โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ทนายความบุรีรัมย์ แถลงโต้ปมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ รฟท. ไม่มี พ.ร.ฎ. – แผนที่แนบท้าย ย้ำชาวบ้านมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย

THE STANDARD

อัพเดต 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา • thestandard.co
ทนายความบุรีรัมย์ แถลงโต้ปมเพิกถอนที่ดินเขากระโดง ชี้ รฟท. ไม่มี พ.ร.ฎ. – แผนที่แนบท้าย ย้ำชาวบ้านมีสิทธิครอบครองตามกฎหมาย

วันนี้ (7 สิงหาคม) ที่สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ตัวแทนประชาชนจังหวัดบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการธุรกิจ และนิติบุคคล ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายในพื้นที่เขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ ร่วมจัดงานแถลงข่าว เพื่อตอบโต้ และชี้แจงกรณีภูมิธรรม เวชยชัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.1) และ เดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย (มท.3) เมื่อวันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา เรื่องการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์ในที่ดินกว่า 5,083 ไร่ ซึ่งมีผู้ถือครองมากถึง 995 ราย

ชนินทร์ แก่นหิรัญ ทนายความผู้รับผิดชอบคดีเขากระโดง ชี้แจงกรณีข้อพิพาทสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดง ตำบลอิสาณ อำเภอเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ยืนยันว่า สิทธิในที่ดินของประชาชนยังคงชอบด้วยกฎหมาย แม้จะมีคำพิพากษาศาลฎีกา และศาลอุทธรณ์บางคดีที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) นำมาอ้าง แต่ภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 วรรคสอง คำพิพากษาดังกล่าวผูกพันเฉพาะคู่ความ และที่ดินพิพาทในคดีเท่านั้น

ทั้งนี้ ไม่อาจยกขึ้นยันกับราษฎรผู้ถือเอกสารสิทธิตามกฎหมายในที่ดินแปลงอื่น ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว และได้รับประโยชน์จากข้อสันนิษฐานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1373 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 127 และประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 2 และมาตรา 3 อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 มาตรา 37 อีกด้วย

ชนินทร์ กล่าวด้วยว่า จนถึงปัจจุบันไม่ปรากฏว่ามีพระราชกฤษฎีกากำหนดเขต และจัดซื้อที่ดิน พร้อมแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษา รับรองให้ รฟท. ได้รับพระราชทานโปรดเกล้าฯ เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์บนที่ดินบริเวณเขากระโดงตามพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ. 2464 หรือกฎหมายอื่นใด ดังนั้น ที่ดินพิพาทจึงไม่ตกเป็น ‘ที่ดินรถไฟ’ ตามนิยามในพระราชบัญญัติดังกล่าว

มากไปกว่านั้น แผนที่สำรวจ (Exploitation Plan) ดังกล่าว จัดทำขึ้นเพื่อรองรับการขนย้ายหินบริเวณเขากระโดงชั่วคราว โดยอาศัยพระราชบัญญัติจัดวางการรถไฟและทางหลวง พ.ศ.2464 มาตรา 45 จึงไม่ใช่ทางรถไฟเพื่อใช้ในการเดินรถตามมาตรา 3 (3) ของพระราชบัญญัติเดียวกัน และไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาที่ผ่านกระบวนการพระราชทานโปรดเกล้าฯ ตามกฎหมาย

ชนินทร์ กล่าวว่า ข้อเท็จจริงข้างต้นยืนยันอย่างชัดเจนว่า ราษฎรผู้ถือครองเอกสารสิทธิโดยสุจริตยังคงมีสิทธิครอบครอง และใช้ประโยชน์ที่ดินบริเวณเขากระโดง โดยชอบตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ทุกประการ และได้รับความคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญอันเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศไทย และยังมีสิทธิในการต่อสู้ รวมถึงพิสูจน์ถึงความไม่ชอบของแนวเขตที่ดินที่ รฟท. กล่าวอ้าง

“หากภูมิธรรม อธิบดีกรมที่ดิน รวมถึงหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ยังคงดำเนินการเพิกถอนโฉนดโดยยึดถือแผนที่หรือข้อมูลเท็จของ รฟท. เพื่อสนองนโยบายทางการเมือง อันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างร้ายแรง ราษฎรทุกรายผู้ได้รับผลกระทบ จะยืนหยัดปกป้องสิทธิของตนอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าจะฟ้องเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง และเรียกค่าเสียหาย หรือดำเนินคดีอาญาฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เบิกความเท็จ ปลอมแปลงเอกสารราชการ และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ผู้กระทำต้องรับผิดจนกว่าคดีจะถึงที่สุด” ชนินทร์ ระบุ

ชนินทร์ กล่าวว่า คดียังอยู่ในศาล เพราะ รฟท.ไปยื่นร้องศาลปกครองให้พิจารณาว่า อธิบดีกรมที่ดิน โดยคณะกรรมการมาตรา 61 ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ แต่บังเอิญมาถูกซ้อนทางการเมือง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยไปตั้งคณะกรรมการซึ่งอยู่นอกกฎหมายแล้วมาบอกว่าคณะกรรมการมาตรา 61 มิชอบ ซึ่งคณะกรรมการมาตรา 61 ใช้เวลา 1 ปี 8 เดือน กว่าจะตัดสินใจว่ารับฟังพยานรอบด้านหมดแล้ว มีความเห็นไม่เพิกถอน แต่คณะกรรมการที่แต่งตั้งโดยรมว.มหาดไทย ใช้เวลา 8 วัน ฝีมือจริงๆต้องเป็นเทพเท่านั้นจึงจะวินิจฉัยได้

“ฉะนั้นใครก็แล้วแต่ที่ทำอะไรไว้ต้องรับผล ถ้าเกิดความเสียหายต่อประชาชน การเล่นเกมทางการเมืองของเขา เขาจะต้องรับผล” ชนินทร์ กล่าว

ทนายพร้อมพาชาวบ้านไปพิสูจน์สิทธิ์

ขณะที่ ตฤณ แก่นหิรัญ ทนายความ กล่าวว่า เมื่อ รฟท.ไม่สามารถแสดงสิ่งที่เป็นพยานหลักฐานที่กฎหมายกำหนดได้ รฟท.จะมากล่าวอ้างลอยๆ ว่าที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นที่ของรฟท.ไม่ได้ ที่ดินผืนนี้ไม่ใช่กรรมสิทธิ์ของ รฟท. จึงไม่อาจมาหวงห้ามเอกชนที่ใช้อยู่ทุกวันนี้ได้ ถ้า รฟท.คิดว่ามีหลักฐานที่ดีกว่าก็เอามาแสดงกัน เพราะประชาชนทุกคนที่อยู่ที่นี่พร้อมพิสูจน์ความจริงให้เป็นที่ประจักษ์ในชั้นศาล

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ที่แถลงวันนี้ รฟท. ใช้เอกสารเท็จแสดงต่อศาลฎีกาในอดีตใช่หรือไม่ ตฤณ กล่าวว่า ถ้ามาเทียบของจริง ก็ต้องบอกว่าไม่ถูกต้องกับข้อเท็จจริง และไม่ถูกต้องหลักในการทำภูมิศาสตร์ และสนเทศศาสตร์ เพราะแผนที่ของรฟท. ไม่ใช่แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกา โดยเอาหัวตนเป็นประกัน และไม่ต้องไปดูมาตราส่วน หากเอามาตราส่วนมีคนติดคุกแน่นอน และยืนยันเป็นข้อมูลเท็จกันมาถึงทุกวันนี้

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ทั้ง 35 รายที่ศาลฎีกาตัดสินไปแล้ว และถูกเพิกถอนถือเป็นเอกสารเท็จใช่หรือไม่ ตฤณ กล่าวว่า ตนไม่กล่าวล่วง ตอนนำสืบช่วงนั้นเป็นไร เพราะเพิ่งมารับผิดชอบคดีเมื่อ2 ปี แต่ยืนยันว่าข้อมูลที่ตนมีถือว่ามีประโยชน์กับทั้ง 35 ราย หากต้องการเรียกร้องสิทธิ์คืน

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการนำเอกสารเท็จในอดีตต่อศาลจะติดคุกหรือไม่ ตฤณ กล่าวว่า ถ้าเป็นเอกสารเท็จก็ติดคุก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า พร้อมจะพาผู้เสียหาย 995 รายในขณะนี้ ไปพิสูจน์สิทธิ์กับ รฟท. ในชั้นศาลใช่หรือไม่ หากถูกกรมที่ดินเพิกถอนโฉนด ตฤณ กล่าวว่า แน่นอน หากมีคำสั่งเพิกถอนจริงๆ เราก็ต้องอุทธรณ์คำสั่งและว่าไปตามกฎหมาย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า จะดำเนินการอย่างไรกับรัฐมนตรีในกระทรวงมหาดไทย ที่สั่งให้กรมที่ดินเพิกถอนที่ดินพิพาท ศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า สังคมเห็นกระบวนการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่เกี่ยวข้องที่เห็นว่าดำเนินการไม่ชอบด้วยฎหมายตั้งแต่ต้น และตนเป็นห่วงว่า เมื่อได้อธิบดีกรมที่ดินคนใหม่แล้ว จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างไรต่อไป

เนื่องจากต้องทำตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งมาตรา 61 วรรค 8 จะต้องเพิกถอนด้วยคำสั่งศาล ถึงที่สุด แต่วันนี้ชาวบ้าน 995 ราย ยังไม่มีคำพิพากษาอะไรเลยเพราะผูกพันแค่ 35 ราย จึงขอบอกว่า วันนี้การรถไฟบุกรุกที่ชาวบ้านอยู่

“วันนี้ถ้า มท. 1 และมท. 3 และการรถไฟมาลงพื้นที่เขากระโดง ถ้าพวกท่านไม่ยินยอม สามารถดำเนินคดีพวกเขาได้เลย ดังนั้นหากทางกระทรวงมหาดไทย เริ่มเพิกถอน เมื่อไหร่ดำเนินคดีก็จะนับหนึ่ง และเมื่อถามว่าวันนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมืองหรือไม่ ผมขอบอกว่าตั้งใจเข่นฆ่าทางการเมือง” ศุภชัย กล่าวว่า

ชี้รัฐบาล 2 มาตรฐาน

ขณะที่ ทิวา การกระสัง ทนายความ หนึ่งในเจ้าของที่ดินบริเวณเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวแสดงจุดยืนอย่างชัดเจนในกรณีพิพาทกับ รฟท. โดยระบุว่า ตนเองถือครองเอกสารสิทธิ์ในที่ดินประเภท น.ส.3 ตั้งแต่ปี 2510 ซึ่งการจะออกเอกสารสิทธิ์ดังกล่าวได้ ต้องมีการแจ้ง ส.ค.1 มาตั้งแต่ปี 2497 ก่อนที่ตนเอง และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะเกิดด้วยซ้ำ

ทิวา ระบุว่า การที่ รฟท. อ้างกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินในปี 2539 นั้น เป็นสิ่งที่ประชาชนไม่สามารถยอมรับได้ เพราะเกือบ 29 ปีที่ผ่านมา ไม่เคยมีหมุดหรือป้ายแสดงกรรมสิทธิ์ของ รฟท. ในพื้นที่ที่ประชาชนอยู่อาศัย และครอบครองมาโดยสุจริต อีกทั้งยังตั้งคำถามว่า ใช้หลักคิดใดในการระบุว่าที่ดิน 5,083 ไร่ เป็นของรัฐ โดยอ้างคำพิพากษาศาลฎีกา

“ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า คำพิพากษาของศาลฎีกา ที่ตัดสินว่าที่ดิน 5,083 ไร่เป็นการบุกรุก และยึดที่หลวง เป็นเรื่องที่ช้ำใจ และเจ็บปวดมาก เพราะเราอยู่ตรงนี้มานาน อยู่โดยสุจริต มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย” ทิวา กล่าว

ทิวา ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า หากพิจารณาตามหลักรัฐธรรมนูญ คำพิพากษาของศาลฎีกาไม่ได้ผูกพันองค์กรอื่น เช่น รฟท. กรมที่ดิน หรือประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในกรณีที่ประชาชนเหล่านั้นไม่ได้เป็นคู่ความในคดี ความผูกพันทางกฎหมายมีเพียงผลของคำพิพากษา ไม่ใช่ข้อเท็จจริง ซึ่งคำตัดสินในแต่ละรายต้องพิจารณาตามพยานหลักฐานของแต่ละบุคคล

คำพิพากษาศาลฎีกาทั้ง 39 รายก่อนหน้านี้ เป็นคำตัดสินเฉพาะราย ไม่ได้ผูกพันกับประชาชนอีก 995 รายที่ไม่ได้เป็นคู่ความ เราในฐานะประชาชน ยืนยันว่าพร้อมต่อสู้คดี และขอให้รัฐเตรียมรับผิดชอบหากจะยึดพื้นที่กลับไปใช้งาน โดยต้องเตรียมงบประมาณเยียวยาประชาชนราว 20,000 ล้านบาท ตามหลักรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้รัฐต้องชดใช้ความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของรัฐ

ทิวายังกล่าวถึงท่าทีของ รฟท. ที่ขู่ว่าหากไม่ยอมเจรจา จะนำที่ดินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ โดยตั้งคำถามกลับว่า ใช้อะไรคิด และมีหัวใจความเป็นคนไทยหรือไม่ พร้อมเปรียบเทียบกับท่าทีที่อ่อนโยนกว่านี้ที่หน่วยงานรัฐมีต่อประเทศเพื่อนบ้าน

“ทีกับกัมพูชา ทำตัวเป็นมะเขือเผา ไปเจรจาที่มาเลเซียก็ให้เขาพูดตั้งครึ่งชั่วโมง แต่พูดเองแค่ 3 นาที พอเจอคนไทยกลับทำเหมือนเป็นหมาป่าจะขย้ำเหยื่อ แต่หากมีการเพิกถอนเอกสารสิทธิ์จริง ประชาชนกว่า 995 รายในพื้นที่ พร้อมสู้คดีเต็มที่ และตนก็พร้อมเป็นทนายให้ทุกคนในเรื่องนี้

เจ้าของโรงโม่หิน มีโฉนดตั้งแต่รุ่นพ่อ

ส่วนกิตติเทพ เจียรพันธ์ เจ้าของกิจการโรงโม่หิน ในที่ดินบริเวณเขากระโดง กล่าวว่า ตั้งแต่รุ่นพ่อของตน ทำกิจการโรงโม่หินผลิตหินขายให้ รฟท. เรางานส่ง รฟท.มาตลอด ซึ่งการประกอบกิจการนี้ต้องซื้อที่ดินจำนวนมาก และต้องอยู่ใกล้กับรถไฟที่จะมาขนหิน ซึ่งโรงโม่หินของตนอยู่ในพื้นที่ที่รฟท. อ้างสิทธิ์ แต่ตนมีโฉนดตั้งแต่รุ่นพ่อประมาณปี 2514 หรือ 2515 ซึ่งการได้โฉนดได้มาจากการซื้อ น.ส.3 จากชาวบ้านแล้วมาออกโฉนดภายหลัง

“การออกโฉนดทุกครั้งจะมีเจ้าหน้าที่รฟท. มาเซ็นระวางแนวเขตข้างเคียง โดยสำนักงานที่ดินจะทำหนังสือส่งไปที่รฟท. ซึ่งรฟท.จะมีหนังสือมอบอำนาจให้เจ้าหน้าที่จากรฟท. มาชี้ระวางแนวเขต ทุกครั้งที่ออกเป็นโฉนดได้ ก็มีเจ้าหน้าที่รฟท. มาระวางแนวเขตให้ทุกครั้ง แต่อยู่ดีๆวันนี้ รฟท. บอกว่าที่ที่ออกโฉนดเป็นที่รฟท.ทั้งหมด ผมไม่ทราบว่าเขาพิจารณากันอย่างไร ส่วนการต่อสู้คดี ผมคิดว่าต้องลองสู้กันสักตั้งว่าจะเป็นอย่างไร ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเอกสารหลักฐาน และดุลยพินิจของศาล” กิตติเทพ กล่าว

กิตติเทพ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคิดว่าเป็นเรื่องการเมืองที่โจมตีกัน ถ้าไม่ใช่เรื่องการเมือง ตนคิดว่าวันนี้เขากระโดงคงไม่มีเรื่องมีราวแบบนี้ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตนขอพึ่งทางผู้พิพากษาที่จะพิจารณาคดี ผู้เสียหายมีจำนวนมาก ซึ่งตนโดนมากที่สุด เพราะมีที่ดินตรงนี้ 1,000 กว่าไร่ เป็นที่ที่อยู่ในพื้นที่พิพาท 300 กว่าไร่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก THE STANDARD

เปิดอินไซต์ตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty เผย ผู้บริโภคมองหาบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท ไม่จำเป็นต้องอยู่กลางเมือง แต่เน้นทำเลใกล้รถไฟฟ้า

14 นาทีที่แล้ว

มาริษ ถก 70 ทูตและผู้แทนไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับติดตาม-ประเมินข่าวปลอมกัมพูชา ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง”

19 นาทีที่แล้ว

ตำรวจสอบสวนกลางจับอดีตพระ และคนสนิทในคดีสีกากอล์ฟ พบหลักฐานยักยอกเงินวัดและเงินบริจาครวมกว่า 10 ล้านบาท

31 นาทีที่แล้ว

สรุปประชุม GBC ไทย-กัมพูชา เห็นพ้อง 13 ข้อตกลงหยุดยิง

46 นาทีที่แล้ว

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

บุกทลาย ‘ซุปเปอร์มาร์เก็ตศูนย์เหรียญ’ ย่านเยาวราช พบสินค้ากว่าร้อยละ 80 นำเข้าผิดกฎหมาย รมช.สาธารณสุข ลั่นเอาผิดถึงที่สุด

THE STANDARD

OR ครึ่งแรกปี 68 กำไรสุทธิ 6,611 ล้านบาท เพิ่มขึ้น5.6%

สำนักข่าวไทย Online
วิดีโอ

ดีใจที่เห็นชาวบ้านคลายเครียดลงบ้าง เห็นพี่ๆ ทหารโชว์ความสามารถรอบด้าน ช่วยเอนเตอร์เทนชาวบ้านศูนย์พักพิง

สยามนิวส์

เตรียมพกร่ม!กรมอุตุฯเตือนฝนเพิ่มทั่วไทย 10-21 ส.ค.68

ฐานเศรษฐกิจ

เปิดอินไซต์ตลาดที่อยู่อาศัย DDproperty เผย ผู้บริโภคมองหาบ้านไม่เกิน 2 ล้านบาท ไม่จำเป็นต้องอยู่กลางเมือง แต่เน้นทำเลใกล้รถไฟฟ้า

THE STANDARD

ฝนตกหนักระลอกใหม่ 10 - 21 ส.ค. 68 ถล่มไทยทุกภาค เตือนน้ำท่วมฉับพลัน

TNN ช่อง16

เหตุแฉ! "หมอบี"อดีตทีมงานเล่าหมดเปลือก อ่านแล้วจุกกับข้อมูลวงใน

คมชัดลึกออนไลน์

มาริษ ถก 70 ทูตและผู้แทนไทยทั่วโลก ชื่นชมผลประชุม GBC กำชับติดตาม-ประเมินข่าวปลอมกัมพูชา ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง”

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

เสียงจากชาวบ้านเขากระโดง: ค้านเพิกถอน พร้อมสู้ “ไม่หนี ไม่ย้าย ไม่ออก” เชื่อมั่น ‘เนวิน’ ช่วยได้

THE STANDARD

ภูมิธรรมเผยเตรียมออกคำสั่งย้ายผู้ว่าฯ อุบลฯ เช้านี้ หลังพบปัญหา เบิกงบดูแลประชาชนเหตุปะทะชายแดนเพียง 55,000 บาท

THE STANDARD

2 สัปดาห์ในศูนย์อพยพ: เสียงจากชายแดนบุรีรัมย์ “อยากให้สงครามจบจบเร็วๆ เราอยากกลับบ้าน”

THE STANDARD
ดูเพิ่ม
Loading...