โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

การเมือง

ลับ 55 ปี ‘เจียรพันธุ์-ชิดชอบ’ ตระกูลดัง ถือครอง ‘เขากระโดง’

กรุงเทพธุรกิจ

อัพเดต 23 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 18 ชั่วโมงที่ผ่านมา

หลายคนน่าจะทราบไปแล้วว่า ปฏิบัติการทวงคืน “เขากระโดง” ของ “มหาดไทย” ที่นำโดย ภูมิธรรม เวชยชัย มท.1 และ เดชอิศม์ ขาวทอง มท.3 ในฐานะกำกับดูแลกรมที่ดิน เริ่มคิกออฟไปตั้งแต่ 2 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา ดำเนินการเพิกถอนโฉนด และไฟเขียวให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ในฐานะเจ้าของที่ดิน ดำเนินการยึดคืนโฉนด และเอกสารสิทธิที่เป็นของรัฐกลับคืนมาได้ในทันที

เบื้องต้น รฟท.เปิด 2 ออปชันให้บุคคล และนิติบุคคลที่ถือครองเอกสารสิทธิบริเวณเขากระโดงดังกล่าว มาเจรจาทำข้อตกลงคือ 1.เปิดสัญญาให้เช่าต่อ 2.ถูกฟ้องขับไล่

เบื้องต้นมีกลุ่มบุคคล และเอกชนเกือบพันคน ที่อ้างว่าได้รับผลกระทบจากท่าทีของกระทรวงมหาดไทย ดังกล่าว แถลงคัดค้าน และเตรียมดำเนินการทางกฎหมาย หนึ่งในนั้นมี “ตระกูลชิดชอบ” บ้านใหญ่อีสานใต้ ที่ส่งทนายความมาดำเนินการด้วย

ประเด็นที่น่าสนใจ บุคคล และนิติบุคคลที่ถือครองเอกสารสิทธิในพื้นที่พิพาท “เขากระโดง” มากที่สุดคือ บริษัท ธนพาณิชย์ไทย จำกัด โดย น.ส.กีรติ เจียรพันธุ์ และเครือญาติ ถือครอง 318 ไร่ 3 งาน ซึ่งถือว่ามากกว่า “เครือข่ายตระกูลชิดชอบ” ที่ถือครองรวมกัน 288 ไร่

โดยข้อมูลของบริษัท ธนพาณิชย์ไทย จำกัด "กรุงเทพธุรกิจ" นำเสนอไปแล้วว่า จดทะเบียนเมื่อ 2 พ.ย.2549 ทุนปัจจุบัน 121 ล้านบาท ตั้งอยู่ที่ 9/2 หมู่ที่ 4 ถนนบุรีรัมย์ - ประโคนชัย ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ วัตถุประสงค์ ดำเนินกิจการเยี่ยงธนาคารพาณิชย์ ให้เช่าพื้นที่ เกษตรกรรม

ปรากฏชื่อกรรมการ 4 คน เป็นคนตระกูล “เจียรพันธุ์” ทั้งหมด ได้แก่ นายธนนท์ เจียรพันธุ์ นายมงคล เจียรพันธุ์ นายจุฑาเกียรติ เจียรพันธุ์ น.ส.ปูรณ์จิตสุภา เจียรพันธุ์ นำส่งรายชื่อผู้ถือหุ้นล่าสุดเมื่อ 30 เม.ย.2568 พบว่า นายธนนท์ เจียรพันธุ์ และนายมงคล เจียรพันธุ์ ถือหุ้นใหญ่สุด คนละ 25% นายจุฑาเกียรติ เจียรพันธุ์ ถือ 16.6942% น.ส.ปูรณ์จิตสุภา เจียรพันธุ์ ถือ 16.6529% น.ส.ฐิตาขวัญพร เจียรพันธุ์ ถือ 16.6529%

สำหรับ นายธนนท์ เจียรพันธุ์ ปรากฏข้อมูลว่าเคยดำรงตำแหน่ง ประธานหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์

บริษัทแห่งนี้ นำส่งงบการเงินล่าสุดเมื่อปี 2567 สินทรัพย์รวม 42,945,014 บาท หนี้สินรวม 12,209,289 บาท รายได้รวม 2,771,719 บาท รายจ่ายรวม 1,887,302 บาท กำไรสุทธิ 883,877 บาท

น่าสังเกตว่า รายได้ของบริษัทแห่งนี้ มีถึงหลักล้านเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา แต่ระหว่างปี 2563-2566 กลับมีรายได้แค่หลักร้อย ถึงหลักพันบาท

สำหรับตระกูล “เจียรพันธุ์” พบว่า ยังเข้าไปถือหุ้น และเป็นกรรมการในบริษัทอีกอย่างน้อย 19 แห่ง ทำธุรกิจหลากหลาย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ โรงโม่หิน การเกษตร ขายปลีก ฯลฯ

แต่สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้นั่นคือ เบื้องลึกความลับ 55 ปีระหว่าง “ตระกูลเจียรพันธุ์” ที่ถือครองที่ดินบนเขากระโดงมากสุด 318 ไร่ กับ “ตระกูลชิดชอบ” ที่ถือครองที่ดินรวมกันกว่า 288 ไร่

ข้อมูล และข้อเท็จจริง พบว่าในช่วงปี 2513 ระหว่างเกิดข้อพิพาทเกี่ยวกับบริเวณที่ดินของ รฟท.ในพื้นที่เขากระโดงนั้น รฟท.ได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ยุกต์ เจียรพันธุ์” กับพวก เป็นจำเลยต่อศาลจังหวัดบุรีรัมย์ คดีแพ่งดำที่ 121/2513 คัดค้านการนำที่ดิน รฟท. 1 แปลงไปขายทอดตลาด และโต้แย้งว่าที่ดินดังกล่าวเป็นของ รฟท.

โดยขณะที่คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลจังหวัดบุรีรัมย์นั้น “ชัย ชิดชอบ” อดีตนักการเมืองดัง ได้เข้ามาเป็นโจทก์ยื่นฟ้อง “ยุกต์ เจียรพันธุ์-พวก” ที่ศาลจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นคดีแพ่งดำที่ 38/2513 เรียกสิทธิครอบครองในที่ดินพิพาทคืนจาก “ยุกต์” กับพวก

ต่อมาเมื่อ 9 พ.ย.2513 “ชัย” และ “ยุกต์” ต้องการเจรจาขอทำการประนีประนอม หาทางระงับข้อพิพาท จึงขอให้ รฟท.เปิดการเจรจาขึ้นที่สำนักงานอาณาบาล (สำนักกฎหมายของ รฟท.) โดยผลการเจรจาทุกฝ่ายมีข้อตกลงกันว่า คดีแพ่งแรก (ที่ 121/2513) “ยุกต์” จะไปยอมรับสารภาพต่อศาลว่า ที่ดินพิพาทตามคำฟ้องของ รฟท. เป็นกรรมสิทธิ์ของ รฟท. และไม่ขอต่อสู้คดีต่อไป

ส่วน “ชัย ชิดชอบ” จะจ่ายเงินให้ “ยุกต์” 25,000 บาท (มูลค่าขณะนั้น) เพื่อให้ “ยุกต์” ในฐานะส่วนตัว และตัวแทนของ “ทอง มาประจง” ยอมสละสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทให้แก่ “ชัย” และดำเนินการถอนฟ้องคดีแพ่งที่สอง (ที่ 38/2513) และ “ชัย” ขออาศัยในที่ดินพิพาทของ รฟท.ดังกล่าว โดยจะทำสัญญาอาศัยต่อไป

ต่อมาในวันที่ 10 พ.ย.2513 หัวหน้าสำนักงานอาณาบาล รายงานผลการเจรจากรณีข้อพิพาทเกี่ยวกับที่ดินรถไฟเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ให้ผู้ว่า รฟท.ในขณะนั้น รับทราบผลการเจรจา และการที่ รฟท. จะยินยอมให้ชัย ได้อาศัยในที่พิพาทต่อไป โดยจะทำสัญญาอาศัยต่อกัน

ทั้งนี้ รฟท.ยินยอมให้ชัย ได้อาศัยที่พิพาทต่อไป โดยจะได้ทำสัญญาอาศัยต่อกัน ส่วนการดำเนินการให้เป็นไปตามข้อตกลงนี้ คู่กรณีทุกฝ่ายจะได้ไปจัดการทางศาล

ถัดมาอีก 2 ปีเมื่อ 26 ต.ค.2515 “ชัย ชิดชอบ” นำที่ดินพิพาทดังกล่าว ไปขอออกโฉนดเลขที่ 3466 เนื้อที่ 7 ไร่ 1 งาน 55.8 ตารางวา ขายให้ละออง ชิดชอบ (ภรรยา ชัย ชิดชอบ) เมื่อวันที่ 21 ธ.ค.2535 ก่อนที่ละออง จะนำไปขายต่อให้กับบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจของตระกูลชิดชอบ

ทั้งหมดคือ เรื่องราวจุดเริ่มต้นของข้อพิพาท “ที่ดินเขากระโดง” ที่บานปลายมาถึงปัจจุบัน แม้ว่าเมื่อปี 2554 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เคยมีมติให้เพิกถอนโฉนดที่ดิน 2 แปลง ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งกล่าวหา “ชัย ชิดชอบ” ในฐานะผู้ขอออกโฉนดแปลงดังกล่าว มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานในการออกโฉนดที่ดินโดยมิชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่เนื่องจากวันที่กระทำผิดจนถึงวันที่พนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์กล่าวโทษ เป็นเวลากว่า 30 ปี คดีจึงขาดอายุความแล้ว สิทธินำคดีอาญามาฟ้องได้ระงับไป

สุดท้ายเรื่องนี้ก็เงียบหายไป กระทั่งมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดทั้งในศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ และศาลปกครองสูงสุด ออกมาในช่วงไม่กี่ปีหลัง จนนำไปสู่ “มหาดไทย” ปฏิบัติการยึดคืน “เขากระโดง” คืนให้แก่ภาครัฐในขณะนี้

บทสรุปสุดท้าย “ตระกูลเจียรพันธุ์” ในฐานะผู้ถือครองเอกสารสิทธิมากสุด 318 ไร่ และ “เครือข่ายชิดชอบ” ในฐานะถือรองลงมา 288 ไร่เศษ จะดำเนินการอย่างไรต่อไป ต้องติดตาม

พิสูจน์อักษร….สุรีย์ ศิลาวงษ์

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก กรุงเทพธุรกิจ

ไรมอน แลนด์ คืนสังเวียนพัทยาจ่อเปิดคอนโดหรู 3.3 พันล้าน

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

WealthyCats เจ๋ง! คว้ารางวัลระดับโลก สอนเด็กไทยฉลาดเรื่องเงิน เงิน

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ผู้หญิง 'กล้าตรวจ' เพื่อตนเอง รณรงค์คัดกรองมะเร็งปากมดลูก

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

คุณลงทุนดูแลตัวเองมากพอหรือยัง? สุขภาพดีต้องเริ่มจาก 'ป้องกัน'

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความการเมืองอื่น ๆ

ข่าวและบทความยอดนิยม