนายต้นมาที่ สน.คันนายาว เพื่อสอบปากคำ
โดยนางสาว รัตติยา อายุ 28 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองรู้สึกดีใจ ที่เจ้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวนายต้น ออกจากพื้นที่ หลังจากที่ตนเองต้องทนทุกข์มา ใจแต่ก็ยอมรับว่ายังมีความกังวลใจ โดยอยากให้ตำรวจ เข้ามาดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดหลังจากนี้ เนื่องจากเกรงว่านายต้นจะออกมาก่อเหตุซ้ำ โดยที่ผ่านมา ตนเองเป็นผู้ถูกกระทำ ตั้งแต่วันที่ 4, 5, และ 11 สิงหาคม 2568 รวม 3 ครั้ง ในเดือนเดียว ลักษณะเขียนจดหมาย ข่มขู่ “อย่าล้ำเส้น” รวมทั้งใช้แม่กุญแจล็อคประตูจากด้านนอก โดยกักขังแม่ และลูกสาวของตนเองไว้ในห้อง ทำให้เกิดความหวาดกลัว เพราะภายในห้องพักของตนเองมีแต่ผู้หญิง
ส่วนตัวเคยเห็นหน้านายต้น และทราบว่าเป็นคนที่อยู่อาศัยห้องพักใกล้เคียงกัน แต่ไม่เคยพูดคุย หรือมีปัญหากันมาก่อน ส่วนสาเหตุที่นายต้นก่อเหตุนั้น ตนเองก็ไม่ทราบ โดยพฤติกรรมของนายต้นจะมีการเสพยาหรือไม่นั้น ตนเองไม่มีหลักฐาน แต่ช่วงกลางคืน มักจะมีเสียงดัง เอะอะ โวยวายออกมาจากห้องเป็นประจำ จนทำให้ชาวบ้านเกรงกลัว และอยากรู้สาเหตุที่นายต้นมาก่อเหตุทั้งหมด เนื่องจากอะไร ส่วนการที่ตนเองจะย้ายออกจากห้องพักเพื่อหนีปัญหานั้น มองว่าไม่ใช่เรื่อง
ขณะที่ นางสาว เกด อายุ 43 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า นายต้นมีพฤติกรรมแบบนี้มานานแล้ว มีการตะโกนเสียงดังออกมาจากห้อง บางครั้งเดินสวนกับใครถ้านายต้นไม่ชอบหน้า ก็ตะโกนด่าทันที มีการพูดข่มขู่ ท้าทาย ซึ่งมีเพื่อนบ้านอีกหลายห้อง ที่ถูกนายต้นนำจดหมายเขียนข้อความ “อย่าล้ำเส้น” ไปติดไว้
ซึ่งที่ผ่านมา นายต้นเคยอาศัยอยู่กับแฟน แต่สุดท้ายก็อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะนายต้นมักมีพฤติกรรมทำร้ายแฟนเป็นประจำ วันดีคืนดีคนอื่นหลับนอนหมดแล้ว นายต้นก็ลงมาเบิ้ลรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านล่าง ส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนร่วมห้องคนอื่น สิ่งที่ตนเองกังวลที่สุด คือเมื่อวานนี้นายต้นยกถังแก๊ส ขนาดใหญ่ขึ้นไปบนชั้น 2 ของอาคาร กังวลว่าจะเปิดวาล์ว และจุดไฟ อีกทั้งก่อนหน้านี้ยังเคยเห็นนายต้น มีพฤติกรรมขโมยสายไฟ สายสื่อสาร และจุดไฟเผาเพื่อนำไปขาย ตนเองคิดว่านายต้นน่าจะติดยาเสพติด
ด้าน พ.ต.ต.โพชชง เสืองาม สารวัตรป้องกัน และปราบปราม สน.คันนายาว ระบุว่า เบื้องต้นจากการตรวจค้นภายในห้องพักของผู้ก่อเหตุ ยังไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย แต่ตำรวจต้องควบคุมตัวนายต้น ไปสอบปากคำเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ชาวบ้านร้องเรียน รวมทั้งตรวจสารเสพติดในร่างกาย นอกจากนี้จะต้องประสานกับญาติของนายต้น ที่เบื้องต้น ทางญาติยอมรับว่านายต้นเสพยาเสพติด ซึ่งหากพบสารเสพติดในร่างกาย ก็นำตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา
อย่างไรก็ตามภายหลังจากนี้ส่วนของ ตำรวจ สน.คันนายาว จะมีการจัดชุดกำลังลาดตระเวน ดูแลประชาชนในพื้นที่อย่างใกล้ชิด เพื่อความปลอดภัย และความมั่นใจของประชาชนในพื้นที่
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า ปัญหาที่พบสำหรับคนที่หลอนยาเสพติด หรือเสพยาเสพติดนั้น เมื่อถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวแล้ว พร้อมเข้าสู่กระบวนการบำบัด แต่หลังจากบำบัดเสร็จแล้วนั้น ผู้ต้องหามักกลับบ้านมาพร้อมกับยารักษา แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่กินยา แล้ววนกลับไปเสพยาเสพติดอีกเช่นเดิม ปัญหาก็จะตามมาเหมือนเดิม มีอาการหลอน และมีพฤติกรรมที่ทำให้ชาวบ้านหวาดกลัว ทั้งนี้อยากให้รัฐบาล นำตัวผู้เสพยาเสพติด ออกไปจากพื้นที่ชุมชนก่อน เพื่อบำบัดรักษาให้หายขาดอย่างจริงจัง ก่อนจะนำตัวกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น