ผบ.ทร.เล็งทุ่มงบรับภัยฝั่งอ่าวไทย ชี้กัมพูชาคือภัยคุกคาม ยันไม่มีฐานทัพสหรัฐฯที่พังงา
“ผบ.ทร.” เล็งปรับแผน ทุ่มงบฯรับภัยคุกคาม ฝั่งอ่าวไทย มากกว่า อันดามัน ต้องสนใจ ทางฝั่งอ่าวไทย หลังกัมพูชา เป็นภัยคุกคาม เผย เดิม ทร. มีแผน ปรับปรุงฐานทัพเรือพังงา เพราะเป็นฐานทัพเรือขนาดเล็ก เพื่อขยายขีดความสามารถในฝั่งทะเลอันดามัน เลยกลายมาเป็นประเด็นที่ว่า สหรัฐฯ จะมาสนับสนุนอะไรหรือไม่ ยันทร.ไม่มีให้ ‘“สหรัฐฯ” มาตั้งฐานทัพ พังงา เผย สหรัฐฯ-มิตรประเทศ สามารถมาจอดเรือ รับการส่งกำลังบำรุงได้ อยู่แล้ว
พล.ร.อ.จิรพล ว่องวิทย์ ผบ.ทร. ให้สัมภาษณ์ถึง กระแสข่าวสหรัฐฯ ขอใช้ฐานทัพเรือพังงา แต่ตามข้อตกลงไทย เปิดให้หลายประเทศใช้ส่งกำลังบำรุง-จอดแวะพักได้ ไม่ใช่ตั้งฐานทัพ ว่า การเข้ามาเยี่ยมของมิตรประเทศ เรายินดีต้อนรับทุกประเทศ และไม่มีข้อแม้อะไร
ส่วนความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีมาอย่างยาวนาน หากสหรัฐฯ เข้ามาเราก็จะสนับสนุนเขาในเรื่องใดบ้าง เช่นเดียวกันกับที่เราไปเยี่ยมเยือนสหรัฐฯ เขาก็จะมีเรื่องสนับสนุนเรา
สำหรับฐานทัพเรือพังงาเป็นฐานทัพเรือที่ขนาดเล็ก แต่เรามีแผนที่จะขยายขีดความสามารถในฝั่งทะเลอันดามัน ก็เลยกลายมาเป็นประเด็นที่ว่าใครจะมาสนับสนุนอะไรหรือไม่
อย่างไรก็ตาม อยู่ที่ความจำเป็นว่าปัจจุบันสถานการณ์เป็นแบบนี้ ต้องมีการทบทวนว่า จำเป็นที่จะต้องไปทุ่มเทงบประมาณในฝั่งอันดามันหรือไม่ หรืออาจจะต้องมาสนใจ ทางฝั่งอ่าวไทย
โดยทางกองทัพเรืออยู่ระหว่างการทบทวนสถานการณ์ เพื่อดูว่าแผนเสริมสร้างในการพัฒนาท่าเรือนั้น เราจะมุ่งไปในทิศทางใด เนื่องจากงบประมาณของเราไม่ได้มีรองรับในทุกโครงการ จึงจำเป็นที่จะต้องเลือกโครงการที่จำเป็นและสอดคล้องกับสถานการณ์จริงๆ
ทั้งนี้ ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายให้ความสนใจ แต่หากมีการพัฒนาฝั่งอันดามันหลายคนก็อยากแวะไปเหมือนกัน เพราะฝั่งอันดามัน ฐานทัพท่าเรือ ไม่ค่อยมี
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์กัมพูชากับสหรัฐอเมริกา จากเดิมที่ไม่มีความใกล้ชิดกัน ซึ่งต่างกับปัจจุบัน กองทัพเรือต้องติดตามท่าที2 ประเทศหรือไม่นั้น ผบ.ทร. ระบุว่า เป็นเรื่องที่เราต้องเฝ้าดู เพราะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเปลี่ยนไปได้ตลอด ขึ้นอยู่กับว่าใครจะรักษาผลประโยชน์ของประเทศของตนเองอย่างไร ซึ่งประเทศไทยเอง ก็ต้องติดตามด้วยเช่นกัน เราจะมีระยะห่าง หรือ ระยะใกล้กับประเทศที่เป็นมิตร หรือประเทศที่ไม่เป็นมิตรอย่างไร ต้องคอยดูว่าท่าทีของแต่ละประเทศเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่ที่ผลประโยชน์ของประเทศ แต่ก็ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด