"ภูมิธรรม" มอบ 2 รมต.ลง อุบลฯ มอบบ้านเพื่อคนไทย ให้ประชาชนผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
นายภูมิธรรม เวชชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี ดำเนินการ มอบบ้านเพื่อคนไทย แบบน็อคดาวน์สำเร็จรูปจำนวน 11 หลัง ให้กับประชาชนผู้ประสบภัย และบ้านพักได้รับความเสียหายจากเหตุยิงระเบิด จำนวน 4 ครอบครัวและ เร่งช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งหมด
โดย พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วยนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ ได้ลงพื้นที่อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อติดตามและให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก
ในโอกาสนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้มอบหมายให้กรมราชทัณฑ์นำผู้ต้องขังชั้นดีจากเรือนจำกลางอุบลราชธานี ออกช่วยเหลือซ่อมแซมและรื้อถอนบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และส่งเสริมให้ผู้ต้องขังได้มีโอกาสทำประโยชน์เพื่อสังคม
ด้าน นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ได้ติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์ให้แก่ประชาชนที่บ้านเรือนได้รับความเสียหายอย่างหนัก โดยในระยะแรก ในวันนี้ ได้มีการดำเนินการก่อสร้างบ้านเพื่อคนไทย แบบน็อคดาวน์ สำเร็จรูป จำนวน 11 หลัง ส่งมอบให้กับประชาชนที่บ้านพักได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิด จำนวน 4 ครอบครัว
- หลังที่ 1 ของนายณัฐกิตติ์ ตาดี บ้านเลขที่ 69 หมู่ที่ 5 มีผู้อยู่อาศัย จำนวน 4 คน
- หลังที่ 2 ของนายอาทิตย์ พันธ์โชติ บ้านเลขที่ 97 หมู่ที่ 5 มีผู้อยู่อาศัย จำนวน 5 คน
- หลังที่ 3 ของนางออม อบชา บ้านเลขที่ 44 หมู่ที่ 5 มีผู้อยู่อาศัย จำนวน 2 คน
- หลังที่ 4 ของนายพัชราพร อบชา บ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 5 ในที่ดินมีบ้าน 2 หลัง มีผู้อยู่อาศัย รวมจำนวน 4 คน
ทั้งนี้ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามีบ้านเรือนในพื้นที่อำเภอน้ำยืนได้รับความเสียหายกว่า 80 หลังคาเรือน แบ่งเป็นความเสียหายเล็กน้อย ปานกลาง และเสียหายทั้งหลัง
โดยรัฐบาลได้มอบให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงยุติธรรม ร่วมมือกันเร่งรัดดำเนินงานซ่อมแซมบ้านพักที่ชำรุดเสียหายหรือก่อสร้างบ้านน็อคดาวน์แบบสำเร็จรูปให้กับประชาชนที่บ้านเสียหายทั้งหลังเพื่อฟื้นฟูความเป็นอยู่ของประชาชนให้กลับคืนสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ในระหว่างการลงพื้นที่ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง และนางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ ยังได้พบปะประชาชนในพื้นที่ เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะ พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่ในการบรรเทาความเดือนร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน
ส่วนกรณี คำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในเรื่องของปราสาทตาควาย ยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาคที่ 2 พูด ไม่ได้ มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลัง เพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา
สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ จึงได้ทำการวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร
แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสม พร้อมกล่าวว่า จะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงเจรจาในกรอบการประชุม RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม
ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่อง การใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามที่มีการยั่วยุ และมีการวางแผน ใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควายอย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด