ถอดรหัส “แว่นท็อปเจริญ” ทำไมต้องทำ “ร้านแว่นตาเที่ยงคืน”
แว่นท็อปเจริญสร้างความฮือฮาในตลาดร้านแว่นตาไทย ด้วยการเปิดตัวแคมเปญ “ร้านแว่นตาเที่ยงคืน” พร้อมบริการ “แว่นด่วน 20 นาที” ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่น่าสนใจและสะท้อนความเข้าใจในพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ได้อย่างลึกซึ้ง
ท่ามกลางภาพรวมตลาดร้านแว่นตาที่มีมูลค่าสูงถึง 13,000 ล้านบาท ในปี 2568 และการแข่งขันที่รุนแรง ส่งผลให้ตลาดร้านแว่นตาในประเทศไทยมีการแข่งขันที่หลากหลาย โดยมีผู้เล่นหลักทั้งแบรนด์รายใหญ่ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ ร้านแว่นตาอิสระที่เน้นความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง และร้านค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าที่เน้นดีไซน์และทำเลที่ตั้ง การที่ผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้น
ทำให้แบรนด์ต่างๆ ต้องปรับตัวเพื่อสร้างจุดเด่นและมอบประสบการณ์ที่แตกต่าง การเข้ามาของร้านค้าออนไลน์และการจำหน่ายแว่นตาสำเร็จรูปก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ท้าทายธุรกิจร้านแว่นตาแบบดั้งเดิม
โดยเฉพาะยักษ์ใหญ่อย่างแว่นท็อปเจริญภายใต้การนำของ นพศักดิ์ ตรีพรชัยศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ร่วมเจริญพัฒนา จำกัด ที่ลุกขึ้นมาทำแคมเปญ“ร้านแว่นตาเที่ยงคืน” เพื่อเอาใจกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีเวลาว่างในช่วงกลางวัน เราจึงอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าสามารถเข้ารับคำปรึกษา ตรวจวัดสายตาฟรี ตัดแว่นและเลือกซื้อแว่นตาได้ในช่วงเวลากลางคืน แบบไม่ต้องเร่งรีบหรือกระทบกับภารกิจ การทำงาน หรือเรียนหนังสือ ฯลฯ ในช่วงเวลากลางวัน
โดยเปิดให้บริการตั้งแต่เช้า และขยายเวลาให้บริการจนถึง 24.00 น. นำร่อง 15 สาขาที่ตั้งอยู่ในย่านออฟฟิศใจกลางเมือง รวมไปถึงเมืองท่องเที่ยวสำคัญ ได้แก่สาขา สยามสแควร์ ซอย 7, สุขุมวิท ซอย 11/1, มหาทุน, สุขุมวิท ซอย 35, สีลม ซอย 10, สีลม BTS ศาลาแดง, สี่แยกเสือป่า, หาดใหญ่ ตลาดกิมหยง, ราชบุรี (ตลาดทรัพย์สิน), เฉวง (เซ็นทรัล), หัวหิน ซอย 57, อ่าวนาง, กะตะ (โรงแรมโอโซ่), ป่าตอง (ข้างการไฟฟ้า) และภูเก็ต (ถนนภูเก็ต)
พร้อมบริการแว่นด่วน 20 นาที เพื่อตอบโจทย์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบในปัจจุบัน
กลยุทธ์ "การตลาด 360 องศา" ของแว่นท็อปเจริญ
หากมองลึกลงไปจะเห็นว่า แคมเปญ “ร้านแว่นตาเที่ยงคืน” นี้เป็นมากกว่าแค่การขยายเวลาทำการ แต่เป็นการบูรณาการกลยุทธ์ที่มุ่งสร้างคุณค่ารอบด้านให้กับลูกค้า
- กลยุทธ์การตลาดแบบเจาะกลุ่มเฉพาะ (Niche Marketing): แว่นท็อปเจริญมองเห็นช่องว่างในตลาด โดยเจาะกลุ่มเป้าหมายที่มีไลฟ์สไตล์ที่เร่งรีบและไม่สามารถใช้บริการในช่วงกลางวันได้ เช่น คนทำงานในย่านธุรกิจ หรือนักท่องเที่ยว การขยายเวลาให้บริการไปจนถึง 24:00 น. ใน 15 สาขาหลักที่ตั้งอยู่ในย่านออฟฟิศและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ เป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มนี้โดยตรง ทำให้สามารถสร้างฐานลูกค้าใหม่ๆ ที่คู่แข่งส่วนใหญ่ยังเข้าไม่ถึง
- กลยุทธ์การสร้างคุณค่าด้วยความรวดเร็วและคุณภาพ (Value Proposition): บริการ “แว่นด่วน 20 นาที” คือการสร้างจุดขายที่เหนือกว่าคู่แข่ง โดยใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น ระบบ AI และเครื่องเจียระไนเลนส์อัจฉริยะ ผนวกกับความเชี่ยวชาญของช่างแว่นตาที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี ทำให้สามารถส่งมอบแว่นตาคุณภาพสูงได้ในเวลาที่รวดเร็วอย่างไม่เคยมีมาก่อน บริการนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ความเร่งรีบในชีวิตประจำวัน แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นในแบรนด์ว่าสามารถมอบสิ่งที่ดีที่สุดได้ในทุกขั้นตอน
- กลยุทธ์การสร้างความภักดีของลูกค้า (Customer Loyalty): นอกจากบริการที่รวดเร็วแล้ว แว่นท็อปเจริญยังคงให้บริการหลังการขายฟรี เช่น การล้างทำความสะอาดแว่นตา การปรับดัดทรง และการเปลี่ยนแป้นจมูก ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวที่เกินกว่าแค่การซื้อขายเพียงครั้งเดียว
แคมเปญนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การประชาสัมพันธ์ แต่เป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของแว่นท็อปเจริญในการเป็น “ผู้นำการบริการด้านสายตาที่เชี่ยวชาญครบวงจร” ที่พร้อมปรับตัวเข้ากับพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นบทเรียนสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าการสร้างความแตกต่างทางธุรกิจไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้าเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ความสามารถในการเข้าใจและตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าได้อย่างแม่นยำ