ส.ข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ร่วมประชุมกับ บช.น.เพื่อกำหนดแนวปฏิบัติของสื่อฯภาคสนาม กับการชุมนุมฯ
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นางอุษา มีชารี อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ได้นำคณะตัวแทนสมาคมนักข่าว ประกอบด้วย นายชำนาญ ไชยศร อุปนายกฝ่ายกิจกรรมพิเศษ กรรมการสมาคมนักข่าว ฯ นายวิษณุ นุ่นทอง กรรมการสมาคมนักข่าวฯและอนุฯฝ่ายสิทธิ์ นายสุเมธ สมคะเน เลขาธิการสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย และคณะอนุกรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ และดร. โศภชา เอี่ยมโอภาส อนุฯฝ่ายสิทธิ์ เดินทางเข้าพบ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รองผบช.น. และ พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา
เพื่อทำความเข้าใจแนวทางการปฎิบัติร่วมกันต่อการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน กรณีกลุ่มมวลชนในนาม "คณะรวมพลังปกป้องอธิปไตย" นัดชุมนุมใหญ่เรียกร้องให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง ในวันที่ 28 มิถุนายน 2568 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
โดยนางอุษา กล่าวภายหลังการหารือว่า ได้รับมอบหมายให้นำแนวปฏิบัติของ 6 องค์กรสื่อประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ที่ได้เคยออกแนวปฏิบัติไว้โดยเน้นในเรื่องสัญลักษณ์ปลอกแขน ที่ออกให้โดยศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนในสถานการณ์การชุมนุม (ศปสช.) จัดตั้งขึ้นโดยองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนองค์กรวิชาชีพสื่อ 6 องค์กร ในการปฏิบัติหน้าที่พื้นที่ที่มีการชุมนุม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ ว่า มีลักษณะ "สีฟ้า" ทาบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาวว่า "PRESS" มีแถบสะท้อนแสงสีเทา ปลอกแขนจะมีตัวเลข (Serial Number) ที่บ่งบอกว่า เป็นนักข่าวสังกัดสำนักข่าวใด สามารถตรวจสอบความได้
ทั้งนี้ ปลอกแขนสำหรับสื่อมวลชนดังกล่าว ใช้ในการลงพื้นที่ทำข่าวการชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลที่สื่อมวลชนหลายประเทศพึงใช้ที่ต้องการเสรีภาพในการทำข่าวการชุมนุม ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับปลอกแขนไม่ได้มีสิทธิพิเศษมากกว่าบุคคลทั่วไป กรณีมีการใช้ปลอกแขนผิดจุดประสงค์ หรือกระทำผิดซึ่งหน้า ถือเป็นความผิดตามกฎหมายที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง
จากการหารือกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บชน.)ครั้งนี้ ได้แนวทางปฏิบัติร่วมกันดังนี้ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะช่วยอำนวยความสะดวกให้สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวของสื่อมวลชนได้อย่างอิสระ แต่หากมีเหตุการณ์เพิ่มระดับไม่ปลอดภัย จะมีการประกาศให้ทราบทุกครั้งก่อนปฏิบัติการในแต่ละขั้นตอนตามข้อบังคับของกฎหมาย ทางบชน.ได้ขอให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าวการชุมนุม ต้องสวมปลอกแขนสื่อมวลชนที่ 6 องค์กรสื่อได้ออกให้ขณะปฏิบัติหน้าที่ เพื่อความชัดเจน
นางอุษา กล่าวอีกว่า สำหรับสื่อมวลชนผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ยังไม่ได้ปลอกแขน ให้ทางสำนักงานต้นสังกัดตรวจสอบและขอตามหลักเกณฑ์ที่ 6 องค์กรสื่อได้กำหนดไว้แล้ว เพื่อการตรวจสอบตัวตนและป้องกันการแอบอ้าง ปัจจุบันนี้มีองค์กรสื่อมวลชนที่ได้ติดต่อ ลงทะเบียนและขอรับปลอกแขนไปแล้วจำนวน 995 ชิ้น 88 องค์กร ทั้งนี้อยากให้สำนักข่าวที่รับไปแล้ว สำรวจเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าปฏิบัติหน้าที่และความปลอดภัยของบุคลากรในองค์กรสื่อเอง
“กรณีที่มีการสูญหาย หรือชำรุดเสียหาย ต้นสังกัดนั้นๆ ต้องดำเนินการแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน และนำแจ้ง ศปสช. หรือสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ให้ทราบโดยทันที เพื่อป้องกันบุคคลผู้ไม่หวังดีนำปลอกแขนสัญลักษณ์สื่อไปใช้นอกเหนือจากการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนในทำนองการกระทำผิดกฎมาย”นางอุษา กล่าว
สำหรับสื่อมวลชนองค์กรใดที่ประสงค์ขอรับปลอกแขนให้สำนักข่าว/ต้นสังกัด ออกหนังสือรับรองการเป็นพนักงานของสื่อมวลชน ที่มีความจำเป็นลงพื้นที่รายงานข่าวการชุมนุม โดยมีรายละเอียดที่ต้องระบุ คือ ชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้ อีเมล และไอดี Line ระบุในเอกสารรับรอง จัดส่งเอกสารทางอีเมล์สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย tjareporter@gmail.com เพื่อผู้ปฏิบัติหน้าที่สื่อมวลชนจะได้รับความไว้วางใจจากเจ้าหน้าที่และผู้ร่วมชุมนุม ว่าเป็นผู้ที่เข้าไปทำหน้าที่ในฐานะสื่อมวลชนตามจริยธรรมวิชาชีพ ไม่ได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของคู่ขัดแย้งไม่ว่าฝ่ายใดก็ตาม