ORI โชว์ไตรมาส 2 รายได้รวมทะลุ 3,270 ล้านบาท จ่อโอนคอนโดเพิ่ม 4 โครงการ
ORI โชว์ไตรมาส 2 ปี’68 รายได้รวมทะลุ 3,270 ล้านบาท ไตรมาส 3 จ่อโอนคอนโดเพิ่ม 4 โครงการ
วันที่ 15 ส.ค. 2568 นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการที่อยู่อาศัยทุกกลุ่ม รวมโครงการร่วมทุน (JV) ทั้งสิ้นกว่า 3,610 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นโครงการที่บริษัทพัฒนา (Non-JV) 2,190 ล้านบาท และโครงการ JV 1,420 ล้านบาท ส่งผลให้ไตรมาส 2 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 319 ล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่า เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ)
ทั้งนี้บริษัทมียอดขาย (Presale) ครึ่งปีแรก กว่า 14,049 ล้านบาท คิดเป็น 47% ของเป้าทั้งปี แบ่งเป็นยอดขายจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ ORIGIN VERTICAL ประมาณ 81% จำนวน 11,434 ล้านบาท และยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรภายใต้แบรนด์บริทาเนียประมาณ 19% จำนวน 2,615 ล้านบาท ซึ่งยอดขายดังกล่าวมาจากกลุ่มโครงการพร้อมอยู่ ประมาณ 57% และยอดขายจากกลุ่มโครงการที่เปิดขายใหม่ และอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง รวมกันประมาณ 43 %
โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทได้เปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ ประกอบด้วย แกรนด์ บริทาเนีย กรุงเทพกรีฑา-สุวรรณภูมิ, บริทาเนีย บางแสน อีกทั้งกลุ่มบริษัท ใช้กลยุทธ์ในการหาช่องทาง/กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพิ่มขึ้น เช่น
1.ตลาดต่างชาติเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อ ที่ต้องการที่อยู่อาศัยในประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 2
2.การขายบิ๊กล็อต สำหรับกลุ่มองค์กร / นักลงทุน
3.กลุ่มนักลงทุน ที่มีความสนใจคอนโดฯเพื่อการลงทุน
4.กลุ่มลูกค้าที่ต้องการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้
โดยในไตรมาส 2 ปี 2568 บริษัทได้โอนกรรมสิทธิ์บิ๊กล็อต โครงการ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ อี 22 สเตชั่น ให้กับ บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ DELTA กว่า 278 ยูนิต ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจจากบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง DELTA และสะท้อนถึงโอกาสของตลาดที่อยู่อาศัยติดรถไฟฟ้าใกล้แหล่งงาน ที่ตอบโจทย์ตลาดแบบลูกค้าองค์กร (B2B)
นอกจากนี้บริษัทยังสามารถปิดดีลขายพื้นที่รีเทล โซน 10th Avenue แบบเหมาชั้น มูลค่ากว่า 500 ล้านบาท ในโครงการออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ ให้ นายอังเดร คู มหาเศรษฐีแห่งไต้หวัน เจ้าของ Chailease Group ธุรกิจลีสซิ่งยักษ์ใหญ่แห่งภูมิภาคเอเชีย ที่ขยายธุรกิจมายังอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย การขายบิ๊กล็อตในครั้งนี้ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งโครงการ ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ มูลค่าโครงการรวมกว่า 14,000 ล้านบาท ที่พร้อมปั้นโซนรีเทล 10th Avenue ให้เป็นศูนย์รวมร้านอาหารระดับโลกบนทำเลใจกลางทองหล่อ
ณ สิ้นไตรมาส 2/2568 บริษัทมีแบ็คล็อกรวมกว่า 43,336 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ 5 ปีต่อเนื่อง และมีโครงการคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จและเริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ ในช่วงไตรมาส 3/2568 อีก 4 โครงการ คือ ดิ ออริจิ้น เพลส บางนา, ดิ ออริจิ้น บางแค, ดิ ออริจิ้น พหล57, เดอะ แฮมป์ตัน สวีท ระยอง โดยมี Backlog ในส่วนของคอนโดฯ 4 โครงการ ดังกล่าวแล้วกว่า 4,000 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจโรงแรม ปัจจุบันมีธุรกิจโรงแรมที่เปิดดำเนินการแล้ว 9 แห่ง และอีก 3 แห่งจะเปิดใหม่ในปี 2568 นี้ โดย 2 แห่งเป็นการ Re-opening โรงแรมที่บริษัทได้ซื้อมาเมื่อปี 2566 ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ และอีก 1 แห่ง ตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ
ทำให้กลุ่มบริษัทสามารถยกระดับผลการดำเนินงานของกลุ่มธุรกิจโรงแรมได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อการประเมินมูลค่าทรัพย์สิน รวมถึงสามารถดำเนินกลยุทธ์ในการขายโรงแรมในราคาที่สอดคล้องกับศักยภาพของทรัพย์สินได้ตามแผนธุรกิจ
โดยล่าสุดกลุ่มบริษัทได้ปิดดีลขายหุ้นโรงแรม อินเตอร์คอนติเนนตัล แบงค็อก สุขุมวิท ทั้งหมดที่ถืออยู่ 51% ให้กับ Ci:z Technologies บริษัทที่ประกอบธุรกิจด้าน Nursing Home การพัฒนาซอฟต์แวร์ด้านเทคโนโลยี จากประเทศญี่ปุ่น
ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดรับสุทธิ (Extra Cash) เพิ่มขึ้นกว่า 800 ล้านบาท และสามารถรับรู้กำไรได้ในรอบ ไตรมาส 3 ปี 2568 ทั้งนี้กลุ่มบริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาและยกระดับศักยภาพการดำเนินงานของธุรกิจโรงแรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนกลยุทธ์การบริหารพอร์ตสินทรัพย์ระยะยาวได้อย่างเหมาะสม ตามแผนธุรกิจของบริษัทร่วมทุน
ส่วนธุรกิจคลังสินค้า ปัจจุบันมี 9 แห่ง ในทำเลยุทธ์ศาสตร์สำคัญ ได้แก่ ทำเลรังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมพื้นที่กว่า 410,744 ตร.ม. ซึ่ง ณ ไตรมาส 2/2568 มีพื้นที่เปิดดำเนินการแล้วกว่า 311,850 ตร.ม. มีอัตราการเช่า 95% ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านตร.ม. ตามแผนการดำเนินธุรกิจ
สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ
1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย โดยพัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 170 โครงการ
2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก
3.กลุ่มธุรกิจบริการ เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์
4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : ORI โชว์ไตรมาส 2 รายได้รวมทะลุ 3,270 ล้านบาท จ่อโอนคอนโดเพิ่ม 4 โครงการ
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th