"ภาษีทรัมป์" จุดกระแสคนอินโดนีเซียเลือกกิน "บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป" มากขึ้นอย่างไร

เผยแพร่ 2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คนอินโดนีเซียกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้นเพราะราคาถูกลง อันเป็นผลจากนโยบายภาษีของทรัมป์ที่ทำให้อินโดนีเซียลดภาษีนำเข้าข้าวสาลีจากสหรัฐฯ เหลือ 0% ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปลดลงอย่างมาก ทำให้ครอบครัวและร้านอาหารหันมาบริโภคมากขึ้น บางครอบครัวกินถึง 20 ซองต่อเดือน และร้านสตรีทฟู้ดขายได้ถึง 160 ซองต่อวัน นักวิชาการชี้ว่านโยบายนี้ไม่เพียงกระตุ้นการบริโภคในประเทศ แต่ยังเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของอินโดนีเซียไปยังตลาดโลกด้วย

ทำไมคนอินโดนีเซีย หันมาทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกันมากขึ้น แล้วมันเกี่ยวอะไรกับภาษีทรัมป์?

ตอนนี้ กำลังเกิดกระแส “ฮิตกินมาม่า” หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในอินโดนีเซีย ยกตัวอย่างครอบครัวหนึ่งในกรุงจาการ์ตา ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โดยเฉพาะยี่ห้อ “อินโดหมี่” ที่คนไทยก็คุ้นเคยดี มากถึง 20 ซองต่อเดือน

แล้วไม่ได้กินกันแค่คนสองคน แต่กินกันทั้งครอบครัว ตั้งแต่พ่อ แม่ และลูก บางมือต้ม 2 ห่อต่อคน บางสัปดาห์กินกันแทบทุกวัน

แล้วกระแสฮิตกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไม่ใช่เรื่องแปลกในเวลานี้ ปัจจัย มาจากการภาษีทรัมป์ ที่อินโดนีเซียตกลงไม่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ เลย หรือเหลือ 0%

นั่นทำให้การนำเข้าข้าวสาลี แทบปลอดภาษี ต้นทุนการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปในอินโดนีเซีย ก็จะถูกลงอย่างมาก

ตอนนี้ ไม่ว่าจะครัวเรือน หรือร้านรวงตามท้องถนน ก็จะเห็นเมนูบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นเป็นดอกเห็ด

ร้านสตรีทฟู้ดบางร้านระบุว่า บางวันที่ขายดี ต้องใช้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถึง 4 กล่องทีเดียว ถ้า 1 กล่องมี 40 ซอง นั่นหมายถึง 160 ซองต่อวันที่ขายได้

นักวิชาการ อย่าง แอนดรี ซาตรีโอ จากสถาบันการพัฒนาเศรษฐกิจและการเงิน ชี้ว่า การนำเข้าแป้งสาลีอเมริกาที่ปลอดภาษี จะไม่เพียงกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ แต่ยังส่งผลถึงการผลิตบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอินโดนีเซีย เพื่อส่งออกไปต่างประเทศด้วย

ส่งผลให้บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปอินโดนีเซีย แข่งขันในตลาดโลกได้มากขึ้น

และยิ่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปราคาถูกลง ครอบครัวชาวอินโดนีเซียหลายครอบครัวก็ยอมรับว่า อาจเลือกทานบะหมี่กึ่งฯ บ่อยมากขึ้น เพราะประหยัดและรสชาติถูกปาก รวมถึงอนาคตรสชาติบะหมี่กึ่งฯ อาจหลากหลายขึ้น ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลายขึ้นด้วย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง